พลาดก็ยังแชมป์…Verstappen หวดแซงกระจาย จนคว้าแชมป์ได้อีก ในศึกรถแข่ง F1 2022 สนามที่ 19 ที่สหรัฐฯ

Max Verstappen ยังไร้เทียมทาน ขนาดทีมงานเปลี่ยนยางพลาด จนทำให้เสียเปรียบคู่แข่ง แต่ก็ยังขับไล่จนแซงได้หมดทุกคัน คว้าแชมป์สนามพ่วงแชมป์โลกในฐานะทีมผู้สร้างไปอีกตำแหน่ง ศึกรถสูตร 1 หรือ F1 สนามที่ 19 ในสหรัฐฯ

การแข่งขันรถสูตร 1 (F1) ก้าวเข้าสู่สนามที่ 16 กับรายการ FORMULA 1 ARAMCO UNITED STATES GRAND PRIX 2022 ที่สนาม Circuit of The Americas ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการแข่งขันรอบคัดเลือกนั้น Carlos Sainz ของทีม Ferrari ทำเวลาได้ดีที่สุด คว้าตำแหน่ง Pole-Position ไป ตามมาด้วย Charles Leclerc เพื่อนร่วมทีม แต่สนามนี้เขาเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เกินกำหนด จนต้องโดนปรับกรดไปออกตัวในอันดับที่ 12 ทำให้  Max Verstappen ของทีม Red Bull Racing ที่ทำเวลาดีที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ขยับมาออกตัวในอันดับที่ 2 และ Lewis Hamilton ของทีม Mercedes ขยับขึ้นมาออกตัวในลำดับที่ 3 แทนที่ของ Sergio Perez ทีม Red Bull Racing ที่ทำเวลาในรอบคัดเลือกได้อันดับที่ 4 แต่มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เกินกำหนดในสนามนี้ ถูกปรับ 5 อันดับไปออกตัวในอันดับที่ 9 แทน

• เมื่อไฟปล่อยตัวดับลง Verstappen ออกตัวได้ดีกว่า พุ่งออกนำได้ในโค้งแรก ส่วน Sainz พลาดไปหมุนในโค้งจากการโดน George Russell ของทีม Mercedes ชนกลางลำ หลุดอันดับไปช่วงท้ายแถว และสุดท้ายก็ต้องออกจากการแข่งขันไป ทำให้ Hamilton ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ส่วนอันดับที่ 3 เป็น Lance Stroll ของทีม Aston Martin  ที่แทรกตัวขึ้นมาได้ 
• รอบที่ 5 Russell ใช้จังหวะที่เปิด DRS ได้ แซง Stroll ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ได้ พร้อมกับการประกาศปรับเวลาทำโทษเขา 5 วินาที หลังจากไปชน Sainz ในรอบแรก
• รอบที่ 13 Hamilton เข้ามาเปลี่ยนยางเป็นคันแรกในกลุ่มนำ ออกมาอยู่ที่ 7 ทำให้ Perez ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3
• รอบที่ 14 Red Bull Racing เรียก Verstappen เข้ามาเปลี่ยนยาง ออกมาอยู่อันดับที่ 2 รอบนี้ Perez ขึ้นเป็นผู้นำ ส่วน Russell ก็เปลี่ยนยางในรอบนี้เช่นกัน พร้อมรับโทษปรับ 5 วินาทีไปเลย ออกมาอยู่อันดับที่ 9
• รอบที่ 15 Perez เข้ามาเปลี่ยนยาง ออกมาอยู่อันดับที่ 6 ทำให้ Verstappen ขยับกลับมาเป็นผู้นำ ส่วน Leclerc และ Stroll ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนยาง ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2-3 ไปก่อนชั่วคราว
• รอบที่ 16 Stroll เข้ามาเปลี่ยนยาง ทำให้ Hamilton ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3

• รอบที่ 19 รถของ Valtteri Bottas ทีม Alfa Romeo หลุดโค้งลงบ่อกรวด ต้องออกจากการแข่งขัน ทำให้กรรมการเรียก Safety Car ออกมา เพื่อนำรถออกจากแทรค เป็นจังหวะที่หลายคันที่ยังไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนยางได้เข้า Pit นั่นรวมถึง Leclerc ด้วยเช่นกัน ทำให้ Hamilton ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 และ Perez เป็นอันดับที่ 3
• รอบที่ 22 กรรมการเคลียสนามเสร็จ ปล่อยกลับมาให้แข่งกันใหม่อีกรอบ และยังไม่ทันได้วิ่งครบรอบ ก็เกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง เมื่อ Fernando Alonso ของทีม Alpine พยายามแซง Stroll แต่โดนขยับมาบัง ขนทำให้ชนท้ายกันจนรถของ Stroll ไปต่อไม่ได้ ต้องออกจากการแข่งขันไป ส่วนรถของ Alonso นั้น ปีกหน้าพังเสียหาย ต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ก็ยังเอารถขยับเข้ามาแข่งต่อได้ 
• รอบที่ 26 กรรมการปล่อยกลับมาแข่งใหม่อีกครั้ง
• รอบที่ 30 Leclerc อาศัยจังหวะที่รถตัวเองเปิด DRS ได้ แซง Perez ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ได้แล้ว
• รอบที่ 35 Mercedes เรียก Hamilton ทำ Undercut เข้ามาเปลี่ยนยางให้ไล่ตำแหน่งใหม่ ออกมาอยู่ที่ 6 ทำให้ Leclerc ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 และ Perez เป็นลำดับ 3
• รอบที่ 36 Red Bull Racing ไม่รอช้า เรียก Verstappen เข้ามาเปลี่ยนยางบ้าง เช่นเดียวกับ Ferrari ที่เรียก Leclerc เข้ามาเปลี่ยนยางพร้อมกัน แต่ทีมงานเปลี่ยนยางพลาด ช้าไปหลายวินาที ทำให้ออกมาวิ่งตามหลังทั้ง Hamilton และ Leclerc โดยในรอบนี้ Perez วิ่งเป็นผู้นำชั่วคราว ตามมาด้วย Vettel และ Hamilton
• รอบที่ 39 Perez ถูกเรียกเข้ามาเปลี่ยนยาง ออกมาอยู่ที่ 5 ทำให้ Sebastian Vettel นักแข่งทีม  Aston Martin ขึ้นมาเป็นผู้นำแทน และในรอบนี้ Verstappen ได้จังหวะเปิด DRS ช่วงทางตรง แซง Leclerc ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 แทน ตามหลัง Hamilton อยู่แค่ประมาณ 4 วินาที
• รอบที่ 41 Hamilton แซง Vettel ขึ้นมาเป็นผู้นำได้แล้ว
• รอบที่ 42 Vettel เข้ามาเปลี่ยนยาง ออกมาอยู่อันดับที่ 13 ทำให้ Verstappen ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 และ Leclerc ตามมาเป็นอันดับที่ 3
• รอบที่ 50 หลังจากไล่ตามมาหลายรอบ ในที่สุด Verstappen ก็ใช้จังหวะเปิดปีก DRS เร่งแซง Hamilton ในทางตรง จนขึ้นมากลับมานำฝูงได้อีกครั้งแล้ว 

สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครจะมารั้ง Verstappen ให้หยุดเป็นแชมป์ได้ เข้าเส้นชัยไปได้เป็นคันแรก พร้อมรับตำแหน่งแชมป์โลกในฐานะทีมผู้สร้างไปด้วย โดยเจ้าตัวนั้นมอบชัยชนะครั้งนี้ให้แก่ Dietrich Mateschitz ผู้บริหารใหญ่สุดของทาง Red Bull ที่เพิ่งเสียชีวิตไปในช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วนอันดับที่ 2 ตกเป็นของ Hamilton ที่สนามนี้ขับใกล้เคียงในการคว้าแชมป์ได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้แล้ว ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของ Leclerc ที่เริ่มต้นการแข่งขันจากลำดับที่ 12

สรุปผลการแข่งขันรายการ FORMULA 1 ARAMCO UNITED STATES GRAND PRIX 2022

อันดับ	นักแข่ง	ทีม	คะแนน
1	Max Verstappen	Red Bull Racing RBPT	25
2	Lewis Hamilton	Mercedes	18
3	Charles Leclerc	Ferrari	15
4	Sergio Perez	Red Bull Racing RBPT	12
5	George Russell	Mercedes	11
6	Lando Norris	McLaren Mercedes	8
7	Sebastian Vettel	Aston Martin Aramco Mercedes	6
8	Kevin Magnussen	Haas Ferrari	4
9	Yuki Tsunoda	AlphaTauri RBPT	2
10	Esteban Ocon	Alpine Renault	1
11	Zhou Guanyu	Alfa Romeo Ferrari	0
12	Alexander Albon	Williams Mercedes	0
13	Pierre Gasly	AlphaTauri RBPT	0
14	Mick Schumacher	Haas Ferrari	0
15	Fernando Alonso	Alpine Renault	0
16	Daniel Ricciardo	McLaren Mercedes	0
17	Nicholas Latifi	Williams Mercedes	0

*Carlos Sainz, Valtteri Bottas และ Lance Stroll ไม่จบการแข่งขัน

**George Russell รับคะแนนพิเศษ 1 คะแนนจากการทำ Fastest Lap

ตารางคะแนนสะสมนักแข่ง การแข่งขัน F1 ฤดูกาล 2022

อันดับ	นักแข่ง	ทีม	คะแนน
1	Max Verstappen	Red Bull Racing RBPT	391
2	Charles Leclerc	Ferrari	267
3	Sergio Perez	Red Bull Racing RBPT	265
4	George Russell	Mercedes	218
5	Carlos Sainz	Ferrari	202
6	Lewis Hamilton	Mercedes	198
7	Lando Norris	McLaren Mercedes	109
8	Esteban Ocon	Alpine Renault	78
9	Fernando Alonso	Alpine Renault	71
10	Valtteri Bottas	Alfa Romeo Ferrari	46
11	Sebastian Vettel	Aston Martin Aramco Mercedes	36
12	Daniel Ricciardo	McLaren Mercedes	29
13	Kevin Magnussen	Haas Ferrari	24
14	Pierre Gasly	AlphaTauri RBPT	23
15	Lance Stroll	Aston Martin Aramco Mercedes	13
16	Mick Schumacher	Haas Ferrari	12
17	Yuki Tsunoda	AlphaTauri RBPT	12
18	Zhou Guanyu	Alfa Romeo Ferrari	6
19	Alexander Albon	Williams Mercedes	4
20	Nicholas Latifi	Williams Mercedes	2
21	Nyck De Vries	Williams Mercedes	2
22	Nico Hulkenberg	Aston Martin Aramco Mercedes	0

ตารางคะแนนสะสมทีมผู้สร้าง การแข่งขัน F1 ฤดูกาล 2022

อันดับ	ทีม	คะแนน
1	Red Bull Racing RBPT	656
2	Ferrari	469
3	Mercedes	416
4	Alpine Renault	144
5	McLaren Mercedes	138
6	Alfa Romeo Ferrari	52
7	Aston Martin Aramco Mercedes	51
8	Haas Ferrari	38
9	AlphaTauri RBPT	36
10	Williams Mercedes	8

ข้อมูลและภาพจาก F1