Nissan ถึงจุดวิกฤต อาจต้องขายสำนักงานใหญ่ที่โยโกฮามา

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 27 พ.ค. 68 20:50
  • 1,015 อ่าน

สถานการณ์ของ Nissan กำลังอยู่ในภาวะตึงเครียดขั้นสุด หลังเผชิญกับวิกฤตการเงินต่อเนื่อง และซ้ำเติมด้วยภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศใช้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ล่าสุดมีรายงานว่า Nissan อาจจำเป็นต้องขายสำนักงานใหญ่ในเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อประคองธุรกิจไม่ให้ล้ม

Nissan

ตามรายงานของ Nikkei Asia Nissan ได้บรรจุสำนักงานใหญ่แห่งนี้ไว้ในรายชื่อสินทรัพย์ที่เตรียมขายภายในเดือนมีนาคม 2026 โดยอาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานีโยโกฮามาและมีมูลค่าประเมินสูงกว่า 100,000 ล้านเยน หรือราว 698 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การขายอาคารนี้อาจช่วยระดมทุนสำหรับแผนปิดโรงงาน 7 แห่งจากทั้งหมด 17 แห่งทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า Nissan จะดำเนินการอย่างไรต่อหลังการขาย หนึ่งในทางเลือกที่เป็นไปได้คือการขายแล้วเช่าคืน เช่นเดียวกับที่ McLaren เคยทำกับสำนักงานใหญ่ที่อังกฤษ ซึ่งขายไปกว่า 237 ล้านดอลลาร์ก่อนทำสัญญาเช่าระยะยาวเพื่อใช้งานต่อ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงคือผลกระทบจากภาษีนำเข้ารถยนต์ที่สหรัฐฯ กำหนด ซึ่งญี่ปุ่นกำลังพยายามเจรจาลดหรือเลื่อนภาษีออกไป โดยอ้างอิงถึงความสำเร็จของสหราชอาณาจักรและจีนที่สามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวกับสหรัฐฯ ได้

Nissan

มาซานาริ คาตายามะ ประธานสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น (JAMA) ยืนยันว่ารัฐบาลญี่ปุ่นยังคงเดินหน้าผลักดันการเจรจาเพื่อลดภาษีให้เร็วที่สุด แต่ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าภาระภาษีที่เกิดขึ้นจะถูกแบ่งให้ใครรับผิดชอบระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนหรือผู้ผลิตรถยนต์

“เรายังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะจัดการกับภาษีของทรัมป์อย่างไร และยังไม่มีการหารือแน่ชัดว่าภาระส่วนใดจะตกที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนหรือผู้ผลิตรถ” คาตายามะกล่าว “เราอยู่ในเรือลำเดียวกัน”

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดให้คำปรึกษาทางการเงินและการซัพพลายเชนแก่ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาษีครั้งนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าเส้นทางรอดของ Nissan จะยืดออกไปได้ไกลแค่ไหนหากต้องสูญเสียสำนักงานใหญ่ที่เคยเป็นหัวใจของบริษัทมาเกือบสองทศวรรษ

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ