2021 Mercedes-Benz A-Class ทางเลือกใหม่เก๋งเล็กหรู ประกอบไทย ค่าตัวถูกลง เริ่ม 1.99 ล้านบาท
- โดย : Autodeft
- 16 พ.ย. 63 00:00
- 19,436 อ่าน
ทำตลาดมา 1 ปี จนได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกรถหรูสำหรับ Mercedes-Benz A-Class เก๋งซีดานตัวเล็กในรหัส V177 ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว คล่องตัวเหมาะสำหรับคนเมืองอย่างแท้จริง
แต่ปีนี้กลับมาอีกครั้งด้วยเวอร์ชั่นประกอบในประเทศไทยและทำราคาที่ถูกลงกว่าเดิมในชื่อ Mercedes-Benz A 200 ทั้งรุ่น Progressive และ AMG Dynamic ภายนอกคล้ายกับ รุ่นนำเข้า สำหรับรุ่น AMG Dynamic หล่อด้วยฝากระจังหน้าแบบ diamond radiator grille ที่ประกอบด้วยเส้นเดี่ยวแนวนอน และ ตราสัญลักษณ์ของ Mercedes-Benz ตรงกลาง สีเงิน ดึงดูดใจแบบ AMG ตัดทอนเส้นสายและช่องว่างให้มีน้อยที่สุด ถือเป็นการผสมผสานระหว่างดีไซน์คลาสสิกของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ และความปราดเปรียวเร้าใจได้อย่างลงตัวกระจกมองข้างนั้นอยู่ในระนาบเดียวกับขอบล่างของกระจกห้องโดยสารพอดี นอกจากนั้นยังมีล้อขนาด 18 นิ้ว แบบ 5 ก้านคู่ พร้อมยาง 225/45 R18 และโคมไฟหน้าแบบ LED High Performance ที่มีความ เพรียวบาง และกรอบเคลือบโครเมี่ยมที่ทำงานร่วมกับไฟส่องสว่างขณะขับขี่ตอนกลางวันแบบ LED ที่มีลักษณะคล้ายคบเพลิง รวมถึงชุดไฟ LED ตั้งแต่กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้า ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่ 3
ส่วนรุ่นใหม่ Progressive ลดความสปอร์ตเหลือแต่ความเรียบง่าย ด้วยกระจังหน้าแบบ diamond radiator grille พร้อมตราโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ล้ออัลลอยลดขนาดเหลือ 17 นิ้ว แบบ 10 ก้าน พร้อมยาง 205/55 R17ส่วนไฟหน้าและไฟท้ายเหมือนกับรุ่น AMG Dynamic แบบ LED High Performance ร่วมกับไฟส่องสว่างขณะขับขี่ตอนกลางวันแบบ LED ที่มีลักษณะคล้ายคบเพลิง รวมถึงชุดไฟ LED ตั้งแต่กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้า ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่ 3 และไร้ขุดแต่ง AMG
ภายในเหมือนเวอร์ชั่นนำเข้าตั้งแต่พวงมาลัยตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มด้วยหนัง nappa เพื่อเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO / DINAMICA microfibre ทั้งหมด โดยเบาะที่นั่งด้านคนขับจะมาพร้อมหน่วยบันทึกความจำ ในรุ่น AMG Dynamic ส่วนรุ่น Progressive จะใช้พวงมาลัยตกแต่งหุ้มด้วยหนัง เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO เบาะที่นั่งด้านคนขับจะมาพร้อมหน่วยบันทึกความจำทั้งสองรุ่น เบาะด้านหลังยังสามารถพับได้แบบ 40:20:40 รูปลักษณ์ของแผงหน้าปัดมีความล้ำสมัยด้วยฝาครอบทรงปีกนกที่ทอดยาวตั้งแต่ประตูหน้า ผ่านคอนโซลกลางอย่างไร้รอยต่อเชื่อมไปจนถึงแผงหน้าปัดใหม่หมดแบบ Dual Screen Cockpit ด้วยหน้าจอ 2 ขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว แบบ2 หน้าจอ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น AMG Dynamic ส่วนรุ่น Progressive แบบ Dual Screen Cockpit ด้วยหน้าจอ 2 ขนาดใหญ่ขนาด 7 นิ้ว สำหรับมาตรวัดและ 10.25 นิ้วสำหรับจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ โดยหน้าจอทั้งสองจะอยู่ติดกันและมีลักษณะลอยตัวแบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วน คือ แผงหน้าปัดสำหรับแสดงมาตรวัดต่างๆ
ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ Widescreen ขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นหน้าจออินโฟเทนเมนต์ที่ใช้ระบบสัมผัส (Touchscreen) นอกจากนี้ยังมีระบบ infotainment รุ่นใหม่ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) พัฒนาขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย และสามารถจดจำลักษณะการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของได้ โดย จะทำงานร่วมกับบริการ Mercedes me connect ทำให้การเชื่อมต่อระหว่าง ลูกค้า ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงการบริการอื่นๆ เป็นไปอย่างสะดวกและง่ายดายมากขึ้น อีกทั้งยังมีความสามารถใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นการจากทำงานร่วมกันของสองระบบนี้อีกมากมาย เช่น การสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับการสั่งการด้วยภาษาพูดอย่างเป็นธรรมชาติ (Natural speech recognition) ทำให้ระบบเข้าใจภาษาอังกฤษในหลายสำเนียงได้ เพียงแค่พูด คำว่า ‘Hey, Mercedes’ เพื่อเริ่มต้นการทำงาน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาธิกับการขับรถได้ มากขึ้นระหว่างการสั่งการระบบ เป็นต้น” พร้อมระบบนำทาง
ผลลัพธ์ที่ได้คือ มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่หลากหลายขึ้น และความสะดวกสบายที่มากขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ บริการ Mercedes me connect มาพร้อมฟังก์ชันอันโดดเด่นมากมายที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเพิ่มบริการ และฟังก์ชันต่างๆ ตามต้องการได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน อาทิ
• Mercedes-Benz emergency call system ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชน เซ็นเซอร์ ของระบบนี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ และส่งตำแหน่งของรถยนต์ให้กับศูนย์ช่วยเหลือทันที
• Vehicle Monitoring เจ้าของรถยนต์สามารถเช็คตำแหน่งล่าสุด หรือเส้นทางการขับขี่ของรถยนต์ได้ผ่านแอปพลิเคชั่นของ Mercedes me connect ได้
• Vehicle Set-up ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสภาพรถยนต์ได้จากระยะไกล โดยเซ็นเซอร์ที่ อยู่ในรถจะตรวจสอบสภาพของรถยนต์ในขณะนั้น และส่งเป็นข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่นฯให้ทั้งผู้ขับขี่ และศูนย์ซ่อมบำรุงสามารถเปิดดูรายละเอียดข้อมูลสถานะต่างๆ ได้
• Maintenance Management ระบบนี้จะช่วยเตือนเมื่อถึงเวลานำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ โดยจะตั้งวัน และเวลาเข้ารับบริการในครั้งต่อไปให้อัตโนมัติ
• Online Booking ฟังก์ชั่นสำหรับการนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการต่างๆ จาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว
รื่นรมย์ตลอดการเดินทางด้วยระบบไฟภายส่องสว่างในห้องโดยสาร ambient lighting ที่สร้างบรรยากาศให้เลือกถึง 64 สี ที่ช่วยขับเน้นเอกลักษณ์นี้โดดเด่นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถผสมสีสันต่างๆ เพิ่มเป็นสีพิเศษ ได้อีก 10 สีสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครในรุ่น AMG Dynamic และห้องเก็บสัมภาระด้านหลังมีปริมาตร 420 ลิตร ช่องกระโปรงหลัง มีขนาดกว้าง 950 มิลลิเมตร และมีระยะเส้นทแยงมุมจากตัวล็อกถึงขอบล่างของกระจกหลัง ถึง 462 มิลลิเมตร ช่วยให้ใส่หรือนำสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ออกได้อย่างสะดวก
ขุมพลังสำหรับตลาดเมืองไทยเป็น เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.3 ลิตร รหัส M282 163 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620-4,000 รอบ/นาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7G-DCT ขับหน้า ระบบความปลอดภัย มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีในรถยนต์รุ่นก่อนหน้ามากมาย เช่น ระบบช่วยหยุดรถ (Active Brake Assist) ที่ได้รับพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นโดยสามารถ ลดความเสียหายหรือป้องกันการพุ่งชนกับรถยนต์ข้างหน้าที่ใช้ความเร็วต่ำกว่า กำลังชะลอ หรือแม้แต่รถที่จอดอยู่ข้างหน้าได้ และยังช่วยป้องกันไม่ให้รถเฉี่ยวชนกับผู้ที่ข้ามถนนหรือผู้ใช้จักรยานได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่มาพร้อมกับระบบช่วยจอดพร้อมกล้องหลัง (reversing camera) ที่จะช่วยให้การถอยจอดง่ายขึ้นอีกด้วย โดยมีราคาดังนี้
- Mercedes-Benz A 200 Progressive ราคา 1,990,000 บาท
- Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ราคา 2,150,000 บาท
คลิ๊กชม Gallery Mercedes-Benz A-Class Sedan ได้ที่นี่ !!
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com