GWM เปิดสเปกรถกระบะ NEW GWM POER SAHAR DIESEL ใหม่ ก่อนเปิดราคาในงาน Motor Expo 2025 นี้

GWM (Thailand) พร้อมเผยสเปคก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ NEW GWM POER SAHAR DIESEL รถกระบะสมรรถนะสูงขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด

NEW GWM POER SAHAR DIESEL มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ถ่ายทอดพลังอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองฉับไว มั่นใจได้ทั้งการใช้งานจริงและการเดินทางไกล โดดเด่นด้วยมิติตัวรถยาว 5,445 มิลลิเมตร กว้าง 1,991 มิลลิเมตร สูง 1,924 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,350 มิลลิเมตร พร้อมลุยทุกสถานการณ์ด้วยระยะความสูงใต้ท้องรถ 224 มิลลิเมตร และความสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มิลลิเมตร เติมความสปอร์ตด้วยกระจังหน้าสีดำ ราวหลังคาและบันไดข้างสีดำ กรอบหน้าต่างสีดำ ไฟหน้าและไฟท้ายแบบรมดำ พร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว จับคู่ยาง 265/60 R18 ที่รับกับดีไซน์ภายนอกอย่างลงตัว

NEW GWM POER SAHAR DIESEL มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่

NEW GWM POER SAHAR DIESEL รุ่น 2.4T PRO DOUBLE CAB AUTO
NEW GWM POER SAHAR DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA DOUBLE CAB AUTO
NEW GWM POER SAHAR DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD

พร้อมตัวเลือกสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ และสีเทา

NEW GWM POER SAHAR DIESEL ทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศ และเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) มอบพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องเพียง 
1,500 – 2,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบหัวฉีดแรงดันสูง (2,000 บาร์)  มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 14 กิโลเมตรต่อลิตร (2WD) และ 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร (4WD) ตาม Eco sticker วิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง 

ในรุ่น 2.4T PRO และ 2.4T ULTRA ซึ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และในรุ่น 2.4T ULTRA 4WD มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบได้แก่ขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) และ โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตราทดเกียร์ต่ำ (4L) เพื่อรองรับทุกสภาพเส้นทางทั้งบนถนนและออฟโรดอย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent) เฉพาะในรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD

ทั้ง 3 รุ่นติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ซึ่งเป็นระบบเกียร์ที่มีช่วงอัตราทดเกียร์ 8.843 มอบการเปลี่ยนเกียร์และการขับขี่ที่ราบรื่น และสามารถเปลี่ยนเป็นเกียร์ 9 ได้ที่ความเร็วเพียง 90 กิโลเมตต่อชั่วโมง ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถปรับอัตราการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละสภาพถนน และสอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นออกไป

ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่จะช่วยให้ทุกการขับขี่ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย ที่มาพร้อมกับโหมดช่วยผ่อนแรงพวงมาลัยทั้ง 3 โหมด ได้แก่ โหมดเบา โหมดสบาย และโหมดสปอร์ต ที่ช่วยให้สามารถปรับความรู้สึกของพวงมาลัยให้เหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละสภาพการใช้งาน และตอบสนองได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม

การออกแบบภายในของห้องโดยสาร NEW GWM POER SAHAR DIESEL รถกระบะสมรรถนะสูงขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม มาพร้อมภายในสีดำล้วน พร้อมไฮไลท์มากมาย

o    พวงมาลัยพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ที่ให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลิน เพิ่มความสะดวกสบาย ความมั่นใจ และปลอดภัยในทุกการเดินทาง 
o    ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง เพียงแค่กดปุ่มก็สามารถใช้งานระบบเบรกมือไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องออกแรงเยอะ และเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกเพื่อให้รถหยุดนิ่ง ฟังก์ชันหยุดรถอัตโนมัติจะเริ่มทำงาน ทำให้หยุดรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และระบบจะคลายเบรกอัตโนมัติเมื่อ
ผู้ขับขี่เหยียบคันเร่ง 
o    วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์ ให้ความรู้สึกเฟิร์สคลาส และตกแต่งด้วยวัสดุสุดพรีเมียม 
o    ปรับเบาะคนขับแบบไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ปรับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าแบบไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง 
o    พนักพิงเบาะหลังปรับระดับได้ 2 ระดับ (ประมาณ 33 องศา) เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารด้านหลัง
o    พนักพิงเบาะพับได้แบบ 40:20:40 ที่มาพร้อมกับที่พักแขนตอนกลางและที่วางแก้ว 
o    เกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับดีไซน์เรียบหรูบริเวณคอนโซลกลาง
o    กุญแจ Smart Key และระบบ Push start system ช่วยให้ผู้ขับขี่สตาร์ทเครื่องยนต์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นรวม ถึงการเสริมความปลอดภัยและความสะดวกสบายในทุกการขับขี่
o    กระจกไฟฟ้า พร้อมระบบ One-Touch ให้ทุกการปรับกระจกไฟฟ้า เป็นเรื่องง่ายแค่สัมผัสเดียว 
o    หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว
o    ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด ไร้กังวลเมื่อลืมล็อกประตูรถยนต์ด้วยตัวเองในขณะขับขี่
o    ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา

และในรุ่น รุ่น 2.4T ULTRA และ2.4T ULTRA 4WD เพิ่มอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ 

o    ที่บังแดดพร้อมกระจก อำนวยความสะดวกในทุกขณะการเดินทาง และไฟแต่งหน้า 
o    ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง ช่วยอำนวยความสะดวก ในการใช้งานอุปกรณ์
เสริมต่าง ๆ ในตลอดทั้งเส้นทางแบบไม่มีสะดุด ในรุ่น 2.4T PRO มีเฉพาะด้านหน้า 
o    ช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ 
o    ช่องจ่ายไฟสำรอง (220V) 
o    ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบนำทาง (Navigation System) และระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) จดจำเสียงได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดการสัมผัสปุ่มและลดอุบัติเหตุขณะขับขี่ และรองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์แบบไร้สาย (FOTA) เพื่อให้ระบบควบคุมต่าง ๆ ภายในรถยนต์สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและง่ายดาย 

รุ่น 2.4T ULTRA 4WD เพิ่มอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ 
o    ระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า (Electric Rear Diff Lock) อุปกรณ์ที่ติดตั้งบนเพลาท้าย ทำหน้าที่ล็อกเฟืองท้ายให้ล้อทั้งสองฝั่งหมุนด้วยความเร็วเท่ากัน เพื่อเพิ่มแรงฉุดลากเมื่อรถติดหล่มหรืออยู่บนพื้นผิวที่ลื่น 
o    กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ที่ช่วยปรับความสว่างจากไฟหน้ารถที่ขับตามหลังในเวลากลางคืน โดยระบบอัตโนมัติ

ด้านระบบความบันเทิง

•    ลำโพง จำนวน 6 ตำแหน่ง เพิ่มความสุนทรีย์ขณะขับขี่ ให้ทุกการเดินทางของคุณเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น
•    หน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ในรุ่น 2.4T PRO และขนาด 14.6 นิ้ว ในรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD
•    รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, Bluetooth, MP5
•    รองรับ Online Music และ Online Radio ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกที่นั่งได้เพลิดเพลินทั้งการรับชมและการรับฟังได้อย่างเต็มรูปแบบ เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD

มี GWM แอปพลิเคชันอัจฉริยะ DIESEL เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD มาพร้อมกับ การเชื่อมต่อและการควบคุมรถจากระยะทางไกลผ่านแอปพลิเคชัน GWM ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายขั้นสุดให้กับผู้ขับขี่ทุกมิติ ได้แก่ ระบบตรวจสอบสถานะประตูและหน้าต่าง ระบบตรวจสอบสถานะระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ระบบตรวจสอบระยะทางทั้งหมด ได้แก่ ระยะทางวิ่งคงเหลือและปริมาณน้ำมัน ระบบตรวจสอบสถานะอุณหภูมิและแรงดันลมยาง ระบบช่วยเตือนเมื่อสถานะประตูและหน้าต่างห้องโดยสารผิดปกติ ระบบช่วยเตือนเมื่อแบตเตอรี่ 12V ต่ำ ระบบช่วยเตือนเมื่อปริมาณน้ำมันต่ำ ระบบค้นหาตำแหน่งรถยนต์ ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ ระบบล็อกและปลดล็อกประตู ระบบปิดกระจก ระบบเปิดและปิดระบบปรับอากาศ 

ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะมากถึง 26 รายการ (ในแต่ล่ะรุ่นอาจแตกต่างกัน) เพื่อให้ทุกการเดินทางของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเต็มไปด้วยความปลอดภัยและมั่นใจสูงสุด ได้แก่
1.    ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
2.    ระบบติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ Call Center
3.    ระบบติดต่อเบอร์ฉุกเฉิน
4.    กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
5.    ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการเข้าโค้งอัฉริยะ (ACC)
6.    ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
7.    ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
8.    ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
9.    ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
10.    ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
11.    ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
12.    ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
13.    ระบบช่วยเลี่ยงการชนทางด้านข้าง (WDS)
14.    ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (LCA)
15.    ระบบเช่วยตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW)
16.    ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
17.    ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
18.    ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM)
19.    ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน และลงทางลาดชัน (HSA / HDC)
20.    ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
21.    ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (DOW)
22.    เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง
23.    ระบบช่วยเตือนสัญลักษณ์จราจร และการแจ้งเตือนการขับรถเร็วเกินกำหนด 
24.    ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
25.    จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
26.    ระบบล็อกป้องกันเด็ก (Child Safety Lock System)

โครงสร้างตัวถังรถ ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ด้วยคานเหล็กกันกระแทกที่ติดตั้งครบทั้ง 4 ประตู พื้นรถ และหลังคา โดยใช้เหล็กกล้าความแข็งแรงสูงมากกว่า 64.3% ของโครงสร้างทั้งหมด ทนต่อแรงบิดสูงถึง 61,118 นิวตันเมตร/องศา และแรงดัดที่ 26,163 นิวตัน/มิลลิเมตร ขณะที่หลังคาสามารถรับแรงกดได้มากถึง 4.88 เท่าของน้ำหนักตัวรถ ซึ่งสามารถท้าทายแรงกดจากน้ำหนักกว่า 10 ตันได้อย่างง่ายดาย