ครบครันทุกฟังก์ชั่นอัจฉริยะ กับ Ford Everest 2.2L Titanium Plus ใหม่

โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
23 ส.ค. 59
46,748 อ่าน

หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา Ford Everest รถ SUV เจ้าของรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมปี 2558 จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ไทย ได้แนะนำรุ่นใหม่ คือ รุ่น 2.2L Titanium Plus ที่อัดแน่นเทคโนโลยี และสมรรถนะในการขับขี่อย่างเหนือชั้น เพื่อตอบสนองในทุกการเดินทางกับไลฟ์สไตล์ชีวิตทั้งในเมืองและนอกเมือง

Ford Everest 2.2L Titanium Plus อีกหนึ่งรุ่นตัวเลือกจากฟอร์ด ซี่งใส่ฟีเจอร์ที่มีอยู่ในรุ่นท๊อปเข้ามา ทำให้รุ่นนี้มีเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างครบครัน ด้วยภายนอกดีไซน์ล้ำสมัยดูบึกบึนผสานความหรูหรา กระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์พร้อมปรับสูงต่ำอัตโนมัติและไฟตัดหมอก ราวหลังคา สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก สะดวกสบายด้วยระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ หลังคา Panoramic Moonroof ปรับไฟฟ้า เปิดประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง และดุดันด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว

ด้านสมรรถนะการขับขี่ Everest 2.2L Titanium Plus มาพร้อมเครื่องยนต์ ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วีจี เทอร์โบ (Duratorq TDCi VG Turbo) ขนาด 2.2 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดถึง 160 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 385 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ตอบสนองการขับขี่ทั้งนอกเมืองและในเมืองได้อย่างดี ให้ความสามารถในการควบคุมรถอย่างแม่นยำด้วย ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (Electric Power-Assisted Steering หรือ EPAS) ที่จะปรับน้ำหนักอัตโนมัติตามความเร็วเพื่อง่ายต่อการควบคุมและแม่นยำ

ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลที่เหนือกว่า กับช่วงล่างแบบคอยล์สปริงหน้า-หลัง พร้อมวัตต์ลิงค์ที่เพลาหลัง ให้ความนุ่มหนึบตลอดการขับขี่ในสภาพถนนต่างๆ ทั้งยังสามารถเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม และด้วยความสูงถึง 225 มิลลิเมตร ทำให้สามารถลุยไปได้ในเกือบทุกเส้นทางยากเข้าถึง พร้อมความสามารถลุยน้ำลึกถึง 800 มิลลิเมตร

ภายในออกแบบอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด เบาะหนังแท้ให้สัมผัสหรูหรา มอบความสบายกว้างขวางตลอดการเดินทางทั้ง 7 ที่นั่ง และเบาะแถวที่ 3 สามารถพับเรียบได้ด้วยไฟฟ้า ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าเพียงสัมผัสเดียว เน้นการตกแต่งแบบเรียบหรู ครบครันด้วยฟังก์ชั่นอุปกรณ์การใช้งานต่างๆ อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน แผงหน้าปัดให้ข้อมูลพร้อมการควบคุมอย่างครบถ้วน แสดงผลข้อมูลตัวรถต่างๆ ที่ต้องการได้อย่างชัดเจน ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® ครอบคลุมการใช้งานทั้งการโทรศัพท์ อ่านข้อความ เล่นเพลงโปรดโดยไม่ต้องละสายตา แสดงผลและควบคุมได้ผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่ออุปกรณ์ความบันเทิงอื่นๆ ได้ ผ่านช่อง USB ถึง 2 ช่อง และช่อง SD Card อีกทั้งรองรับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นบนมือถือ Apple Car Play และ Android Auto อีกด้วย

Ford Everest 2.2L Titanium Plus ยังมาพร้อมกับระบบอัจฉริยะต่างๆ จัดเต็ม กับ ระบบจอดอัจฉริยะ ให้การจอดทางขนานหมดกังวลไปได้เลย เพียงกดปุ่มระบบก็จะทำงานอัตโนมัติ และเพียงแต่ควบคุมแค่เกียร์ คันเร่ง และเบรก เท่านั้น ตัวรถก็จะเข้าจอดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบบตรวจจับรถในจุดบอดและระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด ก็เป็นอีกหนึ่งระบบเพื่อความปลอดภัยที่ถูกติดตั้งเข้ามา เสมือนเป็นดวงตาคู่ที่สองคอยสังเกตการณ์และเตือนเพื่อความปลอดภัย โดยจะมีไฟเตือนแสดงขึ้นที่กระจกมองข้าง ซึ่งระบบยังสามารถตรวจจับ และคอยเตือนรถยนต์ที่กำลังมา ในขณะที่คุณกำลังถอยรถออกจากช่องจอด หรือในขณะกำลังขับออกจากช่องจอดรถด้วยนั้นเอง กล้องมองหลังขณะถอยจอดช่วยเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) เมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ระบบจะหักพวงมาลัยกลับเล็กน้อยเพื่อให้รถกลับเข้าเลน และหากยังเบี่ยงออกระบบจะเตือนโดยการสั่นที่พวงมาลัย ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ และระบบเตือนการชนด้านหน้า จะทำงานโดยอัตโนมัติช่วยรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัย ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบอัจฉริยะต่างๆ ที่ถูกติดตั้งเข้ามาใน Ford Everest 2.2L Titanium Plus เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด และยังรวมถึงระบบที่ช่วยเหลือขณะขับขี่อีกมากมาย เช่น ABS ระบบป้องกันล้อล็อค EBD ระบบกระจายแรงเบรก ESP ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว HLA ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน เป็นต้น

มาพร้อมตัวเลือกสีตัวรถบ่งบอกตัวตนถึง 6 สี ได้แก่ สีบลู รีเฟล็กซ์ เมทัลลิก (Blue Reflex Metallic) สีขาว คูล ไวต์ (Cool White) สีดำ เจ็ท แบล็ก เมทัลลิก (Jet Black Metallic) สีเงิน อะลูมินัม เมทัลลิก (Aluminium Metallic) สีทอง สปาร์คลิ่ง โกล์ด เมทัลลิก (Sparkling Gold Metallic) และสีแดง ซันเซต เมทัลลิก (Sunset Metallic) โดยภายในมีสีดำและสีเบจ (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก)

Ford Everest 2.2L Titanium Plus มอบประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่าด้วยทางเลือกที่มากกว่า พร้อมสนองตอบต่อความต้องการสูงสุดกับการเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยราคาค่าตัว 1,549,000 บาท สัมผัสและทดลองขับด้วยตัวคุณเอง เพราะความต้องการตัวคุณเองเท่านั้นที่จะรู้ ที่โชว์รูม ฟอร์ด ทั่วประเทศ