The All New Land Rover Defender ใหม่หมด….ตำนานออฟโรดสายลุยแห่งแลนด์โรเวอร์ เริ่ม 5.4 ล้านบาท
- โดย : Autodeft
- 30 มิ.ย. 63 00:00
- 5,824 อ่าน
ในที่สุด อินช์เคป (ประเทศไทย) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว เปิดตัวตำนานใหม่ออฟโรดขาลุยเจเนอเรชั่นใหม่ที่ปรับโฉมใหม่หมดครั้งแรกในรอบ 71 ปี ภายใต้ชื่อ The All New Land Rover Defender ในประเทศไทย
ให้สมกับศตวรรษที่ 21 ด้วยความหลงใหลและความเคารพต่อรถรุ่นดั้งเดิมเป็นแรงผลักดัน ทำให้ The All New Land Rover Defender มอบขีดความสามารถที่พัฒนาต่อได้อย่างไม่สิ้นสุด ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการขับขี่ในทุกภาคพื้นพลิกโฉมการผจญภัย โดยยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกอันเป็นเครื่องหมายประจำตัวของแลนด์โรเวอร์มายาวนาน ภายนอก มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์เด่น แนวนอนพร้อมโลโก้ Land Rover รับกับไฟหน้า Premium LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน signature DRL ลงตัวด้วยฝากระโปรงออกแบบทรงนูนตรงกลาง พร้อมโลโก้ตัวหนังสือ Defender แปะตรงบนฝากระโปรงหน้า กันชนหน้าทรงบึกบึนซ่อนไฟตัดหมอกหน้า หลังคารถดีไซน์ร่วมสมัย ถัดลงมาก็จะพบกับช่องกระจกเล็กๆ ซ้าย-ขวา Alpine Light Window ตรงส่วนหลังคา อีกหนึ่งมรดกตกทอดที่สืบทอดเอกลักษณ์ความเป็นขาลุยรุ่นเก๋าจากอังกฤษ
เสริมความโหดขึ้นอีกระดับด้วยซุ้มล้อดีไซน์เหลี่ยมพร้อมล้อและยางที่มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ กระทะล้อเหล็กสีขาวขนาด 18 นิ้ว ไปจนถึงล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 22 นิ้ว Luna alloys ไฟท้ายแนวตั้งแบบ LED และไฟตัดหมอกหลัง มองชัดทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ฝาท้ายประตูแบบบานพับด้านข้างและแป้นยึดยางอะไหล่นอกตัวรถที่เป็นเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมไว้ซึ่งถือว่าคลาสสิกและอนุรักษ์นิยมเข้าถึงแก่นแท้ความเป็นออฟโรด
การเปลี่ยนแปลงความทนทรหดจากแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ Ladder Frame มาเป็นแบบ Unibody แต่ยังแฝงด้วยความแข็งแกร่งเช่นเดิม โครงสร้างแบบมีโครงในตัวที่เป็นอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา เพื่อสร้างโครงตัวถังที่แข็งแรงที่สุดทนทานกว่าการออกแบบที่เป็นการประกอบตัวถังบนโครงตามปกติสามเท่า
ลูกค้าจะเลือกได้ตั้งแต่ดีไซน์ตัวถังแบบ 3 ประตู ที่ห้องโดยสารแถวหน้า 3 ที่นั่ง หรือแบบ 5 ประตู ที่สามารถเลือกห้องโดยสารแบบ 5+2 ที่นั่ง พร้อมเทคโนโลยีระบบข้อมูลและความบันเทิงด้วย Pivi-Pro แบบใหม่ หน้าจอสัมผัสที่ล้ำสมัยสามารถใช้งานได้ง่าย ยกระดับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านสัญญาณแบบไร้สาย Software-Over-The-Air จะทำให้คุณได้รับซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดตลอดเวลา ด้วยการดาวน์โหลดข้อมูลขณะที่ลูกค้ากำลังนอนหลับอยู่ที่บ้านหรืออยู่ในสถานที่ห่างไกล โดยส่งสัญญาณข้อมูลสำหรับการอัปเดตจะไปยังตัวรถยนต์อัตโนมัติอย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังศูนย์บริการของแลนด์โรเวอร์เลย ตกแต่งภายในที่เป็นสัดส่วนและเน้นคุณสมบัติใช้งาน ทนทาน และปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย มอบความมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครด้วยการเผยให้เห็นส่วนประกอบของโครงสร้างรถ และมาพร้อมกับเบาะเสริมระหว่างเบาะคู่หน้า เหมาะแก่การออกผจญภัยร่วมกับทุกคนในครอบครัว
ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ Ingenium 2.0 ลิตร 240 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 1,400 รอบ/นาที ในรุ่น D240 นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ Ingenium 2.0 ลิตร 200 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 1,400 รอบ/นาที ในรุ่น D200และยังมีเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Ingenium ให้เลือก ตั้งแต่ขนาด 2.0 ลิตร 300 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที ในรุ่น P300 กับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร 400 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 550 นิวตันเมตรที่ 2,000-5,000 รอบ/นาที พร้อมระบบ Mild Hybrid เสริมในเรื่องความประหยัด ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับและแบตเตอรี่แบบ lithium-ion battery ในรุ่น P400 MHEV
ทุกขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD แบบ Terrain Response 2 ที่มีโหมดออฟโรดถึง 6 โหมด เลือกได้ตามเส้นทางที่แตกต่าง ตั้งแต่ โหมดการขับขี่ทางเรียบไฮเวย์ Normal Driving, โหมดลุยน้ำ WADE, โหมดลุยในทางโขดหิน Rock Crawl, โหมดลุยทางโคลนและแอ่งโคลน MUD And Ruts, โหมดลุยทางพื้นหญ้า-กรวด-หิมะ Grass- Gravel- Snow และโหมดลุยพื้นทราย Sand มาพร้อมเกียร์ฝาก 4WD แบบ twin-speed transfer box และ ล็อกเฟืองท้าย Differential Controls
นิยามใหม่ของขีดจำกัดความสามารถให้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะสำหรับการขับขี่ทุกสภาพอากาศ ทุกภูมิประเทศ และยังคงความสบายเมื่อขับขี่บนเส้นทางราบเรียบ ในทุกการเดินทาง ดีเฟนเดอร์ ใหม่ สามารถบรรทุกน้ำหนักสูงสุดถึง 900 กิโลกรัม โดยหลังคารถสามารถรับน้ำหนักสูงสุดขณะจอดนิ่งที่ 300 กิโลกรัมและน้ำหนักสูงสุดขณะขับขี่ที่ 168 กิโลกรัม และความสามารถในการลุยน้ำได้สูงสุดที่ความลึก 900 มิลลิเมตร
The All New Land Rover Defender มีราคาจำหน่ายดังนี้
รุ่น 3 ประตู 90
- 2.0 Litre Ingenium Diesel 200PS S THB 5,400,000
- 2.0 Litre Ingenium Diesel 240PS SE THB 6,000,000
- 2.0 Litre Ingenium Petrol 300PS SE THB 6,000,000
- 3.0 Litre Ingenium Petrol 400PS SE THB 6,600,000
- 3.0 Litre Ingenium Petrol 400PS X THB 8,500,000
รุ่น 5 ประตู 110
- 2.0 Litre Ingenium Diesel 200PS S THB 5,800,000
- 2.0 Litre Ingenium Diesel 240PS SE THB 6,400,000
- 2.0 Litre Ingenium Petrol 300PS SE THB 6,400,000
- 3.0 Litre Ingenium Petrol 400PS SE THB 7,000,000
- 3.0 Litre Ingenium Petrol 400PS X THB 8,900,000
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com