เปิดราคาครบทุกรุ่นย่อยของ Next-Gen Ford Everest ทั้ง 4 รุ่น ในราคาเริ่มต้น 1,334,000 บาท

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 14 ก.ค. 65
  • 14,769 อ่าน

ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดราคาและรายละเอียดทั้ง 4 รุ่นย่อยของ Next-Gen Ford Everest ไม่ว่าจะเป็น Trend, Sport, Titanuim+ 4x2 และ Titanium+ 4x4 โดยตั้งราคาเริ่มต้นเอาไว้ที่ 1,334,000 บาท

Ford Everest

สำหรับรุ่นเริ่มต้น Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ รุ่น Trend มาในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 170 PS และแรงบิด 405 นิวตันเมตร โดยมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง และโหมดทางลื่น ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและออฟโรด ภายในมาพร้อมคอนโซลด้านหน้าที่วางเต็มพื้นที่ มาพร้อมแผงหน้าปัดรถยนต์แบบดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว และจอสีระบบสัมผัส 10.1 นิ้วที่ลูกค้าสามารถใช้งานระบบ SYNC®4A ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto™ ได้ เบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง เพื่อให้ปรับท่านั่งขับรถที่เหมาะสมได้สะดวกสบาย เหมาะสำหรับลูกค้าที่มองหารถยนต์นั่งอเนกประสงค์ในราคาย่อมเยา Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ รุ่น Trend จำหน่ายในราคา 1,334,000 บาท

Ford Everest

สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ รุ่น Sport พร้อมตอบโจทย์ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ตกแต่งแนวสปอร์ตด้วยรายละเอียดสีดำเงาบริเวณมือจับประตู และโลโก้ EVEREST บนฝากระโปรงหน้า โดดเด่นด้วยไฟท้าย LED ที่เป็นเอกลักษณ์ของเอเวอเรสต์ และเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันด้วยประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี ห้องโดยสารภายในเรียบหรู ตกแต่งด้วยเบาะนั่งสีดำลายสปอร์ตที่ปรับได้ 8 ทิศทางทั้งเบาะคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า รุ่นสปอร์ตยังมาพร้อมช่องต่อ USB ที่กระจกมองหลังสำหรับติดกล้อง และอีก 4 ตำแหน่งบริเวณคอนโซลหน้า และเบาะแถวที่ 2 โดย Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ รุ่น Sport จำหน่ายในราคา 1,464,000 บาท

Ford Everest

Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ รุ่น Titanium+ 4x2 มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดแบบ SelectShift มอบกำลังสูงสุด 210 PS และแรงบิด 500 นิวตันเมตร ภายนอกหรูหราโดดเด่นด้วยการตกแต่งแบบพรีเมียม ด้วยราวหลังคาและมือจับประตูโครเมียมสีเงิน บันไดข้างสีดำพร้อมชุุดตกแต่งสีเงิน ไปจนถึงหลังคา Panoramic Moonroof อันเป็นเอกลักษณ์สำหรับรุ่นไทเทเนียมพลัส อีกทั้งยังมีไฟส่องสว่างข้างตัวรถช่วยให้ทราบตำแหน่งที่จอดรถในยามค่ำคืนได้

Ford Everest

ส่วนภายใน บริเวณคอนโซลประกอบไปด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลได้แก่ จอสีขนาด 12.4 นิ้ว และจอสัมผัสขนาด 12 นิ้วพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC®4A ห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาให้หรูหราไปอีกขั้น ด้วยไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารเพื่อบรรยากาศอันสุนทรีย์ โดยเบาะนั่งแถวที่ 3 พับไฟฟ้าได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ ลูกค้าชาร์จอุปกรณ์สื่อสารได้ที่ช่องต่อไฟ 230V ที่คอนโซลกลาง และยังมาพร้อมระบบ Electric Brake Booster ที่รองรับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control รวมถึงอุปกรณ์ปกป้องความปลอดภัยอีกมากมาย ได้แก่

  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go และระบบควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง (Adaptive Cruise Control with Stop-and-Go and Lane Centering)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto high-beam headlamps)
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (Automatic Emergency Braking with Pedestrian Detection)
  • ระบบเดือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning with Brake Support)
  • ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน (Post-Impact Braking)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning)
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System with Cross-Traffic Alert and Braking)
  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา (360-degree camera)
  • ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง (Reverse Brake Assist)
  • ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steer Assist)
  • ระบบตรวจเช็กลมยาง (Tire Pressure Monitoring System)

Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ รุ่น Titanium+ 4x2 จำหน่ายในราคา 1,704,000 บาท

Ford Everest

Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ รุ่น titanium+ 4x4 เป็นรุ่นที่มาพร้อมความสมบุกสมบันครบครัน และความสะดวกสบายเหนือชั้น ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การผจญภัยขั้นสุดด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter 10 สปีด เสริมด้วยระบบ Terrain Management System ที่มอบตัวเลือกการขับขี่ 6 โหมด คือ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง โหมดทางลื่น โหมดโคลน และโหมดทราย พร้อมระบบดิฟล็อคหลังแบบไฟฟ้าเพิ่มความสามารถในการบุกตะลุยในทุกสภาพพื้นผิวได้ดียิ่งขึ้น ไฟหน้า Matrix LED พร้อมระบบปรับมุุมลำแสงไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันไฟรบกวนสายตา มาพร้อมความปลอดภัยอัจฉริยะทั้งระบบควบคุุมความเร็วขณะลงทางชัน (Hill Descent Control) และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 (Fully Automated Active Park Assist) Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ รุ่น Titanium+ 4x4 จำหน่ายในราคา 1,854,000 บาท

Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ มีทั้งหมด 6 สีให้เลือก ได้แก่ สีขาว สโนว์เฟลค ไวท์ เพิร์ล สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก สีดำ แอบโซลูท แบล็ก สีเทา เมทิออร์ เกรย์ สีน้ำตาล อีควิน็อกซ์ บรอนซ์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ นอกจากนี้ รุ่น Sport ยังมาพร้อมสีพิเศษ สีน้ำเงิน บลู ไลท์นิ่ง สำหรับรุ่น Titanium+ ห้องโดยสารภายในเพิ่มตัวเลือกพิเศษสีครีมพราลีน โดยมีสีดำ อีโบนีเป็นสีมาตรฐาน

Ford Everest เจเนอเรชันใหม่ ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่จากโรงงานนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ