ยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย พร้อมเปิดตัวรถบรรทุกมาตรฐานยูโร 5 ตอบสนองนโยบายภาครัฐ ในวันที่ 30 มกราคม 2567 ผ่านช่องทางออนไลน์

  • โดย : PR Autodeft
  • 30 ม.ค. 67
  • 1,367 อ่าน

ยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย เปิดตัวรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ (รถบรรทุกขนาดใหญ่) และ โครเนอร์ (รถบรรทุกขนาดกลาง) มาตรฐานยูโร 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่เพื่อสร้างกำไรให้มากขึ้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสนองนโยบายรัฐบาล ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567

ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น อยู่ในอุตสาหกรรมรถบรรทุกมายาวนานกว่า 89 ปี และเป็นผู้นำในเรื่องของนวัตกรรมในรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์เสมอมา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้ดียิ่งขึ้น และตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลง และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก มาโดยตลอด เช่น  ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่กลายเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี ทางยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น จึงได้มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าในด้านนวัตกรรมลดการปล่อยไอเสียสู่ชั้นบรรยากาศ และได้ดำเนินการผลิตและจัดจำหน่ายรถบรรทุกมาตรฐานยูโร 5 สู่ตลาดต่างประเทศแล้วในหลายประเทศทั่วโลก

มร. อีริค ลาบัท ประธานกรรมการ บริษัท ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ภายใต้แผนดำเนินการนี้ โรงงาน Bangkok plant ของยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ได้ทำการผลิตรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ สำหรับจัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยทำการผลิต และส่งออกรถบรรทุกทั้งยูดี เควสเตอร์ และโครเนอร์ มาตรฐานยูโร 5 ตั้งแต่ปี พศ. 2564 ไปยังประเทศอื่น ๆ อาทิ ประเทศแอฟริกาใต้ ประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง และอื่นๆ

ดังนั้นเราจึงมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่มีสมรรถนะสูงขึ้น และการปล่อยไอเสียที่สะอาดกว่าเดิมสู่ตลาดประเทศไทย โดยใช้เทคโนโลยี Selective Catalytic Reduction – SCR ในการบำบัดมลพิษไอเสีย ซึ่งเป็นการฉีดน้ำยา Adblue เข้าไปในระบบเพื่อทำปฏิกิริยากับก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ในไอเสีย และเปลี่ยนเป็นก๊าซไนโตรเจน และไอน้ำ ก่อนปล่อยออกสู่บรรยากาศ ซึ่งยูดี ทรัคส์ คือผู้ผลิตรถบรรทุกเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยี Selective Catalytic Reduction (SCR) มาใช้ตั้งแต่ปี 2004 ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้คิดค้นและพัฒนาระบบเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถรักษาเครื่องยนต์ให้มีความทนทาน และใช้งานได้อย่างยาวนาน รวมถึงลดต้นทุนการบำรุงรักษารถ และให้สมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มกำลัง”

มร. อีริค กล่าวเพิ่มเติมว่าการนำเสนอรถบรรทุกมาตรฐานยูโร 5 ที่มีการนำเทคโนโลยี SCR มาใช้ จากการทดสอบแล้วในต่างประเทศจะสามารถช่วยลด ไนโตรเจนไดออกไซด์หรือ ก๊าซมลพิษทางอากาศลง 60% และฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับรถบรรทุกในมาตรฐานยูโร 3

หัวข้อ

ประโยชน์ของเทคโนโลยี SCR

 

เพิ่มผลกำไรให้ธุรกิจ

Better efficiency and

optimized TCO

 

·การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

·ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอุปกรณ์กรองเขม่า

(Diesel Particulate Filter)

·ลดค่าบำรุงรักษาด้วยรอบการบำรุงรักษาตามระยะที่เพิ่มระยะขึ้น หรือ Preventive maintenance (PM) เป็นทุก 60,000 กิโลเมตร สำหรับยูดีเควสเตอร์  เครื่องยนต์ 11 ลิตร

 

เพิ่มเวลาวิ่งงานให้ยาวนาน

Better uptime

 

·การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ให้พละกำลังเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มสมรรถนะ

·เครื่องยนต์สะอาด ไม่มีคราบสกปรกจากกระบวนการเผาไหม้ และยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์

 

 

ความยั่งยืน

Better for the environment

 

·ลดมลพิษจากไอเสีย และฝุ่นควัน

·สร้างความยั่งยืนสู่ธุรกิจ อุตสาหกรรมขนส่ง และโลกของเรา

 

นอกจากที่มีเทคโนโลยี SCR ในรถรุ่นมาตรฐานยูโร 5 แล้ว ทางยูดี ทรัคส์ยังได้นำเสนอคุณสมบัติ หรือฟีเจอร์ใหม่ อาทิ เช่น ขุมพลังแรงม้าใหม่ในรุ่นเควสเตอร์ เกียร์กึ่งอัตโนมัติ Escot ที่มีแรงม้า 410 และ 460 แรงม้า ให้เลือก โดยยังคงรักษาจุดเด่นในการให้แรงบิดสูงเป็นช่วงกว้างที่รอบต่ำส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีระบบป้องกันการพลิกคว่ำและลื่นไถลขณะเข้าโค้ง  (Electronic Stability Control - ESC) และ มีสวิตซ์ตัดแบตเตอรี่ 2 จุด (ADR2) ตามมาตรฐานความปลอดภัยเพื่องานขนส่งน้ำมันและวัตถุอันตราย และอื่นๆ

มร. อีริค กล่าวปิดท้ายว่า “ในปีที่ผ่านมา ยูดี ทรัคส์มียอดตัวเลขจดทะเบียนรถบรรทุกสะสมเติบโตขึ้น กว่า 47% และเรามีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จนขณะนี้เรามีตำแหน่งเป็นเบอร์ 3 ของตลาดรถบรรทุกในประเทศไทย เราจึงเชื่อมั่นว่ารถบรรทุกยูดี มาตรฐานยูโร 5 นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดี จากกลุ่มธุรกิจงานขนส่งเช่นกัน และเพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัว เรายังมีข้อเสนอสุดพิเศษมอบให้ลูกค้าที่สนใจทำการจองภายในเดือนกุมภาพันธ์ ถึงพฤษภาคมนี้ จะได้รับฟรีแพ็คเกจการบำรุงรักษาตามระยะ 2 ปี พร้อมด้วยน้ำยา Adblue 1,000 ลิตร สำหรับรถยูดี เควสเตอร์ และ ฟรีแพ็คเกจการบำรุงรักษาตามระยะ 1 ปี พร้อมด้วยน้ำยา Adblue 500 ลิตร สำหรับรถยูดี โครเนอร์ อีกด้วย

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ