สำหรับตลาดในยุโรปค่ายรถต่าง ๆ เรียกได้ว่ากำลังก้าวสู่การจำหน่ายรถไฟฟ้าอย่างจริงจังและหลากหลายรุ่น รวมไปถึงการตอบรับจากลูกค้าที่มีความต้องการใช้งานอย่างรวดเร็ว แต่อาจไม่ได้หมายถึงในตลาดอื่น ๆ ในโลก ซึ่งทาง Tata Motors ได้มองตลาดอินเดียว่าในเวลาห้าปีนี้ สัดส่วนยอดขายรถใหม่จะเป็นรถไฟฟ้าที่ 25%
รายงานล่าสุดเผยตัวเลขยอดขายรถไฟฟ้าจากค่าย XPeng Motors ในเดือนสิงหาคมที่เพิ่งผ่านมา สามารถขายได้ 7,214 คัน ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนถึง 172% นับเป็นอีกเดือนของปี 2021 ที่มียอดสูงสุดอยู่อันดับที่สอง รองจากเดือนกรกฎาคมที่ยังครองสถิติกวาดยอดขายได้สูงสุด
ล่าสุดค่ายรถยนตืนิสสันออกมาประกาศอีกก้าวความสำเร็จกับยอดขายรถใหม่กลุ่มรถไฟฟ้าในยุโรป ที่มียอดขายสะสมแล้ว 250,000 คัน นับตั้งแต่ปี 2011 ที่ Nissan LEAF มีการเปิดตัวลุยตลาดในตอนนั้น ซึ่งยอดส่วนใหญ่เป้นรุ่นใดเป้นไม่ได้นั่นคือ Nissan LEAF ทั้งสองเจนเนอเรชั่นนั้นเอง
ล่าสุดมีรายงานยอดขายรถใหม่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลในยุโรปเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยทาง JATO Dynamics พบว่าจำนวนลดลง 24% จากจำนวน 1.27 ล้านคันปีก่อน เหลือ 967,830 คัน ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดที่มีผลต่อเนื่องมา แต่สำหรับรถกลุ่มไฟฟ้าเสียบปลั๊กนั้นกลับมาสัดส่วนยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่า รถยนต์ที่เราเห็นบนท้องถนนได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ คงต้องบอกว่า Toyota Corolla เป็น 1 ในนั้น ซึ่งถือเป็นโมเดลที่ขายไปทั่วทุกมมุมโลก จนล่าสุดได้มีตัวเลขออกมาว่า รถรุ่นนี้ถูกขายไปได้รวมแล้วกว่า 50 ล้านคัน
รายงานล่าสุดเผยว่ารถไฟฟ้า Tesla Model Y ได้รับการจดทะเบียนใหม่ในสองสัปดาห์มากถึงเกือบ 900 คัน ในเดือนสิงหาคม (ข้อมูล ณ วันที่ 29 สิงหาคม) ซึ่งมากกว่ารถไฟฟ้า EV รุ่นอื่น ๆ โดยรถไฟฟ้า Tesla Model Y นี้ผลิตในจีนและถูกส่งออกมาครั้งแรกมาถึงยังนอร์เวย์
ล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับตัวเลขยอดขายรถใหม่กลุ่มรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กในเนเธอร์แลนด์ กินส่วนแบ่งการตลาด 25% แล้วในเดือน ก.ค. หรือเทียบง่าย ๆ ได้ว่า ทุก ๆ 1 ใน 4 ของรถใหม่ในเนเธอร์แลนด์นั้น หนึ่งในนั้นคือรถไฟฟ้าเสียบปลั๊ก นั้นหมายถึงว่าในตลาดนี้มีศักยภาพไม่น้อยแห่งหนึ่งในยุโรปสำหรับรถไฟฟ้า
ล่าสุดมีการรายงานยอดขายรถใหม่กลุ่มรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กในจีนเดือนกรกฎาคมยังสามารถกวาดยอดขายได้อย่างดี กับยอด 231,000 คัน ที่เติบโตจากปีก่อนมากถึง 143% และต่ำกว่าเดือนก่อนหน้ามิถุนายนเพียงเล็กน้อยราว 4,000 คัน สามารถกินส่วนแบ่งการตลาดของรถ 15% ของรถทั้งหมด และ 12% เป็นรถไฟฟ้าล้วนBEV อีกด้วย แสดงให้เห้นว่าลูกค้ารถไฟฟ้าในจีนมีความนิยมในรถไฟฟ้า 100% มากกว่าในรูปแบบของรถปลั๊กอินไฮบริด
ล่าสุดมีรายงานตัวเลขยอดขายรถใหม่กลุ่มรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กจากค่าย BYD ในจีน เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสามารถกวาดยอดขายรถใหม่ไปได้ 50,057 คัน เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวปีก่อน 263% เลยทีเดียว และสัดส่วนยอดขายรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กคิดเป็น 88% ของยอดขายรถใหม่ของค่าย ซึ่งทั้งหมดขายได้ 56,975 คัน
ล่าสุดทางฮุนไดได้มีการรายงานยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในเดือนกรกฎาคม ปี 2021 ที่เพิ่งผ่านมา ลดลงกว่า 13% อยู่ที่ 137,962 คัน แต่ในกลุ่มของรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กกลับสวนทางเติบโตขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 8.5% ของยอดขายทั่วโลกของฮุนได และยังเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุด 3 เดือนติดต่อกันแล้ว โดยในเดือนนี้นั้นสามารถขายไปได้ 11,742 คัน โตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่ 39% คาดอาจเห็นส่วนแบ่งกลุ่มรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กเพิ่มขึ้นเป
รายงานล่าสุดเผยตัวเลขยอดขายรถใหม่กลุ่มรถไฟฟ้ากับ Wuling Hong Guang MINI EV ที่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมายังสามารถครองตำแหน่งยอดขายรถไฟฟ้าล้วน BEV สูงเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันมา 11 เดือนแล้ว โดยสามารถขายไปได้ 30,706 คัน ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์และผู้ค้าในประเทศอังกฤษ ได้ทำการเปิดข้อมูลยอดขายประจำปี 2021 ใน 7 เดือนแรก ว่า 10 อันดับแรกที่ขายดีมากที่สุดนั้นมีรุ่นไหนบ้าง ลองมาดูกัน
แม้ว่าภาพรวมยอดขายรถใหม่จากฟอร์ดจะลดลงอย่างมากในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ข่าวดีอีกด้านก็คือยอดขายของกลุ่มรถไฟฟ้าต่าง ๆ สามารถขายรวมกันได้เพิ่มสูงขึ้น ที่ 9,103 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 57.5% และมีส่วนแบ่งทางการตลาดใกล้เข้า 8%
ล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับรายงานยอดขายรถใหม่ของค่าย NIO เดือนกรกฎาคม ปี 2021 สามารถกวาดยอดขายรถใหม่รถไฟฟ้าไปได้ 7,931 คัน เติบโตขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนถึง 125% แต่น้อยกว่าสถิติสูงสุดต่อเดือนอยู่ที่กว่า 8,000 คัน ในเดือนมิถุนายน เห็นได้ชัดเจนว่าในปี 2021 นี้ทางค่ายสามารถขายรถใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
เรียกได้ว่ายอดขายรถใหม่รถไฟฟ้าล้วน BEV ในสหรัฐอเมริกาช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมานี้มีปริมาณที่เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบปีต่อปี โดยรายงานเผยว่ายอดขายทะลุ 100,000 คันแล้วเป็นครั้งแรกในช่วงไตรมาสของปีนี้ และตลาดรถยนต์ทั้งหมดนับได้ว่าฟื้นตัวกว่า 50% จากปีก่อน ที่ 4.4 ล้านคัน