กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศจีน (MIIT) ประกาศออกกฎระเบียบใหม่สุดเข้ม สำหรับเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving) โดยมีผลต่อการพัฒนา ทดสอบ และการตลาดของผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศอย่างชัดเจน สร้างแรงกระเพื่อมในอุตสาหกรรมทันที โดยเฉพาะกับค่ายรถที่เน้นพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย
BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน จัดพิธีเปิดตัวระบบช่วยการขับขี่อัจฉริยะรุ่นล่าสุด "God's Eye" โดยประกาศว่าจะติดตั้งระบบนี้ในรถยนต์ทุกรุ่น รวมถึงรถแฮทช์แบ็ค Seagull ที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 69,800 หยวน (ประมาณ 323,000 บาท)
Rivian ผู้ผลิตรถไฟฟ้าชื่อดัง กำลังเร่งพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ โดยมีแผนเปิดตัวระบบช่วยขับขี่แบบ "มือปล่อย" (Hands-Free) ในปี 2025 และระบบ "ตาไม่มองถนน" (Eyes-Off) ในปี 2026
ล่าสุดทาง Waymo ได้เปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติรุ่นที่ 6 ที่สัญญาว่าจะฉลาดกว่า ราคาถูกกว่า และมีความสามารถมากกว่ารุ่นก่อน ปรับปรุงด้านความปลอดภัย และยังทำให้ยานพาหนะสามารถเดินทางในสภาพแวดล้อมใหม่ได้
ช่วง 5 ปีหลังนี้ ถ้าใครได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับเรื่องโลกยานยนต์ คงจะคุ้นเคยกับคำว่า Autonomous car หรือรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่เริ่มมาให้เราเห็นได้บ่อยขึ้นทุกวัน ตามรากศัพท์แล้ว คำว่า Autonomous จะแปลว่า อิสระ ดังนั้น Autonomous car จึงสื่อถึงรถยนต์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ โดยที่ไม่ต้องมีมนุษย์ในการขับเคลื่อนนั่นเอง
ระบบช่วยขับอัตโนมัติ กำลังจะพร้อมให้ใช้งานได้เต็มรูปแบบอย่างแพร่หลายในเร็ว ๆ นี้แน่นอน เพราะมีการทดสอบระบบนี้มาแสดงให้เห็นหลายครั้งจากหลายค่ายแล้ว ล่าสุดก็มีบริษัท Startup แห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ที่ได้โชว์คลิปวีดีโอการทดสอบระบบ ด้วยการขับรถข้ามประเทศ ในระยะทางเกือบ 5,000 กิโลเมตร โดยไม่ต้องจับพวงมาลัยเลย
โตโยต้าไม่รับขายระบบขับอัตโนมัติ ชี้ระบบพร้อมชายเมื่อทดสอบผ่าน 14 พันล้านกิโลเมตร เหตุอยาเรียนรู้พฤติกรรมการใช้านก่อน
นับตั้งแต่ที่ระบบกึ่งขับขี่อัตโนมัติ หรือ ProPILOT ติดตั้งในรถ Nissan Serena MPV ขวัญใจพ่อบ้าน เป็นครั้งแรก รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่จะอัพเกรดระบบให้ทันสมัยขึ้น