Test Drive : รีวิว ทดลองขับ 2021 All New Mazda BT-50 สปอรต์ปิกอัพใหม่หมด หล่อ ล้ำ เท่ สไตล์แกร่ง

  • โดย : Autodeft
  • 19 ธ.ค. 63
  • 9,898 อ่าน

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้วมีข่าวใหญ่ในวงการถยนต์เกิดขึ้น เมื่อ มาสด้า ประกาศจับมือกับพัธมิตรรายใหม่เพื่อร่วมกันพัฒนารถปิกอัพขนาดตันครึ่ง ซึ่งค่ายดังกล่าวไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือ อีซูซู ค่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อันดับต้นๆของโลก จนเป็นข่าวที่ฮือฮากันว่าสองค่ายนี้จะพัฒนารถปิกอัพเจนใหม่มาในรูปแบบไหนและทิศทางใดหวังถูกใจสิงห์รถปิกอัพทั่วโลกและไทย

Mazda BT-50

จน ISUZU เปิดตัว All New ISUZU D-MAX อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ปีที่แล้ว ทำให้ฝาแฝดอย่าง Mazda เปิดตัวตามๆกันมาภายใต้ชื่อ All New Mazda BT-50 และเมืองไทยเป็นที่ๆสองต่อจากออสเตรเลียที่จะได้สัมผัสและครั้งนี้ได้รับเกียรติ์จากทาง มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ร่วมกิจกรรมทดลองขับก่อนจำหน่ายจริงสำหรับปิกอัพเจนเนอเรชั่นที่ 8 นี้เป็นครั้งแรกที่ Mazda ใช้หลักการออกแบบ Kodo Design อันเกรียงไกรจากรถเก๋ง มายัง รถปิกอัพ ผลลัพธ์คือการดีไซน์ที่แยบยล ดุดัน แต่แฝงด้วยความสปอร์ตหรูหราในคันเดียวเพื่อให้เกิดความเรียบง่ายที่สุดในองค์ประกอบโดยรวม เริ่มที่ กระโปรงหน้ารถที่ออกแบบตำแหน่งสูงเล่นระดับทำให้ตัวรถบึกบึนและทรงพลัง มาพร้อมไฟหน้า LED Projector ทรงกระบอก โฉบเฉี่ยวสว่างไสวไปกับ ไฟ LED Daytime พร้อมกระจังหน้ารถแบบซิกเนเจอร์วิงโครเมี่ยมขนาดใหญ่เส้นแนวนอนและมีช่องระบายอากษสในตัวมีปีกซ้าย-ขวาครอบใต้ไฟหน้าสะท้อนความเป็นรถปิกอัพแบบพรีเมี่ยม ทั้งหมดติดตั้งรวมอยู่ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต ฝังด้วยชุดไฟแนวตั้งแต่ไฟเลี้ยว ไฟหรี่ไฟตัดหมอก LED และ สัญญาณกะระยะถอยหลัง 4 จุด

Mazda BT-50

Mazda BT-50

ด้านข้างมีเส้นสายที่คล้ายคลึงกับแฝดผู้พี่ตั้งแต่เส้นสายประตูหน้าจนถึงฝากระบะท้าย แต่เส้นสายข้างล่างชุดประตูกลับมีความต่างกันอย่างชัดเจน พร้อมออพชั่นเด่นไม่ว่าจะเป็นกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เลือกได้ทั้งแบบสีเดียวกับตัวรถและโครเมี่ยม สามารถปรับ-พับได้ด้วยไฟฟ้า ที่เปิดประตูโครเมี่ยมพร้อมปุ่มปลดล็อกประตูสีดำฝั่งที่ก้านเปิดประตูสองข้าง ส่วนเสาอากาศยังเป็นแบบเสาสั้นติดตั้งบนหลังคารถพร้อมราวหลังคาแบบขึ้นรูป ล้ออัลลอยดีไซน์ทูโทน 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 และ ลาย 6 ก้านคู่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 255/65 R17 ซึ่งทั้งสองขนาดใช้ยาง Bridgestone Dueler H/T เป็นของติดรถมา ด้านท้ายดีไซน์เด่นกับไฟท้าย สีขาวแดง แบบฮาโลเจน พร้อมฝาเปิดกระบะท้ายโครเมี่ยมติดตั้งกล้องมองหลัง และตราสัญลักษณ์เด่นทั้งโลโก้ Mazda ตราชื่อ BT-50 หรือตรา 4x4 ที่บ่งบอกว่านี่คือรุ่นท็อปสุด กันชนท้ายขึ้นรูปสีเดียวกับตัวรถดีไซน์กลมกลืนและสัญญาณกะระยะถอยหลัง 4 จุด เช่นเดียวกับด้านหน้า

Mazda BT-50

Mazda BT-50

Mazda BT-50

ภายในถ้ามองภาพรวมอาจคล้ายแฝดผู้พี่ แต่ถ้ามองๆลึกแล้วอาจมีจุดต่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแผงคอนโซลหน้าที่ Mazda ดีไซน์ไม่เล่นระดับหุ้มด้วยวัสดุหนังสัมผัสสีดำ แม้แต่บนคอนโซลหน้าไม่มีฝาปิดขนาดใหญ่ คอนโซลหน้าตกแต่งสีดำผสมวัสดุสีเงินสปอร์ตทั้งแผง ตกแต่งเลือกทั้งแบบสีน้ำตาลเข้มและสีดำ มาตรวัดเรืองแสงดีไซน์หรูพร้อมจอแสดงข้อมูลสี MID ขนาดใหญ่ 4.2 นิ้วอยู่ตรงกลาง ที่บอกทั้ง ระยะทางทริป A กับ B อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน จอแสดงการทำงานวิทยุ และมีนาฬิกาดิจิตอลในตัว ฯลฯ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ดีไซน์จับกระชับมือเหมือนแฝดผู้พี่ หุ้มหนังตกแต่งสีเงินด้าน ซ้ายมือเป็นปุ่มควบคุมวิทยพร้อมปุ่มรับโทรศัพท์ ขวาเป็นปุ่มล็อกความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control ปรับได้ 4 ทิศทาง Tilt & Telescopic สูง-ต่ำและ เข้า-ออก ตามสรีระผู้ขับขี่

Mazda BT-50

Mazda BT-50

Mazda BT-50

ช่องแอร์ออกแบบแตกต่าง 4 จุดพร้อมกรอบช่องแอร์สีเงินเข้มส่วนคอนโซลกลางมีจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว กับ 9 นิ้ว แบบ HD ชัดใสที่ครั้งนี้ตัดช่องใส่ CD ออก เล่นได้ทั้งระบบนำทาง รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมลำโพงรอบคัน 8 ลำโพงรวมลำโพงบนหลังคารถ ที่ให้เนื้อเสียงไพเราะระดับหนึ่งถัดลงมาเป็นเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติที่ครั้งนี้เพิ่มระบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา งานนี้คนขับและคนนั่งไม่ต้องมาแย่งกันปรับอุณหภูมิกันอีกแถมใจดีให้ช่องแอร์ด้านหลังมาด้วยเย็นทั้งคันอย่างแน่นอน และช่องเสียบชาร์จสมารท์โฟน USB 2 จุด ทั้งหน้าใต้คอนโซลกลาง (มีช่องชาร์จไฟ 12 โวลต์) ข้างช่องแอร์หลัง ชุดคันเกียร์มีความแปลกตรงที่ย้ายตำแหน่งบอกเกียร์ไว้ที่หัวเกียร์สีดำเปียโนแบล็คผสมหนังจับกระชับมือล้อมกรอบด้วยสีเงิน พร้อม Shift Lock แบบใช้กุญแจเสียบ บนคอนโซลเกียร์ มีการหุ้มหนังสัมผัส 2 ฝั่ง กลมกลืนกับสีน้ำตาลเข้มและสีดำ รวมถึงกล่องคอนโซลกลางหุ้มหนัง ระบบกุญแจรีโมท Genius Entry แค่เก็บใส่ในกระเป๋า ก็สามารถสั่งปลดล็อกได้อย่างง่ายดายด้วยการกดปุ่มเล็กๆในก้านประตูและปุ่ม Push Start ตามสมัยนิยม มาพร้อมระบบล็อกรถอัตโนมัติในกรณีที่เดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร หรือ Walk Away Auto Lock เหมาะมากสำหรับคนขี้ลืมและรีบๆไปทำธุระจนลืมล็อกรถ รวมถึง ระบบ Remote Engine Start จอดรถกลางแดดแล้วตั้งระบบปรับอากาศไว้ก่อนดับรถสามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทได้ในระยะ 20 เมตร แต่การทำงานดังกล่าวอาจจำกัดการใช้งาน ระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ Welcome Light เมื่อเข้าใกล้รถในระยะ 2 เมตร

Mazda BT-50

Mazda BT-50

เบาะนั่งโครงเดียวกันแต่ออกแบบใหญ่โตโอบกระชับดี หุ้มทั้งกึ่งหนังแท้สีน้ำตาลเข้ม และผ้าสีดำทูโทน โดยรุ่นท็อปฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับแต่คนนั่งปรับด้วยก้านธรรมดาแต่เบาะหลังเมื่อเข้าไปนั่งให้ความสบายพอสมควรตัวเบาะวางตำแหน่งอาจชันนิดนึงแต่มีความดีตรงที่มีปีกซัพพอร์ต โอบกระชับดี แถมที่วางแขนมีที่ใส่แก้วให้และพื้นที่วางขายังมีพื้นที่เหลือๆสบายทุกการเดินทาง

Mazda BT-50

Mazda BT-50

เวอร์ชั่นไทยมีขุมพลังจำหน่ายทั้ง 2 ความแรงทั้งเครื่องยนต์ดีเซลแบบเทอร์โบแปรผัน VGS ขนาด 1.9 ลิตร รุ่น RZ4E-TC ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที และ เครืองยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ3-TCX ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที รอบ/นาที ทั้ง 2 ขนาดจับคู่กับเกียร์ธรรมดา กับ อัตโนมัติ 6 สปีด ส่วนระบบขับเคลื่อนเลือกได้ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อมาตรฐาน ขับเคลิ่อน 2 ล้อยกสูง Hi-Racer และขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time ลุยมั่นใจด้วยระบบ Electronic Diff-Lock ระบบล็อกเฟืองท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อม ระบบ i-Stop ตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติโดยจะตัดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราวและกลับมาทำงานเมื่อแตะคันเร่งเหตุผลที่มีระบบนี้ มีกันสองประการทั้งลดมลพิษ และความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้น สามารถเปิดการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้จากเดิมต้องปิด แต่ยังคงเหยียบเบรกและตำแหน่งเกียร์ต้องอยู่ในเกียร์ D แต่การทำงานแค่นาทีเดียว แต่ถ้าไม่ชอบระบบนี้สามารถปิดการทำงานได้

Mazda BT-50

สำหรับการลองขับได้มีโอกาสขับทั้งรุ่น 1.9 และ 3.0 ลิตรขับเคลื่อน 4 ล้อ บนสนามทดสอบแห่งหนึ่งที่ จ. พระนครศรีอยุธยา ถึงจะเป็นการขับขี่สั้นๆแต่อย่างน้อยก้ได้จับอาการจับความแตกต่างได้พอสมควรเมื่อเทียบกับแฝดผู้พี่เริ่มกันที่รุ่น 1.9 S Auto Hi-Racer ยกสูง กำลังเครื่องมีเพียงพอต่อการใช้งานไม่ว่าจะขับทางยาวๆ เมื่อเหยียบคันเร่งไปประมาณ 60-80 % ความกระฉับกระเฉงก็เผยออกมาทันทีเพราะอาจเป็นไปได้ว่ามีการเซ็ตกล่องคนละแบบกับบุคลิกแฝดผู้พี่ก็เป็นได้ ส่วนในรุ่น 3.0 SP 4WD Auto ถึงต้องแบกน้ำหนักรถราวๆ 2 ตันต้นๆ ที่มีทั้งเครื่องและชุดเกียร์ 4WD แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการขับขี่ ให้ความว่องไวตามบุคลิกของมัน วิง่ฉิว ถึงมีแรงบิด 450 นิวตันเมตร รอบการทำงานเริ่มที่ 1,600 รอบ/นาที ก็ตามและด้วยเทอร์โบแปรผันไฟฟ้าผสานกับระบบคอมมอนเรลที่ฉีดจ่ายแรงสูง 250 MPa

Mazda BT-50

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทั้ง 2 ขุมพลัง ปรับเซ็ตให้การทำงานของแต่ละเกียร์สัมพันธ์กับความเร็วได้น่าอย่างน่าทึ่งด้วยการปรับกล่องสมองกลให้เป็นเวอร์ชั่นดีที่สุด ตัดต่อกำลังราบรื่นกระชับมากยิ่งขึ้นในช่วงแต่ละเกียร์ตั้งแต่เกียร์ 1-6 ไม่กระตุกไม่เสียอารมณ์ตอนขับเร่งแซง แถมมี Rev-Tronic บวก/ลบด้วยสร้างความสนุกในการขับขี่มากขึ้น ด้านการเก็บเสียงหรือ NVH (Noise, vibration and harshness) Mazda เลือกที่จะติดตั้งโฟมเข้าไปภายในเสาแต่ละต้นเพื่อช่วยดูดซับเสียงจากแผงประตูด้านข้าง รวมไปถึงพรมปูพื้นและฉนวนได้ถูกผลิตขึ้นเป็นชิ้นเดียวกัน ตลอดการขับขี่ในย่านความเร็วสูงราว 90-110 กม./ชม. กลับเก็บเสียงได้ดีเยี่ยมแต่ถ้าความเร็ว 120 กม./ชม. ขึ้นไปมีเสียงลมเข้ามานิดหน่อยแต่ก็ไม่รำคาญมากเท่าไหร่ นอกจากนี้ติดตั้งแผงคอนโซลกลางที่ยึดกับพื้นตัวถังและการติดตั้งแผงคอนโซลหน้าได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อลดการสั่นสะเทือนที่ส่งมาจากโครงแชสซีและแผงหน้าปัดติดตั้งอยู่กับตัวถังโดยตรงเพื่อลดการสั่นสะเทือนที่ส่งไปยังพวงมาลัย

Mazda BT-50

Mazda BT-50

ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบแร็คแอนด์พิเนียนทำงานด้วยน้ำมันให้น้ำหนักกลางๆไม่เบามากไปไม่หนักมากไป ผู้ชายขับได้ผู้หญิงขับดี ระบบช่วงล่างเป็นปีกนกอิสระสองชั้น คอยล์สปริง และโช้กอัพแก๊ส พร้อมเหล็กกันโคลงสำหรับด้านหน้า และด้านหลังเป็นแหนบรูปครึ่งวงรีพร้อมโช้กอัพแก๊ส (แหนบเหนือเพลา) งานนี้ Mazda ปรับเซ็ตให้มีความนุ่มนวลเข้ามาเพิ่มเติมส่วนความหนึบยังคงอยู่ถึงรุ่นเดิมจะเน้นความหนึบมากกว่า แต่อาการโยนตัว ดีดเด้งนั้นไม่มีให้เห็นตลอดการขับขี่ในสนามทั้งสลาลอม การเข้าโค้ง คือนิ่งเป็นนิ่ง พร้อมเสริมตัวยึดด้านหน้ากันโคลง เพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับตัวรถมากขึ้น และเมื่อทำงานร่วมกับพวงมาลัยสามารถบังคับควบคุมได้อย่างฉับไวซึ่งตรงนนี้คือจุดดีจุดเด่นทั้งสั่งสมมาตั้งแต่รุ่น BT-50 เจนก่อนๆ

Mazda BT-50

Mazda BT-50

แต่ระบบเบรกห้ามล้อนั้นทาง Mazda บอกว่าเป็นดิสก์เบรกหน้าขนาดใหญ่ 17 นิ้ว กับด้านหลังใช้ดรัมเบรกขนาด 15 นิ้ว ซึ่งเมื่อลองเหยียบเบรกราว 30 % กลับรู้สึกว่าการเบรกคล้ายๆรถยนต์ SUV  Mazda รุ่นหนึ่ง คือ มีระยะการเบรกที่ยาวๆไปหรือเบรกทื่อ จนต้องเหยียบเพิ่มอีก 10 % รถจึงจะหยุดได้นั่นเองซึ่งตรงนี้น่าจะมีกาปรับระยะให้ดีขึ้นเท่าๆกับแฝดผู้พี่แต่โดยรวมหยุดรถได้อย่างน่าพอใจ ด้านระบบความปลอดภัยนั้นมีครบแบบเดียวกับแฝดผู้พี่ All New ISUZU D-MAX ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA ระบบช่วยจอด Parking Aidระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน หรือ HLA ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด

Mazda BT-50

การที่ได้ ISUZU มาเป็นพันธมิตรและนำจุดเด่นของเพื่อนคนใหม่นี้มาผสมผสานกับของตนเองทำให้มีความลงตัวในทุกๆด้านเช่นใช้อะไหล่ร่วมกันได้ ตั้งแต่เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ชิ้นส่วนทีเกี่ยวเนื่อง การดีไซน์ดึงความเป็น Kodo Design ออกมาเป็นปิกอัพหล่อล้ำสมัยจนรถเก๋งยังอายเลยทีเดียว เครื่องยนต์ 3.0 และ 1.9 ลิตร มีความดีความเด่นชนิดเทียบเท่ากับแฝดผู้พี่แบบเต็มๆทั้งความเร็ว ความเร้าใจ ช่วงล่างและพวงมาลัยกลายเป็นจุดเด่นที่สั่งสมมานานอาจเป็นจุดหนึ่งที่ตัดสินใจซื้อ All New Mazda BT-50 ก็เป็นได้ แต่ค่าตัวนั้นจะออกมาในรูปแบบไหนนั้นติดตามในช่วงต้นปีหน้า

 

เรื่องและขับทดสอบโดย นายเต้ย

 

ขอขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญทีมงาน Autodeft.com เข้าร่วมกิจกรรมทดสอบรถยนต์ All New Mazda BT-50

 

Mazda BT-50

Mazda BT-50

สิ่งที่ชอบ >>> จุดเด่นต่างๆที่มีอยู่ในแฝดผู้พี่ All New ISUZU D-MAX เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างงั้น ทั้งขุมพลังความแรง การขับขี่ การจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆ เบาะนั่งที่สบายมีปีกซ้าย-ขวาที่โอบกระชับกว่า พวงมาลัยน้ำหนักดีคมจิกทุกโค้ง ช่วงล่างหนึบนำนุ่มตาม และไม่ยวบยาบ

สิ่งที่ไม่ชอบ >>> ในรุ่นที่เป็นเครื่องปรับอากาศแบบหมุนควรเพิ่มระบบไล่ฝ้ากระจกหน้า ควรเพิ่มช่องชาร์จไฟฟ้าแบบ 220V สำหรับการใช้โน็ตบุ๊ค รวมถึงระบบเบรกควรจะปรับปรุงให้เบรกฉับไวทันใจลดระยะการเหยียบเบรกให้สั้นกว่าเดิม

 

ชม Gallery 2021 All New Mazda BT-50 ได้ที่นี่!!

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ