2026 GR Supra Final Edition เปิดตัวแบบสวยงามแต่ไม่ได้เน้นแรงม้า

การปรับปรุงช่วงล่าง, เบรกที่ใหญ่ขึ้น, และการปรับปรุงเฟืองท้ายและพวงมาลัยมอบประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้นสำหรับรุ่นสุดท้ายของ Supra

Toyota ไม่เคยทำให้แฟน ๆ ผิดหวังเมื่อพูดถึงการออกจากวงการของรถสปอร์ต และ GR Supra ก็ไม่ต่างกัน ด้วยการที่รุ่น A90 ใกล้จะสิ้นสุดการผลิต Toyota จึงได้เปิดตัว GR Supra Final Edition รุ่นปี 2026 ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับการปรับแต่งทั้งด้านสวยงามและการอัพเกรดทางกลไกสำหรับตลาดอเมริกา อย่างไรก็ตาม อย่าคาดหวังการอัพเกรดทางสมรรถนะที่มากมายเหมือนที่เห็นในตลาดยุโรปหรือญี่ปุ่น

เมื่อเดือนที่แล้ว Toyota ได้เปิดตัว GR Supra A90 Final Edition สำหรับตลาดยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งมาพร้อมกับอัพเกรดสมรรถนะที่เพิ่มกำลังถึง 94 แรงม้า และราคาที่สอดคล้องกัน แต่สำหรับตลาดอเมริกา GR Supra MkV Final Edition จะได้รับการอัพเกรดที่มีความคุมโทนมากกว่า

เช่นเดียวกับรุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ GR Supra MkV Final Edition สำหรับอเมริกาจะทาสี Matte Black และเพิ่มการตกแต่งด้วยสีแดงในจุดต่าง ๆ เช่น คาลิปเปอร์เบรก วิศวกรของ Toyota ยังได้ปรับแต่งแอโรไดนามิกด้วยการติดตั้งสปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์ ที่ด้านหลัง, แผ่นพลาสติกใหม่ ที่ซุ้มล้อหน้า และแผ่นป้องกันล้อหน้าใหญ่ สิ่งที่ไม่ได้รับการอัพเกรดคือสปอยเลอร์หลังแบบติดตาย ที่มีในรุ่นยุโรปและญี่ปุ่น

การปรับแต่งช่วงล่างในรุ่นนี้มีความพอดี โดย Toyota ได้ทำการปรับปรุงโช๊คอัพควบคุมด้วยไฟฟ้า และติดตั้งบาร์เสถียรภาพหน้าใหม่ นอกจากนี้ยางบุชในแขนควบคุมหน้าถูกเสริมความแข็งแกร่งและมีการติดตั้งยางรองใหม่สำหรับกรอบซับเฟรมหลัง การปรับแต่งเหล่านี้ช่วยให้ GR Supra Final Edition มีการลดการใต้การหมุน (understeer) และได้ปรับปรุงระบบเฟืองท้ายและพวงมาลัยไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสมดุลในการขับขี่ ขณะที่การติดตั้ง จานเบรก Brembo ขนาดใหญ่ ช่วยให้การหยุดรถมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการลุคที่โดดเด่นยิ่งขึ้น หรือหลงใหลในรถแข่ง Toyota ยังมีชุดแต่งสไตล์ GT4 ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Supra GT4 EVO2 รถแข่งรุ่นนี้ จะเพิ่มกราฟิก GR ที่ด้านข้าง, สปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์ด้านหลัง, โลโก้ Supra สีดำด้าน และกระจกมองข้างสีแดง การอัพเกรดภายในห้องโดยสารจะจำกัดเฉพาะการเย็บสีแดง และเน้นสีแดง รวมทั้งเบาะหนังและ Alcantara ที่ตกแต่งด้วยการเย็บสีแดง

สำหรับเครื่องยนต์ของ GR Supra Final Edition ยังคงเป็นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบ เทอร์โบ ที่ให้กำลัง 382 แรงม้าและแรงบิด 368 lb-ft (499 Nm) ซึ่งเพียงพอสำหรับการขับขี่ที่สนุกและเร็วพอสมควร แต่สำหรับรุ่น Final Edition ในยุโรปและญี่ปุ่นจะมีการเพิ่มกำลังถึง 429 แรงม้าและแรงบิด 420 lb-ft (570 Nm)

นอกจากรุ่น Final Edition แล้ว GR Supra รุ่นปี 2026 ยังมีรุ่นมาตรฐาน GR Supra 3.0 และ 3.0 Premium ที่สามารถเลือกสีภายนอกได้หลายสี เช่น Stratosphere, Absolute Zero, Nocturnal, และ Renaissance Red 2.0 ภายในรุ่นพื้นฐานจะมาพร้อมกับระบบเสียง 10 ลำโพง ในขณะที่รุ่น Premium จะมาพร้อมกับ ระบบเสียง JBL 12 ลำโพง

Toyota ยังไม่ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการสำหรับ GR Supra Final Edition แต่คาดว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมใกล้ ๆ กับการเปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงนี้

ที่มา Carscoops