BMW Z4 Roadster กล่าวคำอำลากับรุ่นพิเศษ Final Edition

BMW ประกาศปิดตำนาน Z4 Roadster ด้วยรุ่นพิเศษ Final Edition โดยรถรุ่นนี้สร้างบนพื้นฐาน Z4 M40i พร้อมตัวถังสี Frozen Black metallic เพิ่มความดุดัน และมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ

Final Edition จะผลิตจำนวนจำกัดโดย Magna Steyr ในออสเตรีย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2026 จนถึงการยุติสายการผลิต Z4 ทั้งหมดในเดือนเมษายน 2026 แต่ละคันมาพร้อมสี Frozen Black metallic แบบ Individual และชุดแต่ง Shadowline blackout ครอบคลุมกระจังหน้า ฝาครอบกระจกมองข้าง และปลายท่อไอเสีย หลังคาผ้า Moonlight Black เสริมลุคเข้ม แต่ยังให้ความโดดเด่นด้วยคาลิเปอร์เบรก M Sport สีแดง

ภายในห้องโดยสาร Final Edition ตกแต่งด้วยด้ายตัดสีแดงที่พาดผ่านเบาะ แผงแดชบอร์ด คอนโซล และประตู เบาะสีดำทำจากหนัง Vernasca ผสม Alcantara พร้อมเข็มขัด M tricolor และพรมปูพื้นตัดขอบสีแดง

รุ่นพิเศษนี้ยังมาพร้อมออปชันและเทคโนโลยีมาตรฐาน เช่น Driving Assistance Package, Premium Package รวม Head-Up Display และระบบเครื่องเสียง Harman Kardon

ด้านสมรรถนะทางกลไก Z4 Final Edition ยังคงเหมือน Z4 M40i รุ่นปกติ ล้อหน้าเป็นขนาด 19 นิ้ว M Dual Spoke 800M พร้อมยางสมรรถนะ 255 ส่วนหลังขนาด 20 นิ้ว ยาง 285 มม. รองรับเครื่องยนต์เรียง 6 สูบ ให้กำลัง 382 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร

สำหรับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด จะมาพร้อมชุดแต่ง Handschalter รวมสปริงพิเศษ แคลมป์เสริม Anti-roll bar ปรับซอฟต์แวร์พวงมาลัย และระบบควบคุมแรงฉุดที่ปรับปรุงใหม่ ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดจะไม่ได้รับการปรับช่วงล่างพิเศษ แต่ได้ชุดล้อแบบ staggered เหมือนรุ่นเกียร์ธรรมดา ทำให้สามารถทำเวลา 0-96 กม./ชม. ได้ 3.9 วินาที ขณะที่รุ่นเกียร์ธรรมดาทำได้ 4.2 วินาที

ราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ สำหรับ Z4 Final Edition อยู่ที่ 78,675 ดอลลาร์ รวมค่าขนส่ง 1,175 ดอลลาร์ เทียบกับ Z4 M40i รุ่นปกติที่ 69,575 ดอลลาร์ หากเพิ่ม Handschalter package สีตัวถังแบบ Individual, ชุดแต่ง Shadowline และออปชันเทคโนโลยีมาตรฐาน ราคาก็แทบไม่ต่างกัน

แม้ Z4 และ Supra รุ่นปัจจุบันจะจบลงแล้ว แต่ทั้งสองแบรนด์ยังอาจมีอนาคตสำหรับสปอร์ตคาร์ใหม่ Toyota วางแผน Supra รุ่นใหม่โดยไม่ร่วมพัฒนากับ BMW ขณะเดียวกัน BMW ก็เปิดโอกาสพัฒนาสปอร์ตคาร์ใหม่บนแพลตฟอร์ม Neue Klasse

ที่มา Carscoops