นักออกแบบอิสระเผยโฉม S2000 รุ่นใหม่ในฝัน ขณะที่ Honda ยังเงียบเฉย
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 21 ต.ค. 68 21:05
- 1,059 อ่าน
แม้ว่า Honda จะยังไม่มีท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับการคืนชีพรถสปอร์ตเปิดประทุนขวัญใจแฟน ๆ อย่าง S2000 แต่ดูเหมือนว่าบรรดานักออกแบบอิสระจะไม่ยอมนิ่งเฉย และเลือกที่จะรังสรรค์ภาพจำลองของ S2000 รุ่นใหม่ในแบบที่พวกเขาเชื่อว่า Honda ควรทำ

ล่าสุด Luca Serafini นักออกแบบจาก LS Design ได้เผยภาพเรนเดอร์ของ S2000 โฉมใหม่ ที่เขาออกแบบขึ้นโดยยึดแก่นแท้ของรถรุ่นดั้งเดิมไว้ครบถ้วน พร้อมอัปเดตเส้นสายให้สอดรับกับยุคปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการตีความใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงการปรับโฉมเล็กน้อยเท่านั้น โดยเฉพาะด้านหน้า ที่มาพร้อมไฟหน้า LED ดีไซน์เฉียบคม ฝากระโปรงหน้ายาวขึ้น พร้อมกระจกหน้าที่ลาดเอียงและโครงสร้างตัวถังที่ดูเรียบหรูแต่ดุดัน เสริมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยห้าก้านและกันชนหน้าพร้อมช่องดักอากาศทรงดุดัน ซึ่งชวนให้นึกถึง S2000 รุ่นแรก (AP1) มากกว่ารุ่นไมเนอร์เชนจ์ (AP2)
Luca Serafini กล่าวว่า “ถ้า S2000 กลับมาอีกครั้ง มันควรจะเป็นรถที่ยังคงจิตวิญญาณของโรดสเตอร์พันธุ์แท้ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งสัดส่วนตัวถังที่สมดุล เครื่องยนต์รอบจัด และประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีวันตกยุค”
อีกหนึ่งนักออกแบบชื่อดัง Theophilus Chin ก็ได้ปล่อยภาพเรนเดอร์ของ S2000 ในแบบของเขาเช่นกัน โดยยังคงเส้นสายหลักจากรุ่นดั้งเดิมไว้ครบ ทั้งฝากระโปรงหน้ายาว ตัวรถเตี้ยทรงสปอร์ต ห้องโดยสารแบบสองที่นั่ง และหลังคาผ้าใบแบบเปิดประทุน พร้อมปรับดีไซน์ใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย ทั้งไฟหน้าทรงเรียวที่ยกมาจาก Prelude รุ่นต้นแบบใหม่ล่าสุด ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ มือจับประตูแบบเรียบเนียนไปกับตัวถัง และครีบรีดอากาศหลังซุ้มล้อหน้า

ด้านท้ายของรถถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยเส้นไฟ LED แบบเต็มความกว้าง และการตกแต่งสีดำที่ให้ความรู้สึกดุดัน แม้จะไม่หรูหราเท่าท้ายเดิมของ S2000 แต่ยังคงไว้ซึ่งปลายท่อไอเสียคู่แบบดั้งเดิม สะท้อนชัดเจนว่านี่ไม่ใช่รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่เป็นรถสันดาปภายใน ที่อาจมาพร้อมระบบไฮบริดตามแนวทางใหม่ของ Honda ในปัจจุบัน
เมื่อพูดถึงขุมพลัง หากจะรักษาเอกลักษณ์ของ S2000 รุ่นแรกไว้ ก็ต้องนึกถึงเครื่องยนต์เบนซินรอบจัดแบบไม่มีระบบอัดอากาศ อย่าง F20C ขนาด 2.0 ลิตร 237 แรงม้า หรือ F22C1 ขนาด 2.2 ลิตรที่ให้แรงบิดมากขึ้นในรอบต่ำ แม้เวลาจะผ่านมากว่าสองทศวรรษ แต่เครื่องยนต์เหล่านี้ยังคงท้าทายคู่แข่งยุคใหม่ได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ GR86 ที่มีพละกำลัง 228 แรงม้า หรือ Mazda MX-5 ที่มีเพียง 181 แรงม้า

อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งความเป็นไปได้คือการนำเครื่องยนต์เทอร์โบจาก Civic Type R ขนาด 2.0 ลิตร 325 แรงม้า มาประยุกต์ใช้ร่วมกับระบบไฮบริด ซึ่งอาจช่วยเพิ่มสมรรถนะและลดมลพิษ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็อาจทำให้รถเสียความเป็น “โรดสเตอร์บริสุทธิ์” ไป
ความท้าทายที่แท้จริง คือ Honda ปัจจุบันไม่มีแพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหลังสำหรับรถขนาดเล็กอยู่ในไลน์ผลิตแล้ว ทำให้โครงการรถสปอร์ตอย่าง S2000 อาจถูกมองว่าไม่มีความคุ้มค่าในเชิงธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อแผนของบริษัทมุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ถึง 13 รุ่นภายในปี 2030
แม้โอกาสที่เราจะได้เห็น S2000 รุ่นใหม่จาก Honda จะยังคงริบหรี่ แต่ผลงานจากนักออกแบบอิสระก็ยังคงจุดประกายความหวังให้กับสาวกที่เฝ้ารอการกลับมาของหนึ่งในรถสปอร์ตที่ทรงเสน่ห์ที่สุดในยุค 2000 ได้อย่างต่อเนื่อง และบางที แรงกดดันจากแฟน ๆ อาจทำให้ Honda หันกลับมามองความฝันนี้อีกครั้ง
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com




