ว่ากันด้วยเรื่องมารยาทในลานจอดรถ

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 12 ก.พ. 61
  • 41,609 อ่าน

การเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็ย่อมต้องหาที่จอดรถแบบที่ไว้ใจได้ เพื่อให้การไปสถานที่นั้นๆทำได้อย่าสบายใจ และสถานที่ส่วนใหญ่ก็มักจะจัดที่จอดรถไว้ให้เพื่ออำนวยความสะดวก รูปแบบก็แตกต่างกันไป ถ้าเป็นสถานที่ที่คนไม่พลุกพล่าน ที่จอดรถก็อาจจะเพียงพอ แต่ถ้าเป็นสถานที่ที่มีแต่คนอยากจะไป เช่นห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ก็จะมีรถจำนวนมากมายมาแย่งที่จอดรถกัน จนบางที่ต้องคอยวนหานานแสนนานกว่าจะได้ที่จ

Parking Lots

ถ้ามีช่องจอด ควรจอดในช่องก่อน
ที่จอดรถส่วนใหญ่จะมีการขีดเส้นเพื่อให้รถคันต่างๆได้เข้าไปจอดตามช่องอย่างเป็นระเบียบ แต่ก็จะมีบางส่วนที่อนุญาตให้จอดขวางรถที่อยู่ในช่องได้เพื่อเพิ่มจำนวนการจอดรถให้มากขึ้น แต่ก็มีบางคนที่เลือกเอาทำเการจอดเป็นสำคัญ เช่น ใกล้ประตูทางเข้าห้าง เป็นต้น เลือกที่จะจอดขวาง ทั้งที่ช่องจอดยังมีเหลือ เพียงแต่ต้องห่างประตูออกไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง ซึ่งบางทีคนที่ถูกรถขวางหน้าอยู่อยากจะออกในตอนนั้นพอดี ก็ต้องออกแรงเพื่อเข็นรถอีก ดังนั้นถ้ายังมีช่องว่างอยู่ รบกวนนำไปจอดในช่องก่อนให้เต็ม แล้วค่อยมาจอดขวางเมื่อหาช่องจอดไม่ได้ดีกว่าครับ

จอดในช่อง ให้ใส่เบรกมือด้วย
หลายครั้งแล้วที่ผมเองเคยเห็นรถยนต์ไหลออกมาจากช่องจอด ขวางรถคันอื่นจนไปไม่ได้ ต้องคอยมาเข็นกลับเข้าไปในช่องเพื่อเปิดทางเดินรถ สาเหตุมาจากรถคันนี้ใช้เป็นเกียร์ธรรมดา แต่ตอนจอดดันลืมใส่เบรกมือ ทำให้รถไหลไปตามความเอียงของพื้น เสี่งกับการเกิดอุบัติเหตุต่อผู้อื่นอย่างง่ายดาย ดังนั้นก่อนลงจากรถ ตั้งสติสักนิด ไม่ว่าจะใช้เกียร์แบบไไหน ก็ควรดึงเบรกมือทั้งสิ้นเมื่อจอดในช่องครับ

Parking Lots

จอดในช่อง ให้อยู่ตรงกลางมากที่สุด
สถานที่หลายแห่งขีดเส้นจอดรถให้อย่างชัดเจน เพียงพอกับการขึ้นลงได้อย่างสะดวก แต่ดันมีบางคนจอดเอาสะดวก จอดเอาตัวเองลงสะดวกมากที่สุด ชิดเส้นด้านซ้ายซะอย่างเต็มที่ ช่องว่าที่ให้ตัวเองลงจากรถเหลือเพียบ ไม่ได้มองว่าแล้วรถคันที่อยู่ด้านซ้ายเขาจะขึ้นรถอย่างไร ดังนั้นเพื่อมารยาทในการใช้ลานจอดร่วมกัน ควรจะจอดให้ตรงกลางเส้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

จอดขวางต้องปลดเกียร์ว่าง, ลดเบรกมือ, ตั้งล้อตรง, จอดเป็นแนวตรง
เป็นมารยาทบนลานจอดรถที่เราต้องรู้เป็นสามัญอยู่แล้วว่า เมื่อจอดขวางรถคันอื่นเขา ก็ต้องปลดเบรกมือและใส่เกียร์ว่างทุกครั้ง เพื่อให้คนอื่นเข็นเลื่อนรถได้ แต่บางคนกลับทำแค่ 2 สิ่ง แล้วไม่ได้ดูว่ารถตัวเองนั้นจอดเอียงกระเท่เร่ หรือบางทีก็ดันหมุนพวงมาลัยไว้ไม่ตรง ถ้าเข็นก็เป๋ออกไปนอกเส้นทางแน่นอน ดังนั้นถ้าเราจอดขวาง ก่อนเดินไปจากรถ ควรตรวจสอบให้ครบทุกอย่าง เพื่อไม่ให้คนอื่นเดือนร้อนเมื่อเขาจะออกจากช่องครับ

Parking Lots

เผื่อช่องว่างให้เขาเข็นบ้าง
เข้าใจดีว่าทุกคนอยากจะหาที่จอดรถให้เร็วที่สุด เมื่อเจอช่องว่างที่จอดขวางได้ก็เสียบเข้าไปจอดเลย แต่บางครั้งเราก็ต้องคอยดูด้วยว่า เมื่อเราจอดรถแล้ว คนอื่นจะสามารถเข็นรถเพื่อให้มีช่องว่างมากพอเพื่อขับรถออกจากช่องได้หรือไม่ ผมเคยเจอบางครั้งว่ากว่าจะมีช่องออกได้ ต้องเข็นรถกันเกือบ 10 คัน ก็พี่ท่านเล่นจอดกันแทนจะกันจนจรดกันชนเลย ตามมารยาทแล้วคนที่จอดในช่องไม่ควรเข็นรถเกิน 3 คันเพื่อให้มีช่องว่างพอออกได้ ดังนั้นก่อนจอด ช่วยคำนวนแทนคนจอดในช่องนิดนึงครับ

ถ้าปลดเกียร์ว่างไม่ได้ ช่วยพกกระดาษ A4 กับปากกาเมจิคติดรถไว้ด้วย
เข้าใจแหล่ะครับว่ารถบางคันก็ไม่สามารถปลดล็อคเป็นเกียร์ว่างได้เมื่อต้องการจอด (เพราะส่วนใหญ่เขาไม่จอดขวางกัน) ถ้ารู้ว่ารถตัวเองม่สามารถจอดขวางได้ ก็ควรพยายามหาช่องจอดจะดีกว่า แต่ถ้ารีบจริงๆ มีความสำคัญมากที่ต้องลงจากรถเดี๋ยวนั้น (เช่นท้องเสียอย่างหนัก) ก็จอดขวางได้ แต่ก็ควรมีกระดาษ A4 กับปากกาเมจิคติดรถไว้ด้วย จากนั้นให้เขียนเบอร์ของตัวเองตัวใหญ่ๆวางไว้ทั้งกระจกหน้าและกระจกหลัง ให้มองเห็นอย่างชัดเจน คนที่ถูกขวางไว้เขาจะได้โทรหาเพื่อมาเลื่อนรถ ถามว่าแล้ววางนามบัตรไม่ได้เหรอ จริงๆมันก็ได้แหล่ะครับ แต่ด้วยความที่มันเล็ก บางทีคนที่กำลังอารมณ์ขึ้น อาจจะไม่ทันสังเกตุก็ได้นะครับ

ลานจอดไม่เรียบ ช่วยอย่าจอดขวาง
หลายครั้งเราจะเจอพวกลานจอดที่เป็นลานดิน มีความตะปุ่มตะป่ำของพื้นถนนเป็นอย่างมาก ขนาดขับเฉยๆรถยังโยกไปมา กรณีในลานจอดแบบนี้ถ้าเป้นไปได้ช่วยจอดในช่องปกติเถอะครับ เพราะการจอดรถบนลานดินแบบนี้ขวางคันอื่น การเข็นจะเป็นเรื่องลำบากมากกว่าถนนเรียบหลายเท่าตัวนัก ไอ้คันเล็กแบบ Eco Car มันก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเจอรถแบบ PPV ขวางเข้าไป กว่าจะเข็นได้เล่นเอาปวดหลัง นวด 3 ครั้งก็ไม่หายเลย เข้าใจว่าอยากหาที่จอด แต่ก็ช่วยเข้าใจคนที่ต้องเข็นรถคุณด้วยนะครับ

ถ้ายังไม่ออก ก็บอกเขาหน่อย
บางทีเราก็แค่จะเอาของเข้าไปเก็บที่รถก่อน แล้วกลับไปเดินต่อเท่านั้น แต่คนที่กำลังวนรถเพื่อหาที่จอด ก็จะเข้าใจเองว่า รถคันน้นกำลังจะออกแล้ว เลยเปิดไฟฉุกเฉินแล้วจอดรอเพื่อจะเข้าจอดในช่องต่อไป แต่บางคนดันทำเฉย เก็บของเสร็จแล้วล็อครถเดินกลับไปเฉยๆ เล่นเอาคนจอดรอหัวร้อนกันบ่อยๆ ดังนั้นถ้าเราตั้งใจแค่มาเปิดรถเพื่อเก็บของหรือมาเอาของ แล้วเห็นคนมาจอดรอเพื่อเข้าจอดแทนเรา ก็ส่งสัญญาณนิดนึงว่าเรายังไม่ออก เขาจะได้ไม่เสียเวลาในการจอดรอครับ

Parking Lots

อย่าเร่งคนหาที่จอด
เวลาเราหาที่จอดในลานจอดรถที่มีความหนาแน่นสูง เราก็พยายามขับไปเรื่อยๆเพื่อรอให้มีจังหวะคนขับรถออก แล้วเราจะได้มีที่จอดสักที แต่เวลาเราอยากจะออกจากสถานที่นั้น เราเองก็อยากออกไปให้เร็วที่สุด บางทีก็ขับรถไปต่อกับคันที่เขาหาที่จอดอยู่ จนเร่งกีระพริบไฟ, บีบแตรใส่ เพื่อให้เขาขยับรถให้เร็วกว่าเดิม บางทีกรณีนี้เราอาจต้องเข้าใจเขาครับ เพราะเขาก็อยากหาที่จอดให้เร็วที่สุดเหมือนกัน ดังนั้น ใจเย็นสักนิด เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างก็ดีครับ

อย่าส่งคนไปจองช่องจอด
เราคงเคยเห็นตามคลิปต่างๆ ที่มีการส่งคนไปยืนจองช่องจอดรถเอาไว้ก่อน เพื่อให้เราสามารถจอดรถในช่องนั้นได้ การกระทำแบบนี่เสี่ยงกับการมีปัญหาต่อคนอื่นได้อย่างมาก เพราะตามมารยาทแล้ว การจะได้ช่องจอดรถ ขึ้นอยู่กับดวงเป็นสำคัญ ถ้าจังหวะที่เราขับไปแล้วเจอรถขับออกจากช่องพอดี นั่นแหล่ะถึงจะเข้าไปจอดได้ ไม่ใช่เห็นช่องจอดอยู่อีกฟากแล้วส่งคนลงไปยืนจองไว้ก่อน แบบนี้คนที่ขับรถมาได้ช่องจอดพอดี เขาก้ต้องโวยเป็นธรรมดาแหล่ะครับ

ขับเลยไปแล้ว ถือว่าเสียสิทธิ์
เคยมีเหมือนกันกับจังหวะที่ไม่เป็นใจ ขับรถมาเลยช่องจอดราวครึ่งคันแล้วรถช่องนั้นเขาออกพอดี แถมรถข้างหลังก็กำลังขับมาติดๆ แบบนี้ถือว่าซวย เสียสิทธิ์นั้นไปครับ อย่าไปถอยหลัง หรือส่งสัญญาณเพื่อให้คนอื่นถอยหลัง เราจะได้ถอยเพื่อเข้าช่องได้ ดังนั้นถ้าเจอแบบนี้ให้ทำใจครับ ถือว่ามันไม่ใช่ของเรา ยกเว้นแต่รถข้างหลังอยู่ห่างมากๆๆ ถ้าเราถอยจนเสร็จแล้วเขาก็ยังมาไม่ถึงแน่นอน แบบนี้ก็โอเคครับ

ย้อนศรเพื่อแย่งที่จอด

กฎของการอยู่ร่วมกันก็คือ ใครมาก่อนก็ต้องได้ก่อน ต่อแถวเรียงกันไป รวมถึงเรื่องการจอดรถก็เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วลานจอดรถจะจัดการจราจรเป็นแบบเดินรถทางเดียว หรือ one way แต่ก็จะมีคนอีกบางพวก ที่เห็นช่องว่างจอดแล้ว แต่ถ้าไปต่อคิวตามปกติ ก็ไม่ได้จอดช่องนี้แน่ๆ เลยเลือกเอาทางลัดด้วยการสวนเลนเข้าไปในช่องนั้นซะเลย ไม่ต้องต่อคิว แบบนี้ก็เป็นการผลิดมารยาทอย่างร้ายแรงเช่นกัน ถึงขั้นทะเลาะกันได้เลยครับ

Parking Lots

ช่องพิเศษ สำหรับคนพิเศษจริงๆ
หลายแห่งที่จัดลานจอดรถไว้ให้ มักจะมีช่องพิเศษสำหรับคนพิเศษทั้งนั้น เช่นช่องสำหรับคนพิการ, ช่องสำหรับแม่และเด็ก เป็นต้น แต่หลายครั้งเราก็มักจะเห็นคนปกติทั่วไป ขับเข้าไปจอดตามช่องพวกนี้อย่างหน้าตาเฉย บางทียามที่ยืนอยู่ก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะคันที่ขับมาจอดดันเป็นรถราคาแพงซะด้วย จนทำให้คนที่มีสิทธิ์ใช้ช่องนั้นจริงๆไม่มีที่จอด ต้องวนไปหาช่องจอดตรงอื่นแทน ของแบบนี้อยู่ที่จิตสำนึกจริงๆ ถ้าเราเป็นคนจิตใจดี ก็ควรเลือกใช้จอดตามสิทธิ์ที่เรามีนะครับ

 

เรื่องทั้งหลายนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ใช่กฎที่บังคับใช้ภายในลานจอดรถ แต่มันเป็นมารยาทที่จะช่วยให้การใช้ลานจอดรถร่วมกัน เป็นไปได้อย่างมีความสุขทุกคน ดังนั้นถ้าเราทุกคนช่วยกันทำเรื่องเหล่านี้ การจอดรถก็จะไม่ใช่เรื่องที่ทำให้หัวร้อนได้อีกต่อไปครับ

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ