ซื้อรถอย่างไรให้ได้ประโยชน์จากงาน Motor Expo

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 6 ธ.ค. 59
  • 41,065 อ่าน

ช่วงนี้เป็นเวลาที่มีงานแสดงรถยนต์ครั้งใหญ่ประจำปีอย่าง Motor Expo ที่จัดกันอยู่ที่เมืองทองธานี แน่นอนว่ารถแต่ละค่ายก็จะขนรถแทบทุกรุ่นที่มีอยู่ รวมทัดอัดโปรโมชั่นกันอย่างเต็มที่เพื่อจะดึงดูดให้ผู้ที่สนใจ จับปากกามาเซ็นสัญญาซื้อรถให้ได้ แน่นอนว่าถ้าใครคิดจะออกรถอยู่ ก็จะเป็นจังหวะเวลาที่ดี ที่จะเลือกสิทธิประโยชน์กันอย่างเต็มที่ วันนี้ Autodeft เลยมีเทคนิคในการเลือกซื้อรถช่วงนี้มาฝากทุกคนครับ

ไปที่โชว์รูมก่อนมางาน

หลายคนอาจจะมองว่าการไปซื้อรถที่งาน Motor Expo จะได้สิทธิประโยชน์ที่ดีกว่า แต่จริงๆแล้วมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะในปัจจุบันโปรโมชั่นจากค่ายรถ ส่วนใหญ่จะมีผลกับทั้งในงานและโชว์รูมต่างๆอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะแตกต่างกันก็คือ ของแถมที่เราจะได้ต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มติดรถ, พรม, คูปองล้างรถฟรี เป็นต้น ดังนั้นถ้าเราตัดสินใจที่จะเลือกซื้อรถรุ่นไหนอยู่แล้ว ก่อนไปงานให้ไปที่โชว์รูมก่อนเลย แล้วไปต่อรองว่า ที่โชว์รูมจะแถมอะไรให้เราบ้าง (ให้เขาจดใส่ Memo มา) จากนั้นเราก็ถือใบนั้นแหละครับไปที่งาน Motor Expo จากนั้นก็ลองถามว่าที่งานจะแถมอะไรให้เราได้บ้าง ถ้าได้มากกว่าก็จัดการจองในงานได้เลย แต่ถ้าไม่ได้ ก็ลองเอาใบนั้นให้เขาดูแล้วบอกว่า ที่โชว์รูมให้แบบนี้ ให้มากกว่านี้ได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็บ๊ายบายกลับไปจองที่โชว์รูม แต่ถ้าให้ได้ก็จัดการจองในงานเลยครับ

Isuzu

ศึกษาโปรโมชั่นให้ละเอียด

ปัจจุบันมีโปรโมชั่นออกมามากมาย ทั้งแถมประกันภัยชั้น 1, ดอกเบี้ย 0%, ผ่อนเดือนละเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งแต่ละโปรโมชั่นฟังผ่านๆอาจจะดูน่าสนใจมาก แต่หลายโปรโมชั่นก็อาจจะมีเงื่อนไขอยู่ อย่างเช่น ผ่อนเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งโปรโมชั่นแบบนี้ส่วนใหญ่ที่เจอถ้าไม่ดาวน์ในจำนวนเงินที่สูง ก็จะมีบอลลูนในงวดสุดท้าย หรือจะเป็นเงื่อนไขผ่อน 0% ก็จะต้องดาวน์เป็นจำนวน 30% ของราคารถ แล้ว 0% แค่กี่เดือนก็ว่าไป แถมบางโปรโมชั่นก็ใช้กับบางรุ่นเท่านั้น ดังนั้นก่อนจรดปากกาเพื่อเซ็นจองรถ ให้อ่านเงื่อนไขโปรโมชั่นหรือสอบถามจากพนักงานขายให้ละเอียดดีก่อน ไม่อย่างนั้นแล้วเดี๋ยวจะมาเซ็งตอนหลังได้ครับ

 

ระบุรายละเอียดใส่ใบจอง

ปกติแล้วการเซ็นเพื่อซื้อรถในงาน Motor Expo นั้น จะเป็นการจองเพียงเท่านั้น จะยังไม่เป็นการทำสัญญาซื้อขายกันจริง เพราะทางพนักงานขายนั้นจะเอาเอกสารของเราไปร่างสัญญาเพื่อมาทำการเซ็นอีกครั้ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นการเซ็นกันที่ศูนย์บริการที่พนักงานคนนั้นประจำอยู่ ซึ่งตรงนี้แหละที่มีบางคนพบว่า เงื่อนไขของแถมหรือสิทธิอะไรก็แล้วแต่ หรือแม้กระทั่งอัตราดอกเบี้ยผ่อนชำระ อาจเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนกับวันที่ทำการจอง ดังนั้นในใบจองที่เราจะเซ็นไป ให้พนักงานขายระบุออกมาให้ครบ ทั้งของแถมที่จะได้, วันที่ออกรถได้ หรือแม้กระทั่งอัตราดอกเบี้ย ก็ให้ระบุให้หมด ถ้าวันที่ต้องทำสัญญาจริงแล้วเงื่อนไขไม่ตรงกับใบจอง เราก็จะได้แย้งได้และสามารถขอเงินค่าจองคืนได้ครับ

เก็บข้อมูลการติดต่อกับพนักงานขายให้ดี

พนักงานขายในงาน Motor Expo นั้น มีทั้งแบบที่มาออกในนามของแบรนด์โดยตรง หรือมาจาก Dealer ต่างๆก็ได้ และในบางบูท พนักงานขายคนนั้นอาจจะได้มาในงานนั้นแค่วันเดียว ดังนั้นหากเราคิดว่าข้อเสนอจากพนักงานขายคนนั้นดีมาก แต่ยังไม่สามารถจองได้ในวันนั้น แนะนำให้ขอเบอร์ติดต่อหรือช่องทางอื่นๆที่ใช้พูดคุยได้ เมื่อตัดสินใจได้แล้วจะได้ติดต่อเพื่อทำการจองกับพนักงานขายคนนั้นได้อีก เพราะถ้าเรากลับไปที่งานอีกครั้ง อาจจะไม่เจอกับเขาอีกก็ได้นะครับ

 

สอบถามสถานที่ออกรถ

เนื่องจากพนักงานขายที่มาในงานนั้น จะมาจากหลากหลายช่องทาง ทั้งจากค่ายโดยตรงหรือจากทาง Dealer ดังนั้นถ้าจะออกรถแล้ว ให้ตกลงกันก่อนว่าจะไปรับรถได้ที่ไหน เอามาส่งได้ไหม เพราะเกิดโชคไม่ดีเจอพนักงานขายที่มาจากอีกฝั่งของเมือง คงไม่สนุกถ้าต้องฝ่าการจราจรหรือขับรถไปหลายกิโลเมตรเพื่อไปทำสัญญาหรือรับรถแน่นอนครับ

เลือกรถที่เหมาะกับคุณเป็นหลัก อย่าเลือกเพราะโปรโมชั่นดี

โปรโมชั่นจะอยู่กับคุณไม่นาน แต่สิ่งที่อยู่นานกว่าจะเป็นรถที่คุณซื้อมานั่นเอง ถ้ามัวแต่มองว่า โปรโมชั่นนี้เด็ดมาก พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง แต่มันดันเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้ตอบสนองการใช้งานคุณอย่างเต็มที่ แบบนี้โปรโมชั่นมันก็ช่วยให้คุณใช้รถอย่างมีความสุขไมได้ ดังนั้นให้เลือกรถที่ดีที่สุดสำหรับคุณก่อน แล้วค่อยเลือกโปรโมชั่นตามหลังมาจะดีที่สุดนะครับ

 

เทคนิคนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ทุกคนสามารถทำได้เอง และอาจจะมีเทคนิคอื่นๆปลีกย่อยลงไปอีก ถ้าใครมีเทคนิคอื่นๆที่น่าสนใจ ก็ลองมาแบ่งปันกันดูได้นะครับ น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆต่อไปได้ครับ

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ