2022 Subaru Forester Facelift ปรับโฉมหล่อเอสยูวีเจ้าป่าขวัญใจสาวก จ่อเผยจริงกลางปีนี้

ทำตลาดมา 3 ปี และได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งทั้งในไทยและต่างประเทศสำหรับ Subaru Forester เจเนอเรชั่นที่ 5 ด้วยหน้าตาดุหล่อเร้าใจพร้อมพลังขับสี่และเครื่องยนต์สูบนอนยัน ที่เป็นเอกลักษณ์จนกวาดยอดขายไปเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดเว็บรถยนต์ออสเตรเลีย รายงานว่า ซูบารุ เตรียมที่จะปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปี สำหรับ Subaru Forester Facelift ปรับหน้าตาใหม่โดยเอาหน้าหล่อมาจาก Subaru Levorg เจนใหม่มาไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมรับกับชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมไฟหน้าและไฟตัดหมอก LED กับไฟ Datytime แบบ LED horizontal พร้อมคิ้วขอบล้อใหม่ และล้ออัลอลยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18

สำหรับภายในรับอิทธิพลการออกแบบจากพี่ใหญ่ Subrau Outback เจนใหม่ ตั้งแต่ คอนโซลกลางที่มีจอสัมผัส LCD แนวตั้งความชัดสูง ขนาดใหญ่ 11.6 นิ้ว เป็นศูนย์การทำงานของเครื่องปรับอากาศ วิทยุ ระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Apple Car Play และ Android Auto เป็นต้น

ด้านขุมพลังยังคงเดิมสำหรับตลาดแต่ละประเทศไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนค์เบนซินเทอร์โบ 1.8 ลิตร DIT direct injection turbo รหัส CB18 ให้กำลังสูงถึง 177 แรงม้าที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 1,600-3,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติพัฒนาใหม่ Lineartronic CVT 8 สปีด, เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ในชื่อ e-BOXER (FB20) ฉีดตรง direct injection พร้อมระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS) 150 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 196 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 16.7 แรงม้า แรงบิด 66 นิวตันเมตร, เครื่องยนต์เบนซิน Boxer ขนาด 2.5 ลิตร (FA25) ฉีดตรง direct injection พร้อมระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS: ACTIVE VALVE CONTROL SYSTEM) 184 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิด 239 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที และ เครื่องยนต์เบนซินรหัส FB20 Boxer พร้อมระบบ Direct Injection 2.0 ลิตร 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ให้กำลังเต็มพร้อมระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS) โดยทั้ง 2.0 e-Boxer, 2.0 และ 2.5 ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ Lineartronic CVT 7 สปีด

โดยทุกขนาดเครื่องยนต์มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตรตลอดเวลา Symmetrical all-wheel drive เสริมด้วยระบบ X-MODE ช่วยในการควบคุมเครื่องยนต์ ระบบส่งถ่ายกำลังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมยานพาหนะได้อย่างมั่นใจ และเร้าใจขึ้นด้วยโหมดการขับขี่ SI-Drive ทั้งโหมด Intelligent และ Sport นอกจากนี้ยังพัฒนาระบบ Eyesight เวอร์ชั่นใหม่ให้ทำงานฉับไวขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ autonomous emergency braking system, พัฒนาระบบไม่ให้ออกนอกเลนใหม่ lane-keep assist system และระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติที่สามารถวิ่งบนถนนมอเตอร์เวย์ได้ semi-autonomous driving รวมถึงช่วงล่างพัฒนาใหม่ให้เกาะถนนดียิ่งขึ้น

เบื่องต้น Subaru เตรียมเปิดตัว Subaru Forester Facelift ช่วงกลางปีนี้ ส่วนเมืองไทยจะมีโอกาสปรับโฉมหรือไม่ ต้องติดตามกันเร็วๆนี้

ที่มา Drive