ตรวจแถว Eco Car มือสองยอดนิยมที่ควรเก็บ…..หลุดจากรถคันแรก

  • โดย : Autodeft
  • 19 ม.ค. 60
  • 46,107 อ่าน

นับตั้งแต่โครงการรถคันแรกที่ให้ถือกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของ 5 ปี ได้สิ้นสุดลงตั้งแต่ช่วงปีกลาย ทำให้ผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์เตรียมตัวที่จะนำรถยนต์คู่ใจประกาศขายทุกรูปแบบหวังให้เจอเนื้อคู่ที่สมพงษ์กัน

งานนี้ รถยนต์ที่เข้าข่ายโครงการฯ มีตั้งแต่ กลุ่มรถซับคอมแพ็ค (Sub Compact) กลุ่มรถกระบะ (Pickup) และกลุ่มรถน้องใหม่ ที่มาเปิดตลาดได้ไม่นานคือ กลุ่มรถยนต์ประหหยัดพลังงาน (Eco Car) ก่อกำเนิดยานยนต์จากหลายค่ายออกอาละวาดสู่ท้องถนนเมืองไทยทั้งในรูปแบบซีดานและแฮทช์แบค 5 ประตู

และด้วยคุณสมบัติเด่นทั้งความคล่องตัวในการใช้งานในเมือง ความสะดวกสบาย รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่สามารถทำได้ ในระดับหนึ่ง ล้วนเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ใช้รถต่างเลือกซื้อ Eco Car มาไว้ใช้ไม่ว่าจะเป็นคันที่สอง หรือสาม มาจอดไว้ในโรงรถ เป็นต้น โดยทีมงาน Autodeft ได้รวบรวมเหล่ารถ Eco Car มือสองที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถมากที่สุด 5 รุ่นด้วยกันโดยเป็นรุ่นรถที่อยู่ในโครงการรถคันแรกตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน ปี 2554 ถึง 31 ธันวาคม ปี 2555 ดังนี้

 

Nissan March

1. Nissan March Eco Car รุ่นแรกของเมืองไทย

ยานยนต์ Eco Car จากค่ายเพื่อนที่แสนดี ขอประเดิมลงตลาดครั้งแรกจนสร้างยอดจองมหาศาลกว่า 5,000 คันหลังเปิดตัวเพียง 2 สัปดาห์ ในร่าง Hatchback 5 ประตูพร้อมความโดดเด่นในรูปลักษณ์อ้วนป้อมมีเสน่ห์เสริมความเด่นออฟชั่นที่ทันสมัยไม่ว่าจะเป็น ปุ่ม Push Start พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบพับ 60 : 40 กับความอัจฉริยะของระบบเกียรอัตโนมัติ Xtronic CVT กับเกียร์ธรรมดา ผสานขุมพลังจอมประหยัดจากเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบ 79 แรงม้า แรงบิด 106 นิวตันเมตรที่ให้ความประหยัดน้ำมันสูงสุด 20 กม./ลิตร

ทำให้ Nissan March กลายเป็นรถ Hatchback เล็กที่ถามถึงกันมาก ด้วยราคามือสองตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน เริ่มที่ 195,000 – 359,000 บาท ตามสภาพและปีของตัวรถ

Nissan Almera

2. Nissan Almera Eco Car ซีดานรุ่นแรกของเมืองไทย

หลังทำตลาด Nissan March เพียง 1 ปี ตอกย้ำความสำเร็จ ส่งคู่หูออกตลาดในร่างซีดาน4 ประตู กับจุดแข็งเน้นความเรื่องความสบายที่มากขึ้นด้วยภายในที่กว้างขวางนั่งสบาย ดุจรถยนต์นั่งระดับคอมแพ็คจนถึงขนาดกลางพร้อมขุมพลังยกชุดจาก March ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบ 79 แรงม้า แรงบิด 106 นิวตันเมตร พร้อมเกียรอัตโนมัติ Xtronic CVT กับเกียร์ธรรมดา จนกลายเป็น Eco Car ซีดานที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น และเป็น Eco Car อีกหนึ่งรุ่นในตลาดรถมือสอง ที่มองหาเป็นเจ้าของสำหรับคนเมืองที่เริ่มต้นชีวิตครอบครัว เริ่มต้นทำงานด้วยราคามือสองที่เด่น ตั้งแต่ 245,000 – 388,000 บาท

Suzuki Swift

3. Suzuki Swift………..Eco Car ออพชั่นเพียบ

ตามมาติดๆกับเจ้าพ่อรถเล็กที่ขอกระโดดเข้าร่วมตลาด Eco Car ด้วยรูปทรง Hatchback 5 ประตู คล้ายละม้ายกับรถ MINI รวมถึงการตัดสินใจใช้เครื่องยนต์เบนซิน K12B 1.2 ลิตร 4 สูบ 91 แรงม้า แรงบิด 118 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT และ เกียร์ธรรมดา ผสมกับออฟชั่นที่ให้มาไม่วาจะเป็น ปุ่ม Push Start พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบพับ 60 : 40 แถมเป็น Eco Car เจ้าเดียวที่ติดตั้ง Cruise Control ให้เพื่อความสบายในการเดินทางไกล และ Paddle Shift สร้างความเร้าใจทุกกการขับขี่ จนกลายเป็นรถ Eco Car อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนเป็นที่สนใจจากสาวกและยังสามารถต่อยอดตกแต่งได้ตามต้องการ ด้วยราคามือสองที่ดี่ที่สุดในตลาดตั้งแต่ปี 2555 เริ่มที่ 292,000 – 410,000 บาท

Mitsubishi Mirage

4. Mitsubishi Mirage Eco Car ที่ให้คุณได้มากกว่า

 

ค่ายทรีไดมอนด์นอกจากจะถนัดรถกระบะกับรถอเนกประสงค์แล้ว ด้านรถยนต์นั่งก็ไม่เป็นรองใคร จึงเล็งเห็นการเติบโตของตลาด Eco Car พร้อมนำชื่อ Mirage กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้งด้วยรูปแบบ Hatchback 5 ประตู จากเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 78 แรงม้า แรงบิด 100 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ INVESC III CVT กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมระบบปุ่ม Push Start กับ กุญแจอัจฉริยะ และสามารถพับเบาะหลังได้ ฯลฯ และด้วยราคามือสองที่ยังคุยกันได้ เริ่มที่ 199,000 -359,000 บาท

Honda Brio Amaze

5. Honda Brio Amaze Eco Car ตัวตนเด่นด้วยท้ายสั้น

ปิดท้ายด้วย Eco Car ซีดานเล็กรุ่นที่ 2 ท้าชน Nissan Almera ด้วยการนำ Brio 5 ประตู มาออกแบบบั้นท้ายใหม่ที่สั้นกว่าใครในกลุ่ม กับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน I-VTEC 1.2 ลิตร 4 สูบ 90 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT กับออพชั่นบ้านๆที่ทุกค่ายมีเหมือนกันทั้งหมด ตั้งแต่ พวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้าน ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า EPS วิทยุ MP3 เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ถึงแม้จะเป็นรถที่ไม่ค่อยโดดเด่นมากในเรื่องออพชั่นแต่ด้วยขุมพลัง ที่มีไม่กี่เจ้าที่ใช้เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบส่งให้เจ้า Brio Amaze ก็ได้รับการตอบรับที่ดีไม่แพ้เจ้าอื่นๆ กับราคามือสองตั้งแต่ราคา 269,000 – 369,000 บาท

 

อ้างอิงราคารถมือสองจาก Taladrod (ราคารถมือสองอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์)

เรื่องและเรียบเรียงโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (นายเต้ย)

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

 

 

5 เรื่องน่าสนใจ