Buying Guide :ทดลองขับรถมือสอง ทำอย่างไรกันนะ ...

มารุ้จักขั้นตอนการตรวจสอบรถยนต์มือสองด้วยการทดลองขับ หนึ่งในวิธีที่ดีที่วันนี้จงทำ ถ้าคุณมีโอกาส

 

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

ทุกวันนี้รถยนต์มือสองต่างมีราคาถูกลงกว่าเดิม และต้องยอมรับว่าเราหลายคน ต่างสนใจที่จะคบหารถยนต์มือสองมากขึ้น และแม้มันจะดูน่ากลัว แต่เชื่อหรือไม่ว่าการทดลองขับเป็นสิ่งหนึ่งที่บอกได้ดีถึงรถทั้งคัน

ไม่มีใครเคยบอกว่า รถมือสองไม่สามารถทดลองขับได้ ทุกวันนี้เต็นท์รถในบ้านเรา ใช้การทดลองขับเป็นวิธีหนึ่งในการซื้อใจลูกค้าให้มั่นใจสินค้า และเราต้องยอมรับว่ามันเป็นโอกาสที่ดีในการขับขี่ของใครหลายคนที่จะพิสูจน์ในคุณภาพรถคันนั้นๆ ดีที่สุด

ไม่มีใครเคยเผยวิธีทดสอบรถมือสองมาก่อน เราหลายคนต่างคิดว่าการทดลองขับรถยนต์นั่นอาจจะมีในรถใหม่เท่านั้น แต่ความจริงแล้วการทดลองขับรถมือสองก็มีกลเม็ดที่แทบไม่แตกต่างกัน แต่ว่าอาจจะมีทริคเล็กน้อยที่แตกต่างกัน

 

เจอกันครั้งแรก ...

 

สมมุติว่าคุณคุยกับคนขายรู้เรื่องและพวกเขายินดีในการทดลองขับของคุณ เมื่อเริ่มต้นกระบวนการทดลองขับ สิ่งแรกที่ควรทำเลยคือการสตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วปล่อยให้มันเดินเบา

ระหว่างนี้คุณอาจจะใช้เวลาเดินดูรอบๆ รถ รวมถึงเปิดฝากระโปรงเพื่อตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ว่าปกติดีหรือไม่ ตัวเครื่องยนต์มีเสียงผิดปกติในการทำงานหรือเปล่า และถ้ามันดูเรียบร้อยดี คุณสามารถตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ได้อีกทาง โดยดูที่ท่อเสียว่า มีลักษณะอาการผิดปกติของเครื่องยนต์หรือไม่ ไม่ว่าจะควันดำหรือควันขาว มันไม่ดีทั้งนั้น

หลังจากนั้นลองเร่งฟังเสียงเครื่องยนต์สักเล็กน้อย เพื่อดูเสียงที่น่าจะผิดปกติ ถ้าไม่มีและผ่าน ก็ได้เวลาขั้นต่อไป

 

ตรวจสอบภายใน

การทดลองขับมีข้อดีอยู่ประการ คือคุณมีโอกาส ตรวจสอบคุณภาพของการใช้งานในห้องโดยสารของเจ้าของเก่าโดยละเอียดกว่าที่คุณมาประเดี๋ยวประด๋าวเดินไปมา และบอกว่ารถคันนี้ดีจริงๆ น่าซื้อจริงๆ

ในขั้นตอนตรงนี้คุณใช้เวลานั่งอยู่ภายในรถเป็นเวลานาน และมันมากพอที่จะรู้ว่าเจ้าของเก่าใช้รถอย่างไร เริ่มจากมันมีกลิ่นอับหรือไม่ ซึ่งแม้ว่ามันจะดูเป็นปกติของรถที่ไม่ได้ขับเป็นเวลานานๆ แต่บางครั้งกลิ่นอับเกิดจาก การสูบบุหรี่ในรถของเจ้าของเก่า หรือ ถ้าคุณโชคร้ายก็มาจากรถยนต์จมน้ำ  ซึ่งถ้าคิดว่ารถคันนั้นกลิ่นไม่ดี รีบขับรีบคืนอย่าเสียเวลาใย

เช่นกันพวกหนังบนพวงมาลัยสามารถบอกสภาพการใช้งานได้มากเช่นกัน รวมถึงตัวเบาะนั่ง ตรวจสอบการทำงาน เช่นการปรับระดับสูงต่ำ หรือ การซัพพอร์ทว่ายังดีหรือไม่  มีรอยปริฉีกขาดหรือไม่ หรือถ้าเต็นท์หรือผู้ขายซ่อมมา คุณจะรู้ก็ตอนนี้แหละ

ท้ายสุด ตรวจสอบระบบความบันเทิงในรถดุว่ายังใช้งานได้ดีหรือไม่ รวมถึงระบบไฟฟ้าต่างๆ เช่นระบบกระจกไฟฟ้าว่าเป็นอย่างไร ก็เป็นอันจบ

 

ออกสู่ถนนได้...

เมื่อทุกอย่างพร้อม ได้เวลาออกถนน แต่จงจำไว้ว่าผู้ขายมักจะพยายามเตรียมรถไว้ก่อนที่คุณจะมาเพื่อให้สัมฤทธิผลในการที่ลูกค้าจะซื้อรถคันนั้นมากที่สุด พยายามตรวจสอบให้ทุกอย่างอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยเฉพาะลมยาง บางทีผู้ขายก็อาจจะลืมไป ทางที่ดี คุณอาจจะขับไปปั้มใกล้ๆ ตรวจสอบลมยางดูก็ได้ หลังจากนั้นก็เป็นเวลาของการสำรวจข้อมูล

ทุกนาทีที่อยู่บนรถคือการบอกสภาพการใช้งานของรถว่ามันมีสภาพเป็นอย่างไร  การทดลองขับนั้นมีข้อดีตรงที่ มันบอกทุกอย่างเกี่ยวกับรถ ไม่ว่าจะระบบช่วงล่าง ระบบพวงมาลัย ไปจนถึงระบบเกียร์ว่ามันยังทำงานเป็นปกติหรือไม่

มันไม่สำคัญว่าคุณขับรถที่ต้องการนานเท่าไร แต่มันสำคัญอยู่ที่คุณได้อะไรจากการขับบ้าง  สิ่งที่ควรสังเกตนั้นคือการพยายามดูว่ามีอะไรที่น่าจะเป็นข้อบกพร่องในการขับขี่บ้าง มีการสั่นสะเทือนที่ผิดปกติหรือไม่

การขับทดสอบ คุณไม่จำเป็นต้องขับอะไรบุ่มบ่าม พยายามขับรถแบบธรรมดา เพ่อหาข้อบกพร่องของรถ และ อาจจะเร็วบ้างเป็นบางจังหวะ เพื่อลองระบบ แต่จงจำไว้ว่าคุณอาจจะยังไม่ต้องการซื้อรถคันนี้ จงระวังไว้ให้ดีต่อเรื่องการเกิดอุบัติเหตุ

ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน อย่าเพิ่งพูดอะไรที่จะผูกมัดคุณกับการซื้อรถยนต์คันนั้นโดยเด็ดขาด จำไว้ว่าของทุกอย่างสามารถซ่อมได้ และให้เต็นท์รถเรียกค่าเสียหายมา ..จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องผูกมัดตัวเองกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี หากการทดสอบพบปัญหาในการขับขี่ เช่นเสียงดัง หรืออาการที่น่าจะเกิดจากการบกพร่องของรถ จงจำมันไว้คุณอาจจะตัดสินไม่ซื้อรถคันนั้น แต่ถ้าปัญหา ดังกล่าวยังสามารถรับได้ คุณอาจจะกลับมาพร้อมช่างในวันหลังลองขับอีกครั้งและบางทีพวกเขาอาจจะสามารถบอกได้ว่าปัญหาคืออะไร   ที่สำคัญที่สุดค่าซ่อมมันน่าจะสักเท่าไรกัน

 

การทดลองขับรถมือสองนั้นต่างจากการขับรถใหม่ตรงที่ รถยนต์มือสองนั้นคุณต้องการรู้สภาพรถไม่ใช่สมรรถนะในการขับขี่ ซึ่งแม้ว่าหลายคนอาจจะกล้าๆกลัวในการทดลองขัย แต่มันคือวิธีที่ดีสุดที่บอกสภาพรถยนต์คันนั้นๆ

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com