เจาะรถเด่น!! เปิดรายชื่อ 4 รุ่นรถใหม่ ค่าย Nissan จ่อเข้าไทย ความหวังใหม่ค่ายเพื่อนที่แสนดี
- โดย : Autodeft
- 28 พ.ค. 63 00:00
- 8,044 อ่าน
หลังจากที่ นิสสัน มอเตอร์ ประกาศแผนธุรกิจระยะ 4 ปี เพื่อเป็นการสร้างกำไรสร้างรายได้ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงหยุดการทำตลาดและหยุดการประกอบในบางประเทศ คาดหวังว่ามีกำไรเติบโตร้อยละ 5 จากผลการดำเนินงาน และ ร้อยละ 6 จากสัดส่วนทางการตลาดทั่วโลก เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณปี 2023
สำหรับประเทศไทยทาง นิสสัน มอเตอร์ หวังให้เป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่สุดในอาเซี่ยน ด้วยการหยุดการประกอบโรงงาน บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ซึ่งอาจทำให้ไลน์การผลิต Nissan Navara ที่จำหน่ายในยุโรปอาจโยกกลับมาที่เมืองไทยและหยุดไลน์การประกอบที่อินโดนีเซียแทน ทำให้ นิสสัน ในประเทศไทย มีความโดดเด่นเป็นฐานการผลิตรถยนต์คุณภาพส่งไปยังต่างประเทศรวมถึงส่งไปย้งประเทศญี่ปุ่น
ด้านรถใหม่ในประเทศไทยหลังจากเปิดตัว All New Nissan Almera ช่วงปีกลาย และ Nissan Kicks e-Power ตั้งแต่กลางปี 2020 เป็นต้นไปเตรียมที่จะเผยรถยนต์รุ่นใหม่ 4 รุ่น ซึ่งสอดคล้องนโยบายของทาง นิสสัน มอเตอร์ ที่จะเน้นรถยนต์ในกลุ่ม C และ D Segment รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารวมถึง เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ และรถสปอร์ต ด้วยการเดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 12 รุ่น ในอีก 18 เดือนข้างหน้า เริ่มที่
1. Nissan Navara Big Minor Change
กระบะอัจฉริยะที่ครั้งนี้ปรับโฉมครั้งใหญ่ทั้งหน้าตาภายนอกภายในที่ดุดันกว่าเดิม คาดด้านหน้าถอดแบบมาจาก Nissan Titan ที่จำหน่ายในอเมริกา ตั้งแต่กระจังหน้า รูปตัววี ไฟหน้าใหม่ LED พร้อมไฟ daytime แบบ LED รูปตัว C ฝากระโปรงใหม่ บังโคลนหน้า ซ้าย-ขวาใหม่ กระบะท้ายใหม่ และราวหลังคาใหม่ด้านขุมพลังมีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้ขุมพลังใหม่ YS23 เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบใหม่ 2.3 ลิตร 163 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ในรุ่น YS23DDT และเทอร์โบคู่ 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ในรุ่น YS23DDTT จับคู่กับระบบส่งกำลังทั้ง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราทดใหม่และช่วยลดความถี่ในการเปลี่ยนเกียร์และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ระบบขับเคลื่อนมีทั้งรุ่น 2WD และรุ่น 4WD
เจเนอเรชั่นใหม่เก๋งเล็ก 5 ประตู Hatchback ที่คาดว่าจะกระโดดเข้าร่วม อีโค่คาร์เฟส 2 แบบเดียวกับ Nissan Almera เพราะถ้าเป็นจริงอาจเป็นการยกระดับรถในกลุ่ม B-Car ยุคใหม่ คาดอาจมีการนำขุมพลังใหม่ยกชุดจาก Nissan Almera ขนาด 1.0 ลิตร 3 สูบ รหัส HRA0 ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้าที่ 5,000 รอบ/นาที มีแรงบิดถึง 152 นิวตันเมตร 2,400 -4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic และความปลอดภัยรอบคันภายใต้แนวคิดเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต Nissan Intelligent Mobility
3. Nissan Terra Big Minorchange
เปิดตัวในไทยเกือบ 2 ปี หน้าตาความหล่อกลับไปซ้ำบุคลิกแบบเดียวกับ Nissan Navara จนมียอดขายไม่น่าพอใจ งานนี้ออกแบบใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ดุเข้มกว่าเดิม งานนี้ยกหน้าตาแบบเดียวกับ Nissan Patrol Big Minor Change สิงห์ทะเลทราย โดยเฉพาะกระจังหน้ารูปตัววี ไฟหน้า LED ทรงเรียวขึ้นกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่ดุดันกว่ารุ่นเดิม ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60 R18 เสาอากาศครีบฉลาม ด้านท้ายมีแนวโน้มปรับด้วยเช่นกันด้วยไฟท้ายใหม่ LED ขุมพลังยังคงเดิมกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ รหัส YS23DDTT 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบ five-link coil spring rear suspension system เลือกได้ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยรอบคัน และอาจได้เห็นดิสก์เบรก 4 ล้อ ก็เป็นได้
เอสยูวีเจนใหม่ (เจเนอเรชั่นที่ 4) แต่เอกลักษณ์ยังคงเดิมตั้งแต่กระจังหน้าทรงรูปตัววี ขนาดใหญ่ พร้อมไฟหน้า LED ดีไซน์เรียวเร้าใจ พร้อม DRL อยู่บนสุดและแยกไฟเลี้ยวออกมาออกแบบหลังคาที่ลาดลงเน้นความสปอร์ตมากขึ้น ด้านท้ายออกแบบใกล้เคียงกับเจนที่แล้วอยู่พอสมควรพร้อมไฟท้าย LED ทรงบูมเมอแรงรับกับกันชนหลังใหม่ให้โค้งรับกับตัวรถ เอกลักษณ์เบาะนั่ง 3 ตอน 7 ที่นั่ง ยังคงอยู่ ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ ที่ให้พลังมากกว่าเดิมถึง 191 แรงม้า แรงบิด 244 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT เพิ่มระบบความปลอดภัยมากขึ้นตามแนวคิดเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต Nissan Intelligent Mobility
รถยนต์ใหม่ ทั้ง 4 รุ่นจาก นิสสัน เป็นหนี่งในแผน Nissan Next สูตรปฎิบัติการเร่งโตเร่งมีกำไร โดยจะเปิดตัวตั้งแต่กลางปีนี้ เริ่มที่ Nissan Navara Big Minorchange งานนี้ความหวังใหม่หมู่บ้านเพื่อนที่แสนดี จะสำเร็จเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้หรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Nissan
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com