CEO Jeep มั่นใจ “Cherokee Hybrid” ดึงลูกค้าใหม่ สร้างโอกาสครั้งใหญ่ให้แบรนด์

Jeep แม้จะขึ้นชื่อเรื่องความแกร่งบนทางออฟโรด แต่ก็ก้าวเข้าสู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัวแล้ว โดยที่ผ่านมา Grand Cherokee 4xe และ Wrangler 4xe ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจนกลายเป็นหนึ่งในปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในสหรัฐฯ ความสำเร็จนี้ทำให้ Jeep เดินหน้าต่อยอดด้วยแผนเปิดตัว Gladiator 4xe และ Grand Wagoneer รุ่นใหม่ที่มาพร้อมช่องชาร์จไฟในปี 2026

แต่ไฮไลต์ที่แบรนด์ฝากความหวังไว้คือ Jeep Cherokee รุ่นใหม่ปี 2026 ซึ่งนับเป็น SUV ไฮบริดรุ่นแรกของ Jeep ที่ทำตลาดในอเมริกา ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เกียร์อัตโนมัติ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.08 kWh ให้กำลังรวม 210 แรงม้า และแรงบิด 312 นิวตันเมตร

แม้ตัวเลขแรงม้าจะด้อยกว่าคู่แข่งบางรุ่น แต่ Cherokee ใหม่ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ถึง 42 ไมล์/แกลลอนในเมือง, 33 ไมล์/แกลลอนนอกเมือง และเฉลี่ย 37 ไมล์/แกลลอน ซึ่งถือว่าน่าประทับใจสำหรับ SUV ขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีตัวถังใหญ่กว่าคู่แข่งหลายราย

Bob Broderdorf ซีอีโอ Jeep เชื่อมั่นว่าการใช้ระบบไฮบริดจะช่วยเปิดประตูสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยสนใจ Jeep มาก่อน พร้อมย้ำว่าระบบขับเคลื่อนคือ “หัวใจและจิตวิญญาณของรถ” และ Cherokee Hybrid คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์โดดเด่นในตลาด SUV

แม้ชื่อ Cherokee จะห่างหายจากตลาดมาระยะหนึ่ง แต่ Jeep กลับเชื่อว่านี่จะเป็น “คู่แข่งที่พร้อมชนทันที” และด้วยจุดขายด้านความประหยัดและเทคโนโลยีไฮบริด Cherokee 2026 ก็น่าจะกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกเด่นเหนือคู่แข่งอย่าง Chevrolet Equinox และ GMC Terrain ได้ไม่ยาก

ที่มา Carscoops