เมื่อจืดจาง น้ำตาล ยังว่าขม...ประธานาธิบดี Donald Trump เตรียมขาย Tesla Model S หลังขัดแย้ง Elon Musk รุนแรงผ่านโซเชียล
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 9 มิ.ย. 68 11:34
- 1,014 อ่าน
กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก เมื่อสองบุคคลทรงอิทธิพลแห่งยุคอย่าง อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump และ Elon Musk ซีอีโอ Tesla และ SpaceX เปิดศึกวิวาทะกันแบบเปิดเผยผ่านโลกโซเชียลอย่างดุเดือด และล่าสุดมีรายงานว่า Trump เตรียมขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S สีแดง ที่เขาเคยซื้อไว้ ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่เย็นชาลงอย่างเห็นได้ชัด
จากมิตรกลายเป็นศัตรู สงครามน้ำลายเริ่มต้นบนแพลตฟอร์ม X
ความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อ Elon Musk โพสต์ในแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อ Twitter) วิจารณ์ร่างกฎหมายงบประมาณใหม่ของสหรัฐฯ ว่า “ไร้ความรับผิดชอบทางการเงิน” ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ Trump ทันที โดยเขาตอบโต้ผ่านสื่อว่ารู้สึก “ผิดหวัง” กับท่าทีของ Musk จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เริ่มตอบโต้กันไปมาอย่างเปิดเผย
แม้จะดูเหมือนเพียงความเห็นไม่ตรงกันในเชิงนโยบาย แต่ผลกระทบกลับรุนแรงกว่าที่คิด
Tesla หุ้นดิ่ง - SpaceX เสี่ยงโดนตัดงบ
ศึกครั้งนี้ส่งผลกระทบทางการเงินอย่างชัดเจน โดย หุ้น Tesla ดิ่งลงถึง 14% ภายในวันเดียว ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยในวันถัดมา ขณะที่ SpaceX ก็ส่อแววลำบาก หลัง Trump ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะ พิจารณาตัดงบสัญญาจากภาครัฐ ที่ SpaceX พึ่งพาอยู่ไม่น้อย
สื่อสหรัฐฯ แฉ Trump เตรียมขาย Tesla Model S สีแดง
แม้ตามระเบียบแล้ว ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถบนถนนสาธารณะ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่การที่ Trump เคยซื้อ Tesla Model S สีแดง ถือเป็นสัญลักษณ์ถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขากับ Musk ในช่วงหนึ่ง
โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยังมีภาพไลฟ์สดที่แสดงให้เห็น รถ Tesla หลายคันจอดเรียงรายบนสนามหญ้าทำเนียบขาว แต่วันนี้กลับมีรายงานว่า Trump เตรียม ขายรถคันดังกล่าวออกไป ซึ่งชี้ชัดถึงความเย็นชาทางการเมืองและส่วนตัวที่กำลังทวีความรุนแรง
โซเชียลเดือด คนแบ่งขั้วเชียร์-แซะกันสนั่น
ในโลกออนไลน์ ผู้ใช้งานแบ่งเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน บางคนรู้สึกสะใจที่ Trump และ Musk ขัดแย้งกัน ขณะที่อีกฝ่ายกลับรู้สึกผิดหวัง เพราะเชื่อว่าทั้งสองคนควรร่วมมือกันสร้างสรรค์อนาคตมากกว่ามาตีกัน
แม้การขาย Tesla Model S อาจไม่ใช่สัญญาณภัยร้ายแรงที่สุด แต่หลายฝ่ายมองว่า นี่คืออีกก้าวหนึ่งของการปะทะที่ไม่มีใครยอมใคร และอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ใหญ่กว่านี้ในทั้งวงการการเมืองและธุรกิจเทคโนโลยี
ข้อมูลจาก Caranddriver
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com