Kia K4 Hatchback ใหม่ ตัดรุ่นพื้นฐาน จัดสเปกแน่น ราคาโดน
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 21 ธ.ค. 68 09:50
- 1,033 อ่าน
Kia เตรียมส่ง K4 Hatchback รุ่นใหม่ลงตลาด พร้อมแนวทางที่แตกต่างจากรถแฮตช์แบ็กทั่วไป ด้วยการตัดรุ่นราคาประหยัดออกไป แต่ชดเชยด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่จัดเต็ม พื้นที่ใช้งานที่มากขึ้น และสมรรถนะที่เหนือกว่า ทำให้ภาพรวมของรถยังคงดูคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน แม้ดีไซน์ภายนอกอาจไม่ถูกใจทุกคนก็ตาม

จากการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ K4 Hatchback จะทำตลาดในปีหน้า พร้อมตัวเลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย โดยรุ่นเริ่มต้นคือ K4 EX ราคา 24,890 ดอลลาร์สหรัฐ ยังไม่รวมค่าขนส่งปลายทาง แม้จะสูงกว่ารุ่นซีดานเริ่มต้น แต่เป็นผลจากการที่รุ่นแฮตช์แบ็กไม่มีรุ่น LX และ LXS แบบเดียวกับซีดาน เมื่อเปรียบเทียบกับ K4 EX Sedan ที่มีราคา 24,390 ดอลลาร์ จะพบว่าต่างกันเพียง 500 ดอลลาร์ ซึ่งแลกกับรูปทรงตัวถังที่อเนกประสงค์กว่าและพื้นที่เก็บสัมภาระที่มากขึ้น
หากนำไปเทียบกับคู่แข่งโดยตรง K4 Hatchback มีราคาสูงกว่า Toyota Corolla Hatchback อยู่เล็กน้อย แต่กลับถูกกว่า Honda Civic Hatchback หลายพันดอลลาร์ และยังมีราคาต่ำกว่า Mazda3 Hatchback ด้วย ทำให้ Kia K4 กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจด้านความคุ้มค่าในตลาดรถคอมแพ็กต์

รุ่นกลางของไลน์อัพคือ K4 GT-Line ราคาเริ่มต้น 25,890 ดอลลาร์ ขณะที่รุ่นท็อปคือ K4 GT-Line Turbo ราคา 28,790 ดอลลาร์ โดยรุ่น EX และ GT-Line ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 147 แรงม้า แรงบิด 132 ปอนด์-ฟุต ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ IVT ซึ่งเป็นระบบ CVT ในรูปแบบของ Kia
สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น รุ่น GT-Line Turbo มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 190 แรงม้า แรงบิด 195 ปอนด์-ฟุต จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แทนที่ระบบ IVT พร้อมช่วงล่างที่ปรับจูนแนวสปอร์ตในรุ่น GT-Line ทั้งสองรุ่น เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่โดยไม่ลดทอนความสบายมากนัก

ด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง รุ่น EX และ GT-Line ทำได้เฉลี่ย 30 ไมล์ต่อแกลลอน ขณะที่ GT-Line Turbo อยู่ที่ 28 ไมล์ต่อแกลลอน ซึ่งถือว่ายังเป็นรองคู่แข่งบางรายเล็กน้อย
Kia ยังเปิดให้เลือกออปชันเสริมหลายรายการ โดยรุ่น GT-Line และ GT-Line Turbo สามารถเพิ่มแพ็กเกจตกแต่งภายในโทนแดง ซึ่งมาพร้อมเบาะสีดำสลับแดง พวงมาลัยตกแต่งสีแดง และวัสดุภายในโทนเดียวกัน ขณะที่รุ่น GT-Line ยังสามารถอัปเกรดเป็น Premium Package ที่เพิ่มระบบเสียง Harman Kardon หน้าจอดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว หลังคาซันรูฟ เบาะนั่งระบายอากาศ และเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง

สำหรับรุ่น GT-Line Turbo ยังมี Technology Package ซึ่งเพิ่มอุปกรณ์ล้ำสมัยอย่างระบบกุญแจดิจิทัล กล้องรอบคัน ระบบแสดงภาพจุดอับสายตา ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินขั้นสูง และไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความเป็นรถแฮตช์แบ็กสมัยใหม่ที่เน้นทั้งสมรรถนะและความคุ้มค่าในระยะยาว
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com




