ลอนดอนเตรียมรับมือแท็กซี่ไร้คนขับ เมื่อประสบการณ์จากสหรัฐอาจไม่ราบรื่นอย่างที่คิด
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 23 ธ.ค. 68 21:25
- 1,002 อ่าน
แม้รถแท็กซี่ไร้คนขับจะเริ่มกลายเป็นภาพคุ้นตาบนชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา แต่สำหรับชาวอังกฤษและยุโรป นี่ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ดูเหมือนหลุดมาจากหนังไซไฟ เพราะบริการแท็กซี่ในชีวิตจริงยังคงต้องมีคนขับอยู่หลังพวงมาลัย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อทั้ง Uber Technologies และ Lyft ยืนยันแผนนำแท็กซี่ไร้คนขับเข้าสู่สหราชอาณาจักร โดยตั้งเป้าเริ่มโครงการนำร่องในปี 2026 หากได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานกำกับดูแล

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังแผนนี้มาจาก Apollo Go แผนกพัฒนารถไร้คนขับของ Baidu บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน ซึ่งปัจจุบันให้บริการรถแท็กซี่อัตโนมัติในหลายเมือง และอ้างว่ามีผู้ใช้งานหลายแสนเที่ยวต่อสัปดาห์ แผนการคือการนำรถเหล่านี้มาให้บริการผ่านแอป Uber และ Lyft ในกรุงลอนดอน ทำให้เมืองหลวงของอังกฤษกลายเป็นหนึ่งในสนามทดสอบรถไร้คนขับที่โดดเด่นที่สุดในยุโรป
Lyft ระบุว่าจะเริ่มทดสอบด้วยรถ Baidu RT6 ซึ่งเป็นมินิแวนไฟฟ้าไร้คนขับจำนวนหลายสิบคัน ก่อนขยายเป็นหลักร้อยในระยะถัดไป ขณะที่ Uber วางแผนเปิดโครงการนำร่องของตัวเองในช่วงครึ่งแรกของปี 2026
ทั้งสองบริษัทได้ยุติความพยายามในการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติด้วยตนเองอย่างเงียบ ๆ และหันมาใช้แนวทางเช่าหรือร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบอัตโนมัติแทน เนื่องจากช่วยลดต้นทุน ประหยัดเวลา และทำให้สามารถโฟกัสกับแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันได้มากกว่าการสอนรถให้รับมือกับสถานการณ์ซับซ้อนบนท้องถนน เช่น ทางม้าลายหรือการจราจรหนาแน่น

จังหวะเวลานี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้เร่งแผนอนุญาตให้มีการใช้งานรถแท็กซี่ไร้คนขับในวงจำกัดตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2026 ขณะที่นโยบาย Vision Zero ของลอนดอน ซึ่งมุ่งลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ ทำให้เทคโนโลยีอัตโนมัติกลายเป็นตัวเลือกที่ดูน่าสนใจในเชิงการเมือง
ในทางทฤษฎี การลดจำนวนคนขับย่อมหมายถึงการลดความผิดพลาดจากมนุษย์ แต่ในโลกความจริง รถแท็กซี่ไร้คนขับจะต้องรับมือกับการจราจรของลอนดอนที่ขึ้นชื่อเรื่องความซับซ้อนให้ได้
ที่ผ่านมา รถแท็กซี่ไร้คนขับได้ให้บริการในบางพื้นที่ของสหรัฐแล้ว โดยเฉพาะ Waymo ซึ่งก็มีแผนจะเข้าสู่ตลาดสหราชอาณาจักรในปีหน้าเช่นกัน ประสบการณ์จากฝั่งอเมริกาชี้ให้เห็นว่า เทคโนโลยีนี้มีทั้งช่วงเวลาที่ทำงานได้อย่างน่าประทับใจ และช่วงเวลาที่น่าอึดอัด ตั้งแต่การหยุดรถแบบไม่จำเป็น การชะลอความเร็วอย่างกะทันหัน ไปจนถึงการสร้างรถติดเพราะระบบไม่แน่ใจว่าจะตัดสินใจอย่างไร
ตัวอย่างล่าสุดเกิดขึ้นในซานฟรานซิสโก เมื่อรถ Jaguar I-Pace ของ Waymo ที่ขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบสามคันติดอยู่กลางสี่แยก หลังจากหนึ่งคันเฉี่ยวชนอีกคัน ส่งผลให้รถทั้งหมดหยุดนิ่งและไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ จนต้องให้มนุษย์เข้ามาแก้ไขสถานการณ์
หากลอนดอนกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคแท็กซี่ไร้คนขับในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมืองนี้อาจต้องเตรียมใจรับทั้งความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีใหม่ และความโกลาหลเล็ก ๆ ที่อาจตามมาในช่วงเริ่มต้น
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com




