Mazda ยืนยันชัด BT-50 ยังเดินหน้าดีเซล ไม่รีบลุยรถกระบะไฟฟ้า

กระแสรถกระบะไฟฟ้ากำลังมาแรงทั่วโลก แต่ Mazda ดูเหมือนจะเลือกเส้นทางต่างออกไป โดยล่าสุด Mazda Australia ยืนยันว่า BT-50 จะยังไม่เปลี่ยนไปใช้ขุมพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบเหมือนคู่แฝดอย่าง Isuzu D-Max ที่เพิ่งเปิดตัวเวอร์ชัน EV ไปไม่นานนี้
Isuzu D-Max EV มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 188 แรงม้า ระยะทางวิ่ง WLTP ราว 263 กิโลเมตร ใช้แบตเตอรี่ 66.9 kWh แต่ราคาก็เปิดตัวสูงกว่ารุ่นดีเซลอย่างชัดเจน ขณะที่ Mazda ยังคงเชื่อมั่นว่าดีเซลเหมาะสมกับการใช้งานรถกระบะมากที่สุด ทั้งในด้านแรงบิดต่ำ ความทนทาน การบรรทุกและลากจูง

Vinesh Bhindi กรรมการผู้จัดการ Mazda Australia เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า “ดีเซลในรถกระบะจะยังคงอยู่ต่อไป ผมไม่เห็นอนาคตที่มีแต่ปลั๊กอินไฮบริดหรือรถกระบะไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ดีเซลยังคงมีความเหมาะสม และหากดูตามมาตรฐาน NVES (New Vehicle Efficiency Standard) เทคโนโลยีดีเซลยังปล่อย CO₂ ได้น้อยกว่าทางเลือกอื่น ๆ”

แม้ว่าคู่แข่งในตลาดอย่าง Ford Ranger, BYD Shark และ GWM Cannon Alpha จะหันมาใช้ระบบปลั๊กอินไฮบริดแล้ว รวมถึง Nissan Navara และ Mitsubishi Triton รุ่นใหม่ที่กำลังจะตามมา แต่ Mazda ยังไม่รีบร้อนในการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม อาจไม่ปิดโอกาสการปรับใช้ระบบไมลด์ไฮบริดดีเซลแบบที่ Toyota Hilux ทำ ซึ่งช่วยลดการสิ้นเปลืองและการปล่อยมลพิษโดยไม่เสียข้อได้เปรียบของดีเซล

ปัจจุบัน Mazda BT-50 เจเนอเรชันที่ 3 เปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 และเพิ่งปรับโฉมล่าสุดในปี 2024 วางจำหน่ายในออสเตรเลียพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2 ขนาด ได้แก่ 2.2 ลิตร 161 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร และ 3.0 ลิตร 187 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร

ที่มา Carscoops