Mazda เร่งขยายตลาดญี่ปุ่น ตั้งเป้า 200,000 คันต่อปี รับมือภาษีนำเข้าสหรัฐฯ
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 24 มิ.ย. 68 10:30
- 1,136 อ่าน
Mazda ประกาศแผนการ "เติบโตใหม่" ในตลาดประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งเป้าหมายยอดขายรถยนต์ 200,000 คันต่อปี ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อรับมือกับผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่ส่งผลต่อการส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐอเมริกา
📊 เป้าหมายและสถิติปัจจุบันของ Mazda
- เป้าหมายยอดขายในญี่ปุ่น 200,000 คัน/ปี
- ยอดขายปัจจุบัน (เม.ย. 2024 - มี.ค. 2025) 152,000 คัน 33%
- การเพิ่มขึ้นที่ต้องการ
- ยอดขายรถใหม่ในสหรัฐฯปี 2024 รวม 424,382 คัน (สถิติสูงสุด)
ตำแหน่งตลาดญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ Mazda รองจากสหรัฐอเมริกา แต่คิดเป็นเพียง 10% ของยอดขายทั่วโลก และเป็นแบรนด์อันดับ 6 ในญี่ปุ่น รองจาก Toyota, Suzuki, Honda, Daihatsu และ Nissan
🎯 กลยุทธ์การเติบโตในตลาดญี่ปุ่น
Mazda จะนำประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จในการเติบโตยอดขายสหรัฐฯ มาประยุกต์ใช้ในญี่ปุ่น ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก:
1. การปฏิรูปเครือข่ายการขาย
- ปรับปรุงระบบการจัดจำหน่าย
- เพิ่มประสิทธิภาพของตัวแทนจำหน่าย
- ขยายจุดการขายในพื้นที่ที่มีศักยภาพ
2. การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
- ปรับปรุงกระบวนการผลิต
- เพิ่มความคล่องตัวในการจัดส่ง
- ลดต้นทุนการดำเนินงาน
3. การลงทุนด้านการตลาด
- เพิ่มงบประมาณโฆษณา
- สร้างแคมเปญเฉพาะตลาดญี่ปุ่น
- เสริมสร้างการรับรู้แบรนด์
4. การสร้างมูลค่าแบรนด์
- ฝึกอบรมตัวแทนจำหน่าย
- ยกระดับการบริการลูกค้า
- สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า
💥 ผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ
รถยนต์ Mazda ที่ได้รับผลกระทบ
🏭 รถที่ผลิตในญี่ปุ่น (ได้รับผลกระทบภาษี 25%)
- CX-5 - รุ่นขายดีที่สุด
- CX-70
- CX-90
- MX-5
🇺🇸 รถที่ผลิตในสหรัฐฯ (ไม่ได้รับผลกระทบ)
- CX-50 - รุ่นเดียวที่ผลิตในสหรัฐฯ
🇲🇽 รถที่นำเข้าจากเม็กซิโก
- Mazda 3
- CX-30
📉 ผลกระทบต่อยอดขายและการส่งออก
| ตัวชี้วัด | ข้อมูล | การเปลี่ยนแปลง |
|---|---|---|
| ยอดขายสหรัฐฯ (พ.ค. 2025) | 28,937 คัน | -6.1% (จาก 35,562 คัน) |
| การส่งออกรถยนต์ญี่ปุ่น (พ.ค. 2025) | - | -1.7% |
| สัดส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ในการส่งออก | 28% | จากมูลค่า 21 พันล้านเยน |
มาตรการเร่งด่วนของ Mazda
Mazda ได้หยุดการส่งมอบ CX-50 ไปยังแคนาดา เพื่อส่งรถที่ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มเติมไปยังตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐฯ และเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีตอบโต้ที่แคนาดาได้กำหนดต่อรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ
🌏 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น
สถานการณ์นี้ไม่เฉพาะ Mazda เท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นโดยรวม โดย:
ด้านเศรษฐกิจ
- อุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็น 28% ของสินค้าส่งออกทั้งหมดไปสหรัฐฯ
- มูลค่าการส่งออกรวม 21 พันล้านเยน (ประมาณ 223 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
- การเจรจาการค้าระหว่างโตเกียวและวอชิงตันยังคงดำเนินต่อไป
กลยุทธ์ของผู้ผลิตรถยนต์
- เน้นตลาดในประเทศมากขึ้น
- ขยายการผลิตในสหรัฐฯ
- หาตลาดทางเลือกใหม่
🎯 บทสรุป
การตัดสินใจของ Mazda ในการขยายตลาดญี่ปุ่น ด้วยเป้าหมาย 200,000 คันต่อปี สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในการค้าระหว่างประเทศ
แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากภาษีนำเข้า แต่ Mazda มีข้อได้เปรียบจากประสบการณ์ความสำเร็จในตลาดสหรัฐฯ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างฐานลูกค้าในญี่ปุ่นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ความสำเร็จของแผนนี้จะไม่เพียงช่วย Mazda เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างสำคัญให้กับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายอื่นๆ ในการปรับตัวเพื่อรับมือกับสงครามการค้าที่อาจยืดเยื้อต่อไป
ข้อมูลจาก Drive
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com
