Mercedes-Benz GLB โฉมใหม่ จัดเต็มเทคโนโลยี หน้าจอสุดล้ำ และห้องโดยสารกว้างขวางกว่าเดิม เตรียมเปิดตัวธันวาคมนี้

Mercedes-Benz เปิดแคมเปญทีเซอร์สำหรับ GLB เจเนอเรชันที่สอง ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ โดยรุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง ห้องโดยสารที่รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ที่นั่ง และทางเลือกขุมพลังทั้งเครื่องยนต์สันดาป ไฮบริด และไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

ภายในห้องโดยสารสุดล้ำด้วยระบบ MBUX Superscreen รุ่นใหม่ ที่จะรวมจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้วเข้ากับหน้าจอกลางระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14 นิ้ว และจอผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 14 นิ้วอีกหนึ่งจอ ทั้งหมดทำงานด้วย Mercedes-Benz Operating System รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะเสมือน (MBUX Virtual Assistant) ใช้เทคโนโลยี AI และระบบนำทาง Google Maps แบบบูรณาการ

ภายในยังคงเอกลักษณ์การออกแบบของ Mercedes ด้วยช่องแอร์ทรงกลม คอนโซลกลางแบบลอยตัว พร้อมช่องวางแก้วขนาดใหญ่และแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย พวงมาลัยดีไซน์ใหม่และการจัดที่นั่งแบบ 5 หรือ 7 ที่นั่งให้เลือก

Mercedes เผยว่า พื้นที่ภายในได้รับการขยายให้กว้างขึ้นกว่ารุ่นเดิม โดยเฉพาะช่วงศีรษะและพื้นที่วางขาของผู้โดยสารตอนกลาง ขณะที่เบาะแถวที่สองสามารถปรับพนักพิงและเพิ่มการรองรับต้นขา ส่วนแถวที่สามได้รับการปรับปรุงให้เข้า-ออกสะดวกยิ่งขึ้น และสามารถพับราบซ่อนใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระเมื่อไม่ใช้งาน

หลังคากระจกพาโนรามามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมตัวเลือก หลังคา “Starry Sky” ที่มีระบบไฟเรืองแสงลวดลายดวงดาว และสามารถปรับเปลี่ยนความทึบแสงได้ในเวลาไม่กี่มิลลิวินาที กระจกหลังคายังเป็นชนิดกันความร้อนแบบเคลือบสะท้อนอินฟราเรด ช่วยลดอุณหภูมิภายในในฤดูร้อนและรักษาความอบอุ่นในฤดูหนาว

GLB ใหม่จะมาพร้อมระบบช่วยขับขี่ครบครัน ทำงานร่วมกับกล้อง 8 ตัว เรดาร์ 5 จุด เซนเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบ OTA ในอนาคต

ก่อนเปิดตัว Mercedes ได้ทดสอบสมรรถนะอย่างเข้มข้นที่ศูนย์เทคโนโลยีในเมืองซินด์เฟินเกน รวมถึงการทดสอบในอุโมงค์ลมจำลองสภาพอากาศสุดขั้ว ที่สามารถสร้างอุณหภูมิต่ำถึง -40°C และพายุหิมะที่มีความเร็วลมสูงถึง 200 กม./ชม.

ผลการทดสอบเผยว่า GLB EQ รุ่นใหม่สามารถให้ความร้อนในห้องโดยสารได้เร็วขึ้นถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียว และเพิ่มระยะทางวิ่งด้วยระบบฮีตปั๊มรุ่นใหม่ที่นำความร้อนส่วนเกินจากมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และอากาศภายนอกกลับมาใช้ซ้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านสมรรถนะ แม้ Mercedes ยังไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า GLB EQ จะใช้แบตเตอรี่ขนาด 85 kWh และมีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังประมาณ 268 แรงม้า และรุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังสูงสุดราว 349 แรงม้า พร้อมแรงบิด 515 นิวตันเมตร

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและไฮบริด จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ 1.3 kWh และเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด ให้กำลังสูงสุดระหว่าง 154–181 แรงม้า ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

การเปิดตัว Mercedes-Benz GLB ใหม่ ในเดือนธันวาคมนี้จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญของแบรนด์ดาวสามแฉก ที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพด้านพลังงานไว้ในรถ SUV อเนกประสงค์รุ่นเดียวอย่างลงตัว

ที่มา Carscoops