Mercedes Vision Iconic คอนเซปต์สุดหรูสไตล์ย้อนยุคที่ผสานอนาคตไว้ในทุกมิติ
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 19 ต.ค. 68 10:26
- 1,112 อ่าน
Mercedes-Benz ปลุกจิตวิญญาณแห่งความหรูหราจากยุค 1930 ด้วยการเผยโฉม Vision Iconic คอนเซปต์คูเป้ 2 ประตูสุดล้ำ ที่นำความคลาสสิกของดีไซน์ระดับตำนานกลับมาผสานกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างลงตัว ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นและห้องโดยสารสุดอลังการ พร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติระดับสูงและวัสดุตกแต่งที่ไม่เหมือนใครในตลาดรถยนต์
![]()
Vision Iconic มาในสัดส่วนที่สวยงามสง่างามแบบรถยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง โดดเด่นด้วยกระจังหน้าเรืองแสง “Iconic Grille” ซึ่งเคยปรากฏใน GLC EV และได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นในตำนานอย่าง Mercedes W108, W111 และ 600 Pullman ฝากระโปรงหน้าเน้นความยาวแบบรถ GT คลาสสิก เสริมด้วยเส้นข้างที่คมชัด ช่องระบายอากาศที่ซุ้มล้อ และไฟหน้าแนวดุดัน ขณะที่ด้านท้ายมีการออกแบบโค้งมนคล้าย 300 SL Gullwing สื่อถึงความทรงจำของแบรนด์ในยุคทองแห่งการออกแบบรถยนต์
โปรไฟล์โดยรวมชวนให้นึกถึง Vision Mercedes-Maybach 6 Coupe และ Cabriolet ที่เปิดตัวในช่วงกลางปี 2010 แม้ขนาดของ Vision Iconic จะกะทัดรัดกว่าเล็กน้อย แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความอลังการตามแนวทาง “ประติมากรรมเคลื่อนไหว” ซึ่ง Gorden Wagener หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Mercedes นิยามไว้ว่าเป็น "การสดุดีต่อความสง่างามเหนือกาลเวลา และเป็นถ้อยแถลงถึงอนาคตของการออกแบบ"
![]()
ห้องโดยสารคือจุดที่ Mercedes โชว์วิสัยทัศน์อย่างชัดเจน ภายในได้แรงบันดาลใจจากศิลปะแนว Art Deco โดยมุ่งสู่ความรู้สึกแบบ “เลานจ์ส่วนตัว” ที่ผสานความหรูหราเชิงกลไกเข้ากับโลกดิจิทัล หน้าปัดโปร่งใสรูปทรงเรือเหาะ Zeppelin ผสานกับพวงมาลัย 4 ก้านแบบกลม ตอกย้ำความคลาสสิกแบบร่วมสมัย ชุดมาตรวัดใช้แอนิเมชันสไตล์อนาล็อกเสมือนนาฬิกาจักรกลหรูระดับสูง
จุดเด่นตรงกลางแผงแดชบอร์ดคือชุดนาฬิกา 4 เรือนที่ออกแบบย้อนยุค หนึ่งในนั้นทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย AI เสมือนจริง ช่วยควบคุมการทำงานภายในรถแบบอัจฉริยะ พร้อมเบาะนั่งรูปแบบเบนช์บุผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม ตัดกับงานประดับมุกและพื้นไม้ฟางสานแบบหัตถศิลป์ที่หวนกลับไปถึงงานฝีมือในศตวรรษที่ 17 ซึ่งทั้งหมดนี้ยังถูกถ่ายทอดต่อไปสู่คอลเลกชันเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิงที่ออกแบบมาให้เข้าชุดกับตัวรถโดยเฉพาะ
![]()
แม้จะได้แรงบันดาลใจจากอดีต Vision Iconic ก็ไม่ทิ้งเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยตั้งเป้าไปที่ระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 4 พร้อมระบบประมวลผล “neuromorphic computing” ที่เลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ Mercedes อ้างว่าสามารถลดการใช้พลังงานของระบบ AI ได้สูงสุดถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และทำงานแม่นยำกว่าระบบทั่วไปถึง 10 เท่า
โครงสร้างพวงมาลัยถูกแทนที่ด้วยระบบ steer-by-wire เสริมด้วยระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ส่วนพละกำลังยังคงเป็นความลับ แต่ยืนยันแล้วว่าใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วน พร้อมจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือการเคลือบผิวตัวรถด้วยวัสดุรับพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถชาร์จไฟและเพิ่มระยะทางได้ถึง 12,000 กิโลเมตรต่อปีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและพื้นที่ โดยเคลือบนี้สามารถปรับใช้กับสีใดก็ได้และออกแบบให้รีไซเคิลได้ง่าย
![]()
ข่าวลือเรื่องการคืนชีพรถคูเป้ระดับเรือธงของ Mercedes กลับมาอีกครั้งเมื่อต้นปี หลังมีรายงานการจดทะเบียนชื่อรุ่น 2 ประตูสำหรับ S-Class ทั้งในเวอร์ชัน Maybach และ AMG อย่างไรก็ตาม รถต้นแบบ Vision Iconic นี้อาจไม่ใช่ตัวตายตัวแทนโดยตรง แต่เป็นการส่งสัญญาณว่า Mercedes ยังไม่ละทิ้งแนวคิดของรถ Grand Coupe ที่สะท้อนตัวตนแห่งความหรูหราเหนือกาลเวลา
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com
![รวมข่าวรถยนต์เด่นรอบสัปดาห์ [30 เม.ย. - 6 พ.ค. 65]](https://cf.autodeft2.pw/files/images/full/2022-05-06/KL2LCNN1.jpg)



