Nissan เตรียมปั้นรถไฟฟ้าสายพันธุ์แรงรุ่นใหม่ ด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง Formula E
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 7 ส.ค. 68 21:34
- 1,037 อ่าน
Nissan กำลังเดินหน้าหาทางพลิกฟื้นภาพลักษณ์และความแข็งแกร่งของแบรนด์อีกครั้ง โดยหนึ่งในทิศทางที่น่าจับตามองคือการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (Performance EVs) ที่นำเทคโนโลยีจากสนามแข่ง Formula E มาใช้จริงบนถนน ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างทีมแข่งกับแผนก Nismo ซึ่งเป็นแผนกพัฒนารถสมรรถนะสูงของบริษัท
Tommaso Volpe หัวหน้าทีม Formula E ของ Nissan เผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังพิจารณาการสร้าง “รถต้นแบบที่พัฒนาจากแชสซีทั่วไป” เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ให้กับ Nismo ในการยกระดับขีดความสามารถของรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือเชิงลึกระหว่างมอเตอร์สปอร์ตและรถโปรดักชันของ Nissan ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แม้ Nissan จะมี Ariya Nismo อยู่ในตลาดแล้ว แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นรุ่นที่แสดงศักยภาพขั้นสุดของแบรนด์ Nismo เพราะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีจากสนามแข่งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในอนาคต Nissan มีแผนจะเริ่มพัฒนารถต้นแบบที่ได้รับอิทธิพลจาก Formula E ก่อน แล้วจึงใช้เป็นฐานในการสร้างรุ่นโปรดักชันที่แท้จริง
รายงานจาก Autocar ระบุว่า รถต้นแบบในอนาคตอาจใช้ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์คู่แบบเดียวกับที่ใช้ในรถแข่ง Formula E ปัจจุบัน ซึ่งมีกำลังสูงถึง 469 แรงม้า และจะได้รับการอัปเกรดเป็นราว 800 แรงม้าในฤดูกาล 2026/2027
Volpe เชื่อว่าระบบขับเคลื่อนเจเนอเรชัน 4 (Gen4) จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เทคโนโลยีจากสนามแข่งจะเริ่มถ่ายทอดสู่รถใช้งานจริงอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะด้านประสิทธิภาพและสมรรถนะที่ถูกผลักดันถึงขีดสุด อีกทั้งรถแข่ง Gen4 จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (All-Wheel Drive) ซึ่งสอดคล้องกับประสบการณ์ของ Nissan ในการพัฒนาระบบ AWD สำหรับรถไฟฟ้าอย่างรุ่น Ariya ที่สามารถควบคุมแรงยึดเกาะของล้อแต่ละล้อได้อย่างอิสระ
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า กฎระเบียบของ Gen4 ถูกออกแบบขึ้นโดยมีการหารือกับผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง โดยที่ AWD ได้ถูกรวมไว้ตามคำเรียกร้องของ Nissan และแบรนด์อื่น ๆ เนื่องจากถือเป็นเทรนด์สำคัญของตลาดรถยนต์ในอนาคต
Ivan Espinosa ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Nissan ยังเสริมว่า แบรนด์กำลังเตรียมแผนเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่น่าตื่นเต้นอีกหลายรุ่น และมีความเป็นไปได้ที่ Nissan จะเปิดตัว “รุ่นเรือธง” (Halo Models) ถึง 4-5 รุ่น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของความแรงในยุค EV อย่างเต็มตัว
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com