Polestar ทำ Reverse Stock Split หวังรอดจากการถูกถอดถอนใน Nasdaq หลังราคาหุ้นร่วงหนัก

นักลงทุน Polestar ต้องตกใจเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้เปิดเผยว่าหุ้นของบริษัทมีความเสี่ยงที่จะถูกถอดถอนจากการจดทะเบียนใน Nasdaq ในขณะนั้น ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ 0.84 ดอลลาร์ ต่ำกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำ 1 ดอลลาร์อย่างชัดเจน

ล่าสุดสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อหุ้น Polestar ร่วงลงไปเหลือ 0.53 ดอลลาร์ หรือเกือบ 37% ภายในไม่กี่สัปดาห์ ล่าสุดในวันนี้หุ้นลดลงอีก 15.8% ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากแผนการปรับโครงสร้างหุ้นด้วย reverse stock split อัตราส่วน 1:30 ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้น PSNY ปรับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 15.90 ดอลลาร์ต่อหุ้น

การปรับโครงสร้างหุ้นแบบย้อนกลับนี้มักถูกใช้โดยสตาร์ทอัพ EV ที่มีปัญหาทางการเงิน เช่น Mullen, Faraday Future และ Lordstown ซึ่งเป็นชื่อที่นักลงทุนมักไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย และนับว่าเป็นเรื่องน่าอายสำหรับ Polestar ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ระดับใหญ่ อย่างไรก็ตาม Polestar ตั้งเป้าจะดำเนินการ reverse stock split ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2025

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงสองวันหลังจากที่ Polestar รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี โดยพยายามนำเสนอข่าวดี เช่น ยอดขายปลีกเพิ่มขึ้น 36.5% ขายได้ 44,482 คันในช่วง 9 เดือนแรกของปี รายได้รวมเติบโต 48.8% แตะ 2.17 พันล้านดอลลาร์ จากยอดขายรถยนต์ การขายคาร์บอนเครดิต และส่วนแบ่งรถยนต์ราคาสูงที่เพิ่มขึ้น

แต่ก็ยังมีข่าวร้ายอยู่มาก รวมถึงขาดทุนสุทธิ 1.56 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับขาดทุน 867 ล้านดอลลาร์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 นอกจากนี้ Polestar ยังได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากรและแรงกดดันด้านราคา

อย่างไรก็ตามอนาคตของบริษัทยังมีความหวัง หลังจากเผยโฉม Polestar 3 รุ่นปรับปรุงใหม่ และ Polestar 5 รุ่นใหม่ทั้งหมด พร้อมเริ่มต้นแคมเปญทีเซอร์สำหรับ Polestar 7 ที่มีกำหนดเปิดตัวในปี 2028 คาดว่าจะใช้แพลตฟอร์ม SPA3 ใหม่ เป็นรถคอมแพคครอสโอเวอร์พรีเมียมที่ใช้เทคโนโลยีพื้นฐานจาก Volvo และผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ในเมือง Kosice ประเทศสโลวาเกีย

ที่มา Carscoops