แคนาดาถอยมาตรการบังคับ EV ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐฯ

ผ่อนปรนเป้าหมายปี 2026 ของกฎ EVAS รัฐบาลแคนาดาภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี มาร์ก คาร์นีย์ ประกาศผ่อนปรนมาตรการ Electric Vehicle Availability Standard (EVAS) โดยยกเลิกข้อกำหนดให้ยอดขายรถยนต์ใหม่ปี 2026 ต้องมีสัดส่วนรถไร้มลพิษอย่างน้อย 20% พร้อมทบทวนกฎระเบียบทั้งหมดใหม่ เพื่อเพิ่ม “ความยืดหยุ่น” และลดภาระต้นทุนให้กับผู้ผลิต

ทำเนียบนายกรัฐมนตรีระบุว่าการปรับครั้งนี้เป็นการทำ “การปรับกฎเกณฑ์แบบเจาะจง” เพื่อให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของแคนาดายังคงสามารถแข่งขันได้ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า โดยเน้นว่าอุตสาหกรรมนี้เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ สนับสนุนการจ้างงาน การค้า และนวัตกรรม รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

กฎ EVAS เดิมกำหนดเป้าหมายไว้ว่า รถใหม่อย่างน้อย 60% ต้องเป็นรถไร้มลพิษภายในปี 2030 และ 100% ภายในปี 2035 แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะทบทวนเส้นตายเหล่านี้อีกครั้ง เพื่อสะท้อน “สภาพความเป็นจริงของตลาด” และไม่สร้างภาระเกินควรต่อผู้ผลิต โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องเผชิญแรงกดดันทางเศรษฐกิจและภาษีจากสหรัฐฯ

แม้จะชะลอแผน แต่คาร์นีย์ย้ำว่ารถไฟฟ้ายังเป็น “หัวใจในการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ” ช่วยสุขภาพ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านนี้เกิดขึ้นท่ามกลาง “ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจระยะสั้น” และความไม่แน่นอนของนโยบายสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อราคาและการจัดหารถ EV ในตลาดอเมริกาเหนือ

รัฐบาลยังระบุว่าจะ “สำรวจทางเลือกในการนำรถไฟฟ้าราคาไม่แพงเข้าสู่ตลาดแคนาดา” แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่นักวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นการเปิดช่องให้แบรนด์จีนเข้ามาแข่งขัน

การปรับ EVAS ถูกประกาศพร้อมมาตรการใหม่ “Buy Canadian Policy” ที่สนับสนุนการจัดซื้อภาครัฐจากผู้ผลิตท้องถิ่น และโครงการ “Regional Tariff Response Initiative” เพื่อช่วยธุรกิจขนาดกลางและเล็กที่ได้รับผลกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ

ที่มา Carscoops