Smart เตรียมคืนชีพรถจิ๋วสายเมือง #2 ทายาท ForTwo เปิดตัวปีหน้า บนแพลตฟอร์มไฟฟ้าใหม่หมด

Smart กำลังเดินหน้าคืนชีพรถยนต์ซิตี้คาร์ที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ หลังจาก ForTwo รุ่นดั้งเดิมยุติสายการผลิตไปในปี 2024 ท่ามกลางการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของบริษัท ล่าสุด Smart ยืนยันว่าทายาทรุ่นใหม่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในระดับโลกภายในปีหน้า ภายใต้ชื่อ Smart #2

หลังจากปล่อยภาพทีเซอร์แบบคลุมเครือออกมาเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา Smart ได้เผยภาพแรกของ #2 ให้เห็น แม้รูปลักษณ์จะดูคุ้นตาอย่างชัดเจน แต่เหตุผลก็เพราะรถต้นแบบที่เห็นยังใช้ตัวถังของ ForTwo เดิมมาปรับแต่งเพื่อทดสอบระบบต่าง ๆ ทำให้รายละเอียดด้านดีไซน์ยังไม่สามารถบอกได้มากนัก

อย่างไรก็ตาม Smart ระบุชัดว่า #2 จะยังคงยึดแนวคิดหลักของรถต้นฉบับ ด้วยขนาดตัวถังที่เล็กกะทัดรัดเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง พร้อมเอกลักษณ์สำคัญอย่างตัวถัง 2 ประตู 2 ที่นั่ง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และสัดส่วนล้อที่ดันไปชิดมุมตัวรถ ซึ่งเป็นจุดเด่นของ ForTwo มาตลอดหลายทศวรรษ

แม้จะรักษาแนวคิดดั้งเดิมไว้ แต่ Smart ยืนยันว่า #2 จะมาพร้อมงานออกแบบภายนอกและภายในใหม่ทั้งหมด โดยเป็นผลงานของทีมออกแบบจาก Mercedes ซึ่งจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยและสดใหม่มากขึ้น คาดว่าทิศทางดีไซน์จะสอดคล้องกับรถรุ่นใหม่ของแบรนด์อย่าง #1, #3 และ #5 ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าทรงปิดพร้อมแถบไฟเชื่อมไฟหน้า มือจับประตูแบบเรียบเนียนไปกับตัวถัง เส้นสายตัวรถที่ลู่ลม และห้องโดยสารสไตล์มินิมอล

ในด้านเทคโนโลยี Smart เปิดเผยเพียงว่า #2 จะถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ Electric Compact Architecture หรือ ECA ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ารุ่นใหม่ เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง และประสบการณ์การขับขี่ในเมืองที่แตกต่างจากรถซิตี้คาร์ทั่วไป

ปัจจุบันรถต้นแบบ Smart #2 กำลังถูกนำไปทดสอบในหลายประเทศทั่วโลก โดยศูนย์ทดสอบหลักอยู่ในประเทศจีน วิศวกรมุ่งเน้นการปรับจูนช่วงล่าง การควบคุมรถ และประสิทธิภาพระบบเบรก ขณะเดียวกันยังมีการทดสอบแบตเตอรี่ ความปลอดภัยจากการชน และระบบปรับอากาศภายใต้สภาพอากาศที่หลากหลาย

แม้ยังมีงานพัฒนาอีกมาก แต่ Smart วางแผนเปิดตัว #2 อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีหน้า และตั้งเป้าให้รถรุ่นนี้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดซิตี้คาร์อีกครั้ง ในแบบเดียวกับที่ Smart เคยนิยามตลาดนี้ไว้เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน

ที่มา Carscoops