Toyota ทุ่มเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ เดินหน้าผลิต Corolla Hybrid ในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก

Toyota เดินหน้าขยายกำลังการผลิตรถไฮบริดในสหรัฐอเมริกาอย่างจริงจัง หลังจากประกาศลงทุนรวม 10,000 ล้านดอลลาร์ ล่าสุดบริษัทเปิดเผยว่ามีเงินจำนวน 912 ล้านดอลลาร์ที่จะใช้เพิ่มกำลังการผลิตระบบขับเคลื่อนไฮบริดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนรถพลังงานไฟฟ้าและไฮบริดในตลาดอเมริกา

เงินลงทุนก้อนใหญ่ที่สุด 453 ล้านดอลลาร์จะมุ่งสู่โรงงาน Toyota Motor Manufacturing West Virginia ในเมืองบัฟฟาโล เพื่อเพิ่มการผลิตเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบที่รองรับระบบไฮบริด ชุดทรานแซกเซิลไฮบริดเจเนอเรชันที่หก และชุดสเตเตอร์มอเตอร์หลัง โดยกำหนดเริ่มผลิตเพิ่มในปี 2027 และคาดว่าจะสร้างงานใหม่ 80 ตำแหน่ง

โรงงาน Toyota Motor Manufacturing Kentucky ซึ่งเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของ Toyota ทั่วโลก จะได้รับเงินลงทุน 204.4 ล้านดอลลาร์ เพื่อติดตั้งไลน์ผลิตเครื่องจักรใหม่สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบ คาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตในปี 2027 และเพิ่มงานใหม่อีก 82 ตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน Toyota Motor Manufacturing Mississippi จะได้รับงบ 125 ล้านดอลลาร์ สำหรับเริ่มผลิต Corolla Hybrid ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รถ Corolla รุ่นไฮบริดถูกผลิตในสหรัฐอเมริกา นับเป็นก้าวสำคัญของการขยายฐานผลิตรถไฟฟ้าและไฮบริดของแบรนด์ในตลาดอเมริกาเหนือ

ส่วนโรงงาน Toyota Motor Manufacturing Tennessee จะได้รับเงินลงทุน 71.4 ล้านดอลลาร์ พร้อมเพิ่มงานอีก 33 ตำแหน่ง เพื่อขยายกำลังผลิตโครงสร้างตัวเรือนทรานแซกเซิลไฮบริด และเสื้อสูบของเครื่องยนต์สำหรับรถไฮบริด โดยจะติดตั้งสายการผลิตใหม่ทั้งหมด 3 สาย

สุดท้าย โรงงาน Toyota Motor Manufacturing Missouri จะได้รับเงินลงทุน 57.1 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างไลน์ผลิตฝาสูบใหม่สำหรับรถไฮบริด เพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่า 200,000 ชิ้นต่อปี พร้อมสร้างงานใหม่อีก 57 ตำแหน่ง

Kevin Voelkel รองประธานอาวุโสฝ่ายการผลิตของ Toyota ระบุว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยังคงให้การตอบรับรถไฮบริดอย่างแข็งแกร่ง และการลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงหลักการของ Toyota ที่ว่า “ผลิตในที่ที่เราขาย” การเพิ่มการผลิตและการจ้างงานในประเทศจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่บริษัทให้ความสำคัญต่อเนื่อง

ที่มา Carscoops