Toyota เตรียมผลิตรถ EV ในยุโรปปี 2028 ตั้งเป้า 100,000 คันต่อปี รับมือกระแสรถไฟฟ้าและแรงกดดันจากจีน

หลังจากลังเลอยู่นาน Toyota ดูเหมือนจะยอมเปิดเกมรุกในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของยุโรปอย่างจริงจัง ล่าสุดมีรายงานว่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเตรียมเริ่ม ผลิตรถ EV ในโรงงานที่สาธารณรัฐเช็กภายในปี 2028 พร้อมเป้าหมายผลิต 100,000 คันต่อปี 

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจาก Toyota เริ่มเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกๆ อย่าง bZ4X และเตรียมเพิ่มรุ่นใหม่อย่าง C-HR+ EV  และ Urban Cruiser EV เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดยุโรปที่เติบโตต่อเนื่อง

การผลิตในยุโรป: ไม่ใช่แค่เรื่องต้นทุน แต่คือการอยู่รอด

การตัดสินใจย้ายฐานการผลิต EV มาไว้ในยุโรปสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาวของ Toyota และนโยบายของสหภาพยุโรปที่เตรียม แบนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป (ICE) ภายในปี 2035 

แม้ยอดขายรถ EV ในยุโรปจะลดลงเล็กน้อย 1% เมื่อเร็วๆ นี้ แต่ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดถึง 15.4% ของยอดขายรถใหม่ทั้งหมด  เทียบกับตลาดญี่ปุ่นที่ EV ยังมีสัดส่วนเพียง 2% เท่านั้น 

โดนบีบจากค่ายจีน Toyota จึงต้องปรับเกม

อีกหนึ่งแรงกดดันสำคัญคือการรุกคืบของแบรนด์จีนในยุโรป เช่น  BYD ,  Jaecoo, และ Xpeng ซึ่งรวมกันถือครอง 5.1% ของตลาดรถยนต์ในยุโรป ทำให้ Toyota และผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิมรายอื่นต้องเร่งปรับกลยุทธ์

Toyota ยังไม่ทิ้งไฮบริด แต่ต้องมี EV เพื่อแข่งขัน

แม้ Toyota จะยอมลงทุนใน EV มากขึ้น แต่ยังไม่มีแผนพลิกโฉมแบบ 100% สู่รถไฟฟ้า โดยจะยังคงเน้นพัฒนารถไฮบริดและ  เทคโนโลยี range-extender ควบคู่กันไป เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความยืดหยุ่น ทั้งในด้านระยะทางและประสิทธิภาพ

สรุปประเด็นสำคัญ:

* Toyota เตรียมเริ่มผลิตรถ EV ในสาธารณรัฐเช็ก ปี 2028
* ตั้งเป้าผลิต **100,000 คันต่อปี**
* รองรับนโยบายแบนรถน้ำมันในยุโรปปี 2035
* ยอดขาย EV ในยุโรปอยู่ที่ **15.4%** เทียบกับญี่ปุ่นเพียง **2%**
* กดดันจากค่ายจีน BYD, Xpeng ที่เริ่มกินส่วนแบ่งตลาดยุโรป
* Toyota จะยังไม่ทิ้งไฮบริด และยังระวังเรื่องข้อจำกัดของแบตเตอรี่

ที่มา Carscoops