Toyota bZ7 ซีดานไฟฟ้ารุ่นเรือธงใหม่ เปิดตัวที่จีน ลุคพรีเมียม เทคโนโลยีจัดเต็ม
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 16 ก.ย. 68 18:08
- 1,005 อ่าน
Toyota ยังคงเดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนอย่างจริงจัง ล่าสุดเผยโฉม Toyota bZ7 ซีดานไฟฟ้าระดับเรือธงรุ่นใหม่ที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตร GAC พร้อมดีไซน์ล้ำสมัย ขนาดตัวรถใหญ่เทียบชั้น Tesla Model S และมาพร้อมเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง แม้จะยังไม่มีแผนวางจำหน่ายนอกประเทศจีน แต่การมาถึงของ bZ7 ก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า Toyota เริ่มเปิดเกมรุกเต็มที่ในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ตัวรถได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมีเส้นสายที่เฉียบคม ตัวถังทรงเตี้ยเน้นความปราดเปรียว มาพร้อมไฟหน้าแบบลากยาวทรงคล้ายก้ามกุ้ง เสริมด้วยเส้นไฟคาดหน้ารถ เส้นสายด้านข้างเรียบหรูพร้อมมือจับแบบซ่อนฝัง เส้นหลังคาลาดเอียงต่อเนื่องไปยังฝากระโปรงท้ายทรงสั้น สะท้อนภาพลักษณ์ของซีดานไฟฟ้าระดับพรีเมียมได้อย่างชัดเจน มิติตัวถังของ bZ7 อยู่ที่ความยาว 5,130 มม. กว้าง 1,965 มม. สูง 1,506 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,020 มม. ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Tesla Model S, BYD Han L และ BMW i5
ระบบขับเคลื่อนของ bZ7 ใช้แบตเตอรี่ชนิดลิเทียม-ไอออนฟอสเฟตจาก CALB-Tech โดยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 278 แรงม้า ซึ่งถือว่าให้สมรรถนะที่น่าสนใจแม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของความจุแบตเตอรี่หรือระยะทางขับขี่ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการที่ Toyota เลือกใช้ชุดขับเคลื่อนแบบบูรณาการจาก Huawei ที่รวมมอเตอร์, MCU และอินเวอร์เตอร์ไว้ในยูนิตเดียว พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการในรถยนต์ของ Huawei เอง
นอกจากนี้ bZ7 ยังเชื่อมต่อกับระบบนิเวศอัจฉริยะของ Xiaomi ได้อย่างไร้รอยต่อ เจ้าของรถสามารถควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือสมาร์ทดีไวซ์อื่น ๆ ผ่านหน้าจอของตัวรถโดยตรง ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมที่สะท้อนทิศทางใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าในจีน ที่ไม่ได้เน้นแค่การขับขี่ แต่ยังเป็นศูนย์กลางของชีวิตดิจิทัล
แม้ Toyota ยังไม่ยืนยันแผนการทำตลาด bZ7 นอกประเทศจีน แต่ด้วยขนาดตัวรถและแนวโน้มความต้องการรถยนต์ซีดานขนาดใหญ่ในบางประเทศ มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการส่งออกในตลาดเฉพาะกลุ่มในอนาคต สำหรับรายละเอียดด้านราคาและสเปกเต็มรูปแบบ คาดว่าจะมีการเปิดเผยเพิ่มเติมก่อนการวางจำหน่ายจริงในช่วงปลายปี 2025 นี้
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com