Volkswagen จับมือ Rivian เปลี่ยนอนาคต EV ด้วยเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ร่วม

ความร่วมมือระหว่าง Rivian และ Volkswagen (VW) กำลังกลายเป็นหนึ่งในความร่วมมือที่สำคัญที่สุดในวงการรถยนต์ไฟฟ้าในยุคนี้ โดยฝั่ง Rivian ได้รับเงินทุนจำนวนมากที่ช่วยให้บริษัทเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่ VW ก็ได้เข้าถึงซอฟต์แวร์และโครงสร้างระบบไฟฟ้าที่ล้ำสมัยของ Rivian ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา EV ของค่ายเยอรมัน

Wassym Bensaid หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์ของ Rivian และผู้ร่วมบริหารกิจการร่วมค้า Rivian-VW ได้ให้สัมภาษณ์กับ Yahoo! โดยเปิดเผยว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทั้งหมดของ VW จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Rivian R2 ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ที่ Rivian จะเปิดตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Bensaid ระบุว่า แพลตฟอร์ม R2 จะเป็น “เทคโนโลยีแบบโมดูลาร์และปรับขยายได้” ที่สามารถรองรับรถหลายประเภทจากหลายแบรนด์ภายใต้กลุ่ม VW ได้ โดยแม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานจะใช้ร่วมกัน แต่แต่ละแบรนด์จะยังสามารถออกแบบสไตล์ภายนอก, อินเทอร์เฟซผู้ใช้ (UI), และการจูนช่วงล่างให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของตนเองได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ VW จะนำมาใช้ดูเหมือนจะเป็นเพียง “สถาปัตยกรรมเทคโนโลยี” หรือซอฟต์แวร์เป็นหลัก ไม่ใช่แพลตฟอร์มตัวถังจริง เนื่องจาก VW ยังเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มภายในของตนเองที่ชื่อว่า SSP ซึ่งจะมาแทน MEB และรองรับรถไฟฟ้ารุ่นต่อไปอย่าง Golf EV และ T-Roc ไฟฟ้าแบบเต็มตัว

นอกจากนี้ VW ยังมีอีกหนึ่งโครงการร่วมกับบริษัทจีน Xpeng โดยจะใช้แพลตฟอร์มที่ชื่อว่า China Electrical Architecture (CEA) ซึ่งเน้นลดต้นทุนการผลิตลงมากถึง 40% เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดจีนได้มากขึ้น

Bensaid กล่าวเพิ่มเติมว่า “R2 คือวิวัฒนาการจากสถาปัตยกรรมที่เราเริ่มใช้กับรถ Gen2 อย่าง R1 และเราได้เรียนรู้มากมายทั้งด้านวิศวกรรมและการผลิต ซึ่งช่วยให้เราพัฒนา R2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความพร้อมกว่าตอนที่เริ่มทำ R1 มาก”

การผลิต Rivian R2 มีกำหนดเริ่มในช่วงครึ่งหลังของปี 2026 และจะตามมาด้วยรุ่นเล็กลงและราคาย่อมเยากว่าในชื่อ R3 การที่ VW และ Rivian ใช้โครงสร้างเทคโนโลยีร่วมกัน จะช่วยให้ทั้งสองแบรนด์สามารถพัฒนา EV ได้เร็วขึ้น, มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และผลิตในขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา Carscoops