Walmart เปิดตัวแผนเครือข่ายชาร์จรถ EV แห่งอนาคต "Charge Better" พร้อมครอบคลุมทั่วอเมริกา

Walmart เปิดเผยรายละเอียดแผนสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าความเร็วสูง (DC Fast Charging) ของตัวเองอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด "Charge Better" ที่จะมอบความสะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่ามากกว่าคู่แข่ง

เป้าหมายใหญ่: "ชาร์จได้ทุกที่ ใกล้บ้านคุณ"
* ตั้งเป้าติดตั้งสถานีชาร์จที่ "หลายพันแห่ง" ภายในปี 2030
* ใช้เครื่องชาร์จเร็ว 400 kW รองรับมาตรฐานหัวชาร์จทั้ง NACS และ CCS1
* ทุกไซต์สามารถขยายจำนวนหัวชาร์จได้ตามความต้องการใช้งาน
ปัจจุบัน Walmart มีมากกว่า 5,200 สาขา ทั่วสหรัฐฯ โดยกว่า 90% ของประชากร อาศัยอยู่ห่างจาก Walmart ไม่เกิน 10 ไมล์ นี่เป็นข้อได้เปรียบมหาศาล เพราะ Walmart เป็นเจ้าของพื้นที่เอง จึงติดตั้งและขยายเครือข่ายได้ง่ายกว่าคู่แข่ง

เครือข่ายที่ชาร์จง่าย สะดวก และเร็ว
* ลูกค้าใช้แอป Walmart เพื่อเริ่มและชำระค่าชาร์จ
* ราคาชาร์จจะแตกต่างตามพื้นที่ แต่ลูกค้า Walmart Plus อาจได้สิทธิพิเศษลดราคา
* ทุกไซต์มีพนักงาน Walmart ประจำอยู่ ช่วยแก้ปัญหาหน้างานได้รวดเร็วกว่าระบบเดิมที่ต้องแจ้งผ่านแอป
* ไม่มีหัวชาร์จ CHAdeMO (เช่นสำหรับ Nissan LEAF)

ตัวอย่างการชาร์จจริง: Hummer EV
* ทดสอบที่ไซต์แรกใน McKinney, Texas
* Hummer EV ชาร์จจาก 1% ถึง 53% ภายใน 27 นาที
* ความเร็วการชาร์จสูงสุดมากกว่า 300 kW
* ราคาชาร์จอยู่ที่ $0.42 ต่อ kWh

Impact ต่ออุตสาหกรรม
หาก Walmart บรรลุเป้าหมายในปี 2030 ด้วยการติดตั้ง 25,000-30,000 หัวชาร์จ จะสามารถเทียบเท่าเครือข่าย Tesla Supercharger ที่ใช้เวลาสร้างมากว่า 13 ปีได้ในเวลาไม่ถึง 5 ปี!

นอกจากนี้ คู่แข่งอย่าง Costco และ Target อาจต้องเร่งแผนติดตั้งสถานีชาร์จบ้าง เพื่อไม่เสียลูกค้า EV ให้กับ Walmart ที่สามารถ "ช้อปและชาร์จ" ได้ในที่เดียว

การลงทุนสร้างเครือข่ายชาร์จของ Walmart มีโอกาสพลิกโฉมอุตสาหกรรม EV ในสหรัฐฯ ได้จริง ด้วยเงินทุนที่พร้อมทำได้ทันที พื้นที่ที่มีอยู่แล้ว และกลยุทธ์เน้นความคุ้มค่า-สะดวก-รวดเร็ว สมกับสโลแกน "Charge Better" อย่างแท้จริง

ที่มา Carscoops