BYD เปลี่ยนกลยุทธ์ หลังพบว่าตลาดยุโรปยังไม่พร้อมรับ EV เต็มตัว
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 12 พ.ค. 68 21:20
- 1,021 อ่าน
แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นกระแสหลักของวงการยานยนต์ในปัจจุบัน แต่สำหรับ BYD ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากจีน กลับพบว่า รถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คือหัวใจสำคัญในการขยายตลาด โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งผู้บริโภคหลายกลุ่มยังไม่พร้อมจะ “ตัดขาดจากน้ำมัน” อย่างสมบูรณ์
ไฮบริดคือคำตอบ (ที่ใช่) สำหรับยุโรป
แม้ว่า BYD จะขึ้นชื่อในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของโลก แต่ในความเป็นจริง บริษัทขาย รถปลั๊กอินไฮบริดมากกว่ารถ EV เสียอีก ซึ่งกลายเป็นจุดแข็งที่บริษัทนำมาใช้ในการเจาะตลาดยุโรป
Maria Grazia Davino ผู้บริหารภูมิภาคของ BYD ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า
“ไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะใช้รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เราต้องมีทางเลือกอื่นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า”
เพิ่มรุ่น PHEV – ขยายไลน์อัปในยุโรปปี 2025
ในปัจจุบัน BYD มีรถ PHEV จำหน่ายในยุโรปเพียงรุ่นเดียวคือ Seal DM-i แต่ในปี 2025 บริษัทมีแผนจะเปิดตัว รถปลั๊กอินไฮบริดอีกอย่างน้อย 2 รุ่น โดยประเทศเป้าหมายหลักคือ เยอรมนี
กลยุทธ์นี้จะทำให้แบรนด์ BYD แข็งแกร่งขึ้นในฐานะตัวเลือกที่ "ยืดหยุ่น" กว่าสำหรับลูกค้าชาวยุโรป
ผลิตในยุโรป เพื่อลดภาษีนำเข้า
หนึ่งในอุปสรรคสำคัญของ BYD คือ ภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีนของ EU แต่บริษัทก็มีแผนรับมือเรียบร้อยแล้ว โดยกำลังสร้างโรงงานประกอบใน ฮังการี และ ตุรกี เพื่อผลิตรถสำหรับจำหน่ายในยุโรปโดยเฉพาะ ช่วยลดต้นทุนและเลี่ยงภาษีนำเข้า
ยอดขายเริ่มฟื้นตัว – พร้อมเดินหน้าแบรนด์หรู “Denza”
แม้ยอดขายในยุโรปจะยังไม่พุ่งแรงอย่างที่คาดหวัง แต่ก็เริ่มมีสัญญาณบวก โดยในไตรมาสแรกของปี 2025 BYD ขายรถในยุโรปได้กว่า 37,000 คัน เพิ่มขึ้นประมาณ 8,500 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนั้น BYD ยังเดินหน้าบุกตลาดรถพรีเมียมด้วยแบรนด์ใหม่ชื่อ Denza โดยเปิดตัวรุ่น Z9 GT ที่ออกแบบมาแข่งกับ Porsche Taycan Sport Turismo และมีแผนจำหน่ายรถแวนหรู Denza D9 ในลำดับถัดไป
BYD กำลังปรับตัวจากผู้ผลิต EV เต็มรูปแบบ ไปสู่การเป็นแบรนด์ที่ให้ทางเลือกหลากหลายทั้ง EV และ PHEV โดยเฉพาะในตลาดยุโรปที่ยังมีความต้องการใช้น้ำมันบางส่วน ด้วยการขยายไลน์อัปรถปลั๊กอินไฮบริด และการตั้งฐานการผลิตในยุโรป BYD กำลังวางหมากเพื่อเป็นผู้เล่นหลักในภูมิภาคนี้อย่างเต็มตัว
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com