Hyundai เตรียมปฏิวัติวงการรถกระบะ พร้อมแผนพัฒนา SUV ลุยออฟโรด และ EV สุดหรูในอนาคต
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 22 ก.ย. 68 21:31
- 1,014 อ่าน
Hyundai เผยแผนระยะยาวสู่ปี 2030 ที่รวมถึงการเปิดตัวรถกระบะตัวถังแชสซีแยกขนาดกลางรุ่นแรกในสหรัฐอเมริกา พร้อมส่งสัญญาณชัดเจนว่าอนาคตของค่ายนี้จะไม่ได้หยุดอยู่แค่รถยนต์นั่งทั่วไปอีกต่อไป
ในงานประชุมนักลงทุนล่าสุด Hyundai ได้เปิดเผยโรดแมปผลิตภัณฑ์ฉบับใหม่ที่มุ่งหน้าสู่การเติบโตครั้งใหญ่ในหลายตลาด โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่บริษัทมีแผนจะเปิดตัวรถกระบะขนาดกลางแบบ body-on-frame ภายในปี 2030 เพื่อเข้าชนกับคู่แข่งตัวท็อปของตลาดอย่าง Ford Ranger, Toyota Tacoma, Chevrolet Colorado และ GMC Canyon ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ที่มีความต้องการสูงมากในอเมริกาเหนือ
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งกับ Hyundai Santa Cruz ซึ่งเป็นรถกระบะแบบ unibody ทางค่ายได้สะสมประสบการณ์และความเข้าใจในตลาดรถกระบะจนพร้อมก้าวสู่เวทีใหม่ที่จริงจังกว่าเดิม นอกจากนี้ CEO ของ Hyundai ยังได้กล่าวเป็นนัยว่าอาจมีการพัฒนา SUV สไตล์ออฟโรดที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับกระบะรุ่นใหม่ ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งโดยตรงกับรถอย่าง Toyota 4Runner และ Ford Bronco
ในขณะเดียวกัน Hyundai ยังคงเดินหน้ารุกตลาดรถสมรรถนะสูงผ่านแผนก N โดยตั้งเป้าเปิดตัวรถรุ่นใหม่มากกว่า 7 รุ่นภายในปี 2030 หนึ่งในนั้นคือ Ioniq 6 N ที่จะเป็นรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรงระดับเรือธง พร้อมตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกของรถตระกูล N ให้ทะลุ 100,000 คันต่อปี
แผนการของ Hyundai ยังรวมถึงการขยายไลน์รถไฮบริดให้มากกว่า 18 รุ่นทั่วโลกภายในปี 2030 รวมถึงการเข้าสู่ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในอเมริกาเหนือด้วยรถตู้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ และรถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน XCIENT
ในส่วนของเทคโนโลยีรถไฟฟ้า Hyundai เตรียมเปิดตัว Ioniq 3 ซึ่งจะเป็นรุ่นเล็กระดับ entry-level สำหรับตลาดยุโรป พร้อมอินโฟเทนเมนต์ใหม่ทั้งหมด ส่วนในอินเดียจะมี EV ที่ออกแบบโดยทีมท้องถิ่นโดยเฉพาะ ขณะที่ในจีนเตรียมเปิดตัวรถซีดานขนาดกลางพลังงานไฟฟ้าใหม่ และ SUV ไฟฟ้ารุ่น Elexio
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจคือแผนการเปิดตัวรถไฟฟ้าที่ใช้ระบบ range extender ภายในปี 2027 ซึ่งจะวิ่งได้ไกลกว่า 600 ไมล์ หรือประมาณ 966 กิโลเมตรต่อการชาร์จ พร้อมแบตเตอรี่สมรรถนะสูงที่พัฒนาโดยทีมวิศวกรรมภายในบริษัท Hyundai กล่าวว่าระบบนี้จะให้พละกำลังแบบรถ EV เต็มรูปแบบ แต่ใช้ความจุแบตเตอรี่เพียงครึ่งเดียว ซึ่งจะช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางและทำให้ EV เข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น
ในด้านเทคโนโลยี Hyundai จะเปิดตัวระบบจัดการแบตเตอรี่ผ่านคลาวด์ในปี 2026 โดยจะเก็บข้อมูลจากหลากหลายสภาพแวดล้อมและวิเคราะห์ด้วยโมเดลขั้นสูงเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำและรวดเร็วกว่าเดิม
ภายในปี 2027 แบตเตอรี่เจเนอเรชันใหม่จะถูกนำมาใช้ โดยให้พลังงานสูงขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ แต่มีต้นทุนลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ และยังชาร์จเร็วขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
ในด้านของ Genesis แบรนด์หรูในเครือ Hyundai มีแผนจะเปิดตัวทั้งรุ่นไฮบริด ไฟฟ้า และรุ่นที่ใช้ระบบขยายระยะทางในอนาคต แพลตฟอร์มใหม่ของ Genesis จะรองรับระบบพลังงานหลากหลายแบบ โดยรถไฮบริดรุ่นแรกจะเปิดตัวในปีหน้า พร้อมเป้าหมายเพิ่มยอดขายต่อปีเป็น 350,000 คันภายในปี 2030 ด้วยการขยายตลาดในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เกาหลี จีน ตะวันออกกลาง และตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ
Genesis ยังบอกเป็นนัยถึงการพัฒนารถระดับ "อัลตร้าลักชัวรี" ซึ่งอาจหมายถึงรถที่ผลิตแบบสั่งทำพิเศษ สำหรับลูกค้าระดับสูงโดยเฉพาะ
กลับมาที่ตลาดอเมริกา โรงงาน Metaplant ในรัฐจอร์เจียของ Hyundai กำลังจะขยายกำลังการผลิตเป็น 500,000 คันต่อปีภายในปี 2028 จากเดิมที่ผลิต Ioniq 5 และ Ioniq 9 ซึ่งในอนาคตจะรวมถึงรถไฮบริดด้วย โดยการขยายครั้งนี้จะลงทุนรวม 2.7 พันล้านดอลลาร์ สร้างงานใหม่กว่า 3,000 ตำแหน่ง และตั้งเป้าผลิตรถที่ขายในอเมริกามากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ภายในประเทศภายในปี 2030 พร้อมเพิ่มเนื้อหาภายในซัพพลายเชนจาก 60 เปอร์เซ็นต์เป็น 80 เปอร์เซ็นต์
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน Hyundai ไม่ได้มุ่งหวังแค่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ทั่วไปอีกต่อไป แต่กำลังเตรียมตัวเป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าทั้งในตลาดรถกระบะ ออฟโรด สมรรถนะสูง พลังงานไฟฟ้า และรถหรูระดับโลกภายในเวลาไม่ถึง 5 ปีข้างหน้า
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com