Hyundai RN30 และ Hyundai IONIQ EV สองดาวเด่นแดนกิมจิ ที่ Motor Expo

  • โดย : Autodeft
  • 20 พ.ย. 60
  • 6,371 อ่าน

ในงาน Motor Expo 2017 นี้ Hyundai นำเสนอความล้ำสมัยด้วยรถยนต์ที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีหลากหลายรุ่น ให้สาวกชาวไทยได้สัมผัสซึ่งนอกจากจะแนะนำ Hyundai H-1 และ Hyundai Grand Starex รุ่นอัพเกรดช่วงล่างใหม่แล้ว ยังเผยสองยานยนต์ ดาวเด่น มาอวดโฉมในงานนี้ด้วย เริ่มกันที่

Hyundai RN30 Concept

Hyundai RN30 Concept

Hyundai RN 30 Concept รถยนต์ต้นแบบ เผยครั้งแรกที่งาน Paris Motor Show 2016 สรรสร้างขึ้น เพื่อสื่อถึงดีเอ็นเอของรถยนต์รหัส N ซึ่งเป็นรหัสที่บ่งบอกถึงความเป็นรถยนต์สมรรถนะสูง รวมทั้งการพัฒนาที่เน้นถึงผู้ขับขี่เป็นหลัก เพื่อตอบสนองการขับขี่ที่เร้าใจ สร้างขึ้นบนพื้นฐาน Hyundai I30 แนวคิดการพัฒนาถูกเน้นในเรื่องความเร้าใจในการขับขี่ มีลักษณะการขับขี่ในแบบสปอร์ต เส้นสายภายนอกเป็นเส้นสายที่มีความเรียบง่าย แต่ได้รับการปรับปรุงในเรื่องของมิติตัวถังให้มีน้ำหนักที่เบา มีความทนทานสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุน้ำหนักเบาที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับบริษัทวิจัยและพัฒนาทางด้านเคมีชั้นนำของโลกจากประเทศเยอรมนีอย่าง BASF

Hyundai RN30 Concept

Hyundai RN30 Concept

เครื่องยนต์ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาดใหญ่ 2.0 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะสูง เพื่อช่วยเพิ่มอัตราเร่งให้ทันใจ แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 380 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 451 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติคลัทช์คู่แบบเปียก นอกจากนี้ ระบบแปรผันวาล์วฝั่งไอเสีย ยังได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตอบสนองด้านอัตราเร่งที่รวดเร็ว ทันใจ รวมถึงเสียงจากท่อไอเสียที่ดุดัน โดยเป็นการพัฒนาร่วมกัน ระหว่างทีมงาน Hyundai Motor Sport - HMSG, ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยี ฮุนได ภาคพื้นยุโรป (Hyundai Motor Europe Technical Center – HMETC) และหน่วยพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงและการพัฒนาเทคโนโลยี Hyundai (Hyundai Motor’s Performance Development & High Performance Vehicle Division)

Hyundai IONIQ EV

ส่วนอีกรุ่นนั่นคือ Hyundai IONIQ EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซนต์ ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีจุดประสงค์หลัก คือการสร้างรถยนต์ที่มีมลพิษที่ต่ำที่สุด นับเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลก ที่มีจำหน่ายในทั้ง 3 รูปแบบระบบขับเคลื่อนใน 1 รุ่น ได้แก่ Hybrid, Plug-In Hybrid และ EV ภายนอกออกแบบเน้นที่ปัจจัยหลัก 2 อย่าง คือ เทคโนโลยี และประสิทธิภาพ ในรูปแบบ Hatchback ทรงสปอร์ต มาพร้อมเส้นสายที่พลิ้วไหว รวมถึงการออกแบบตัวถังส่วนต่างๆ ที่ช่วยทำให้อากาศสามารถไหลผ่านตัวรถได้อย่างสะดวกและลื่นไหลตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.24

Hyundai IONIQ EV

 ภายในเน้นถึงความเป็นรถแห่งอนาคต ด้วยแนวคิด ‘Purified High-Tech’ เรียบง่าย ลื่นไหล แต่มีความปราณีต และใช้งานง่าย เน้นการใช้วัสดุที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมที่น้อยที่สุด วัสดุภายใน เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ผ้าหลังคาและพรมที่มีส่วนผสมจากต้นอ้อย สีพ่นตัวถังที่มีส่วนผสมของน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อให้มีประกายของเม็ดสีที่สวยงาม, แผงประตูที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล ผสมกับผงไม้และหินจากภูเขาไฟ เป็นต้น ภายในรถยนต์ ได้แรงบันดาลใจจากทองแดงที่อยู่ในคอนดักเตอร์ของระบบไฟฟ้า พรัอมระบบเกียร์เป็นแบบระบบปุ่มกด หรือ shift by wire สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการเพียงปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้ยังมีระบบเบรคมือไฟฟ้า และระบบ wireless charging ที่สามารถชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ เพียงวางโทรศัพท์บริเวณช่องชาร์จด้านซ้ายของปุ่มเลือกตำแหน่งเกียร์

Hyundai IONIQ EV

ระบบขับเคลื่อนเป็นการขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 120 แรงม้า (88kW) แรงบิดสูงสุด 295 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อผ่านระบบเกียร์แบบ single-speed ที่สามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ผ่านปุ่มกดบริเวณคอนโซลกลาง และสามารถพารถยนต์ไปที่ความเร็วสูงสุดที่ 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบตเตอรี่สำหรับเก็บพลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน โพลิเมอร์ โดยเป็นแบตเตอรี่ขนาด 28 kWh ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาในการชาร์จไฟแบบปกติอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 25 นาที โดยประมาณ และการชาร์จไฟแบบ quick charge อยู่ที่ 30 นาทีโดยประมาณ ด้วยกำลังการชาร์จไฟขนาด 50 kW และ 23 นาทีโดยประมาณ ด้วยกำลังการชาร์จไฟขนาด 100 kW โดยแบตเตอรี่นี้ ถูกติดตั้งอยู่ใต้ที่นั่งของผู้โดยสารตอนหลัง แต่ยังคงไว้ซึ่งพื้นที่ที่สามารถบรรจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 650 ลิตร

ระบบความปลอดภัย มั่นใจในทุกการเดินทาง ด้วยระบบ Blind Spot Detection ตรวจจับรถในจุดอับสายตาขณะขับขี่ โดยทำงานควบคู่กันกับระบบ Lane Change Assist ช่วยตรวจจับรถในเลนด้านข้างในขณะที่ผู้ขับขี่กำลังจะเปลี่ยนเลน และระบบ Rear Cross Traffic Alert ระบบจะตรวจจับความเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆจากด้านหลัง ในขณะที่ผู้ขับขี่กำลังจะถอยรถ และระบบ Autonomous Emergency Braking System (AEB) ที่จะช่วยเบรกรถอัตโนมัติ ในกรณีที่ผู้ขับขี่ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองในขณะที่รถกำลังเข้าใกล้รถคันข้างหน้า หรือในกรณีที่คนเดินถนนเดินตัดผ่านหน้ารถในระยะกระชั้นชิด โดยทำหน้าที่ตรวจจับวัตถุและคนเดินถนน และจะสั่งการให้รถหยุดโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

Hyundai IONIQ EV

สองยนตกรรมเด่นจาก Hyundai พร้อมโชว์ที่งาน Motor Show 2017 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ