Toyota e-Palette รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์รุ่นใหม่ที่แพงที่สุดของโตโยต้า เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 17 ก.ย. 68 15:40
- 1,009 อ่าน
Toyota เปิดตัว e-Palette รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่น พร้อมความสามารถในการแปลงโฉมเป็นได้ทั้งรถรับส่งผู้โดยสาร, ร้านค้าบนล้อ, ฟู้ดทรัค, เลานจ์กีฬา หรือแม้แต่ศูนย์บริการเคลื่อนที่ และที่น่าจับตามองที่สุดคือ มันกลายเป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงที่สุดในสายการผลิตของ Toyota โดยมีราคาสูงกว่ารุ่นหรูอย่าง Century SUV
แนวคิดของ e-Palette เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2018 และถูกพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ รวมถึงถูกใช้ในงานโอลิมปิกโตเกียว 2021 ในรูปแบบต้นแบบ และในปีนี้ Toyota ได้นำแนวคิดนั้นมาสู่การผลิตจริงสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยเน้นตอบโจทย์การขนส่งและบริการในเขตเมืองอัจฉริยะ
ตัวรถมีขนาดใกล้เคียงกับ Land Cruiser Prado โดยมีความยาว 4,950 มม. กว้าง 2,080 มม. และสูง 2,650 มม. ภายในห้องโดยสารรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 17 คน (รวมคนขับ) ประกอบด้วยที่นั่งแบบติดตั้งถาวร 4 ที่นั่ง และเบาะพับได้ 3 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่ยืนสำหรับผู้โดยสารอีก 12 คน เหมาะทั้งสำหรับระบบขนส่งสาธารณะหรือกิจกรรมเฉพาะทาง
ดีไซน์ภายนอกยังคงกลิ่นอายของรถต้นแบบ ด้วยรูปทรงกล่องแบบสมมาตร ไฟหน้า LED ทรงกลม และหน้าจอดิจิทัลด้านหน้าสำหรับแสดงข้อความหรือป้ายโฆษณา ภายในห้องคนขับใช้ระบบพวงมาลัยแบบ Yoke และระบบ Steer-by-Wire พร้อมจอแสดงผลหลายตำแหน่งที่ควบคุมทั้งข้อมูลขับขี่ อินโฟเทนเมนต์ และระบบความปลอดภัย
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า พร้อมแรงบิด 266 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 80 กม./ชม. แบตเตอรี่ความจุ 72.82 kWh ให้ระยะทางสูงสุด 250 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รองรับระบบชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จถึง 80% ได้ภายใน 40 นาที และยังสามารถใช้งานเป็นแหล่งพลังงานฉุกเฉินได้อีกด้วย
แม้ในอดีตต้นแบบจะเคลมความสามารถขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แต่รุ่นผลิตจริงในขณะนี้ยังรองรับเพียงระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติระดับ 2 (Level 2) อย่างไรก็ตาม Toyota ยืนยันว่า e-Palette สามารถรองรับการอัปเกรดสู่ระบบขับขี่อัตโนมัติระดับสูงได้ในอนาคตผ่านชุด "Automated Driving Kit" ที่พัฒนาร่วมกับพาร์ตเนอร์ภายนอก โดยมีแผนเริ่มทดสอบร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและตัวแทนจำหน่ายภายในปีงบประมาณ 2027
อย่างไรก็ตาม จุดที่หลายคนจับตามองคือราคาจำหน่ายที่สูงถึง 29 ล้านเยน หรือประมาณ 196,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.2 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าสูงกว่ารุ่นเรือธงอย่าง Toyota Century SUV ที่มีราคาอยู่ที่ 27 ล้านเยน โดย Toyota จะผลิต e-Palette ตามคำสั่งซื้อเท่านั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ราคาสูงกว่าปกติ
อย่างไรก็ดี Toyota ระบุว่าสามารถรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นสูงสุดถึง 15.8 ล้านเยน หรือประมาณ 107,200 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยลดภาระราคาลงได้เกือบครึ่ง
ในระยะเริ่มต้น Toyota วางแผนใช้งาน e-Palette ภายในพื้นที่ Toyota Arena Tokyo และเมืองต้นแบบแห่งอนาคต Woven City ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในอนาคต
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com