พรีวิว New Maserati GranTurismo Folgore ในรูปแบบ Prototype

  • โดย : PR Autodeft
  • 12 เม.ย. 65
  • 4,185 อ่าน

และนี่ คือ การเผยโฉมรถแบบเต็มรูปแบบครั้งแรกของเรา สำหรับรถยนต์ Maserati GranTurismo GT Next Generation ซึ่งมาพร้อมกับระบบส่งกำลังไฟฟ้าขนาด 1,200 แรงม้า

Maserati ได้นำเสนอรูปลักษณ์ที่ดีที่สุดให้แก่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่บริษัทฯได้เคยผลิตขึ้นมา ก่อนที่รถตัวอย่างจะถูกถอยออกมาในปี 2023 มันถูกเรียกว่า Maserati GranTurismo Folgore ซึ่งจะเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบในเจเนอเรชั่นถัดไป

 

รถจะถูกเปิดตัวให้เป็นยานยนต์แห่งอนาคตที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของ Maserati  แต่มีความเป็นไปได้ที่รถจะมาพร้อมขุมกำลัง V8 เมื่อทำการออกจำหน่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการประกาศของบริษัทที่จะเข้าร่วมกับ Formula E ในอนาคต ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป รถเวอร์ชั่น Prototype ของ GranTurismo Folgore ได้ถูกขับขี่ไปรอบๆสนาม Rome E-Prix circuit ในการแข่งขันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้

 

คำแปลจากภาษาอิตาเลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ Folgore หมายถึง “สายฟ้า” และป้ายชื่อนี้จะปรากฏบนรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในอนาคตของ Maserati ทุกรุ่น ตอนนี้ทางแบรนด์ได้เปิดเผยข้อมูลจำเพาะสำหรับ New GranTurismo รวมถึงไทม์ไลน์ทั้งหมดในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น “Folgore”

Francesco Tonon หัวหน้าฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ของ Maserati ระบุว่า GranTurismo Folgore จะส่งต่อ “กำลังแรงม้าที่ถูกตั้งไว้มากกว่า 1,200bhp” จากระบบขับเคลื่อน all-wheel drive แบบสามมอเตอร์ ซึ่งจะส่งผลให้รถสามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 62 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยเวลาที่น้อยกว่าสามวินาที และทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 186 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งได้รับการยืนยันแล้ว

 

ในขณะที่แบรนด์ไม่ได้บอกตัวเลขพิสัยการเดินทางที่ถูกคาดการณ์ไว้ โดย Tonon ได้บอกว่า พิสัยการเดินทางสูงสุดที่ได้จากการชาร์จเต็มที่นั้นจะ "เป็นที่พอใจสำหรับลูกค้าของเรา"

 

Davide Grasso CEO ของ Maserati กล่าวถึงรายละเอียดของแผนการเปิดตัวแบรนด์สำหรับรถ EVs ในอนาคต เมื่อพูดถึงตารางเวลา โดยรถรุ่น Grecale และรถรุ่น GranCabrio Folgore มีกำหนดการที่จะเปิดตัวในปีหน้าเช่นกัน

 

โดยภายในปี 2025 แบรนด์หรูของอิตาลีจะทำการเปิดตัวรถซุปเปอร์คาร์รุ่น MC20 เวอร์ชั่นที่ใช้ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับรถรุ่น Levante SUV และ Quattroporte sports saloon เวอร์ชั่นที่ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับออกแบบใหม่ทั้งหมด

 

ด้วยพันธกิจล่าสุดของ Maserati ในการแข่งขันรถ Formula E series ยังได้มีการพูดถึงโครงร่างของโมเดลรถสปอร์ตในอนาคตของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงรถรุ่น GT ด้วย โดยจะเป็นการนำเสนอการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่ท้องถนน ซึ่งรถรุ่น GranTurismo Folgore จะได้รับประโยชน์จากอินเวอร์เตอร์ของ Formula E ด้วยแบตเตอรี่แบบ " bone" เพื่อการกระจายน้ำหนักที่เหมาะสมและเพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงของรถต่ำ

 

ในขณะที่รถรุ่น GranTurismo, GranCabrio และ Gercale Folgore จะไม่ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม STLA ของบริษัทแม่ Stellantis ที่กำลังจะมาถึง เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของพวกเขาในฐานะที่เป็น Maseratis ตามแบรนด์

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถรุ่นถัดไปของ Levante และ Quattroporte นั้นจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งจะนำเสนอความสามารถในการขับขี่แบบอัตโนมัติ 3 ระดับ โดยรถยนต์เหล่านี้จะสามารถใช้แพลตฟอร์ม Stellantis STLA ขนาดกลางได้ โดยมีพิสัยการเดินทางสูงสุดได้ถึง 440 ไมล์

 

รถรุ่น GranTurismo และ GranCabrio จะยังคงออกขายพร้อมกับเครื่องยนต์สันดาป และ Tonon เชื่อว่า ยังคงมีตลาดสำหรับรถ GT สุดหรูที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป “วันนี้ตลาดสำหรับเวอร์ชั่น ICE โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถแบบนั้น ยังคงมีอยู่อย่างแน่นอน สิ่งที่เราพยายามทำกับ Folgore คือ การให้ทางเลือกแก่ผู้บริโภคและให้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป”

เมื่อ GranTurismo และ GranCabrio จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ “Nettuno” ทวินเทอร์โบ V6 รุ่นใหม่ของ Maserati ซึ่งจะเกิดความแตกต่างของเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด อันจะนำมาซึ่งปัญหาในเรื่องเสียงของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Maserati

 

Tonon กล่าวว่า ในรถรุ่น Folgore "คุณจะไม่ได้ยินเสียงเลียนแบบของ ICE V6 แต่มันเป็นเรื่องของเสียงที่แท้จริง เครื่องยนต์นั้นจะแตกต่างออกไป เราจึงนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาปรับเสียงนี้ให้เป็น Maserati ที่ดิบจริงๆ มันไม่ใช่เสียงปลอมๆ มันเริ่มต้นด้วยเสียงของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับการปรับแต่งให้เป็นสัญลักษณ์ มีเอกลักษณ์ และมีความเป็นมาเซราติ”

 

มันจะเป็น Maseratis ที่มีศักยภาพมากขึ้น เต็มไปด้วยความทรงพลัง และมีความเป็นรถแข่งมากขึ้นในอนาคตเช่นกัน เมื่อถูกถามว่าผู้สืบทอดทางจิตวิญญาณของแบรนด์ไฮเปอร์คาร์ MC12 จะเป็นรถรุ่น Grasso ได้หรือไม่ เขากล่าวด้วยคำตอบสั้นๆว่า “ใช่” ฉันกำลังพูดแบบนี้ด้วยรอยยิ้ม เพราะในขณะที่เราผลักดันแบรนด์ให้ก้าวไปข้างหน้า ลูกค้าของเราจะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นสิ่งที่เรากำลังจะทำให้เกิดขึ้น ฉันไม่ต้องการที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป เนื่องจากจะมีส่วนสำคัญของแผนงานอยู่ในนั้น ซึ่งมันจะเน้นไปที่ความคิดริเริ่มเหล่านี้”

 

นอกนั้นก็เป็นเรื่องที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของแบรนด์ Ghibli saloon จะไม่ถูกแทนที่ด้วยโมเดลรุ่นใหม่

 

ที่มา autoexpress

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ