พรีวิวคอนเซ็ปต์ Hyundai RN22e รถสปอร์ตไฟฟ้าสมรรถนะสูง สาย N

จรวดทางเรียบรุ่นใหม่ที่มีกำลังถึง 577bhp จะเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการขับเคลื่อนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในตระกูล N ของค่าย Hyundai โดยรุ่นแรกที่จะออกมาในปี 2023 คือ Ioniq 5 ที่แสนร้อนแรง

คอนเซ็ปต์ของรถรุ่นใหม่จากค่ายยักษ์ใหญ่แห่งแดนโสมขาวอย่าง Hyundai RN22e นั้น เป็นอะไรที่ดูแปลกใหม่ ด้วยวิสัยทัศน์การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจในการแข่งขัน เพื่อค้นหาว่าผู้คนนั้นคาดหวังว่าจะได้รับอะไรจากรถไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพที่กำลังจะออกมาใหม่ของทางแบรนด์ ซึ่งรถรุ่นแรกที่จะออกมานั้นคือ Hyundai Ioniq 5 N

 

สำหรับจุดมุ่งหมายและเจตนาทั้งหมดในการออกแบบนั้น แสดงออกมาในรถต้นแบบที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่น N ของ Hyundai Ioniq 6 ตัวใหม่ และถึงแม้ว่าข้อมูลที่ออกมาจะเป็นการชี้นำให้เห็นว่ารถรุ่นใหม่นี้น่าจะกำลังอยู่ในเส้นทางที่กำลังถูกพัฒนาขึ้น แต่ทาง Hyundai กลับทำการหยุดคำยืนยันในการผลิตรถรุ่น Ioniq 6 N โดยกลางคัน

ในเรื่องนี้ Till Wartenberg ผู้เป็นรองประธานฝ่ายการจัดการแบรนด์และมอเตอร์สปอร์ตของ N ได้ทำการยืนยันว่า รถ Performance Version ของรุ่น Ioniq 5 และรถรุ่น Ioniq 5 N จะทำการออกสู่ตลาดในปีหน้าอย่างแน่นอน

 

Hyundai ได้มีคำเรียกรถในซีรี่ส์ RN ว่า “Rolling Lab Concepts” (แปลเป็นไทยก็น่าจะประมาณว่า “แนวคิดที่กลิ้งไปกลิ้งมาในห้องปฏิบัติการ”) โดยพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องพรีวิวรถรุ่นที่จะเข้าสู่การผลิต แต่ควรที่จะให้มันทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาในการทดลองและปรับแต่งเทคโนโลยีใหม่ๆมากกว่า เช่นเดียวกับทำให้มันเป็นเครื่องวิเคราะห์สไตล์ของรถในอนาคตด้วยเช่นกัน

 

รถรุ่น RN22e จะออกมาตามหลังรถรุ่น RM20e และ RM19 ซึ่งจะใช้ตัวถังของรถรุ่น Hyundai Veloster ในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและใช้เลย์เอาต์การวางเครื่องยนต์ไว้ตรงกลางตามลำดับ ซึ่งรถรุ่น RN22e คาดว่าจะถูกเปิดตัวออกมาพร้อมกับรถ Track Car รุ่นทดลองอีก 1 รุ่น ซึ่งก็คือรถคูเป้สไตล์ย้อนยุคที่ใช้พลังงานจากระบบเซลล์เชื้อเพลิงอย่างรุ่น Vision N 74

RN22e เป็นรถในซีรี่ส์ RN ที่มีศักยภาพเข้าใกล้การเป็นรถที่จะเข้าสู่การผลิตจริงมากที่สุด โดยการนำเอาแบบของรถรุ่น Ioniq 6 สไตล์ Saloon ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆนี้ และเพิ่มส่วนของช่องลมที่ลึกกว่า จัดการส่วนของดิฟฟิวเซอร์ให้ดีขึ้น เปลี่ยนสปอยเลอร์แบบใหม่ ใส่ล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และออกแบบซุ้มประตูให้มีขนาดกว้างกว่าเดิม ซึ่งนั่นทำให้รถดูมีแนวทางที่ดูดุดันยิ่งขึ้น

 

ทั้งหมดที่ว่ามาแทนที่จะเป็นแค่การยืนยันการผลิตรถรุ่น Ioniq 6 N แต่สไตล์แบบใหม่ของมันนั้น กลับทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดความสนใจจากผู้คนต่อรถรุ่นดังกล่าวมากกว่า

ในเรื่องเครื่องยนต์กลไกของรถรุ่นนี้นั้น มันจะเป็นการออกไปจากแนวทางเดิมๆเพื่อพัฒนาวิธีการใหม่ๆ เพื่อแทรกซึมเข้าสู่การมีส่วนร่วมในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะสูง และต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้คนรู้สึกไปว่ารถรุ่นนี้ก็เป็นเพียงรถยนต์ไฟฟ้าธรรมดาๆที่วิ่งได้เร็วเท่านั้น

 

ในระหว่างการพรีเซนต์รถรุ่นนี้นั้น ทาง Hyundai ได้ยอมรับถึงความท้าทายที่จะทำให้บรรลุถึงความแตกต่างนี้ ด้วยเหตุนี้ ทางทีมผลิตรถรุ่น RN22e จึงได้คิดค้นหาแนวทางในการลดน้ำหนักของรถลง รวมทั้งหาวิธีชดเชยเสียงเครื่องยนต์ที่ขาดหายไป และทำให้รถไฟฟ้าสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในการขับขี่บนเส้นทางไกล

 

อาวุธหลักในคลังแสงแบบไดนามิกของรถรุ่น RN22e คือ ความสามารถในระบบ Torque-Vectoring และถึงแม้ว่ามันจะมีมอเตอร์เพียงตัวเดียวในแต่ละเพลา (ต่างจากรถรุ่นอื่นๆ เช่น Audi E-tron S และ Hummer EV) แต่มันก็ให้ผลสัมฤทธิ์ในเรื่องของประสิทธิภาพที่ส่งกำลังไปสู่ล้อที่ถูกขับเคลื่อนจากภายนอกโดยใช้ชุดคลัตช์

 

Wartenberg ได้เน้นว่า ความสามารถในการกำหนดค่ากำลังนั้น ได้กลายเป็นหลักการสำคัญของแบรนด์ย่อยในตระกูล N อย่างเช่น รถรุ่น RN22e ที่มีมอเตอร์สองตัวในการขับเคลื่อนสี่ล้อ (ให้กำลังที่ 577bhp และ 548lb ft ซึ่งเท่ากันกับรถรุ่น Kia EV6 GT ที่มีความใกล้เคียงกัน) ซึ่งรถในกลุ่ม N นั้น ก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกแรงบิดที่แบ่งระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลัง และจนถึงตอนนี้รถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆทุกรุ่น ก็จัดการกับสิ่งนี้ในแบบอัตโนมัติหรือไม่ก็แยกมันแบบ fixed ไปเลย

 

เขายังบอกอีกว่า การตั้งค่าดังกล่าวน่าจะเป็นสิ่งที่เติมความสนุกที่สามารถกำหนดเองได้ลงไปให้กับผู้ขับขี่รถไฟฟ้า มันจะเป็นการแสดงออกแบบสุดยอดของการผสมผสานระหว่าง Torque-Vectoring และการแยกแรงบิดแบบแปรผัน ซึ่งก็คือโหมดดริฟท์นั่นเอง อันจะเป็นคุณสมบัติที่จะมีอยู่ในรถรุ่น Ioniq 5 N ที่จะออกมาในปีหน้า

ทั้งนี้ ทางแบรนด์ Hyundai ได้เคลมว่า รถแบบ One-off Track รุ่นนี้ จะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 155 ไมล์ (250 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง โดยรถรุ่น EV6 GT นั้น จะมีความสูงที่มากกว่า มีความหนากว่า และมีน้ำหนักที่มากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่รถก็จะสามารถเร่งความเร็วไปได้แตะ 161 ไมล์ (260 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง

 

ในรถตัวที่ผลิตขึ้นมาเพื่อการทดสอบนั้น ยังทำหน้าที่ตรวจสอบระบบเบรกที่ถูกทำให้ดีขึ้นสำหรับรถไฟฟ้าอีกด้วย ในขณะที่ส่วนของระบบเบรกได้มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่ นั่นหมายความว่าดิสก์เบรกของรถไฟฟ้าจะไม่ต้องออกมาแบกรับภาระอย่างหนักบนท้องถนนอีกต่อไป แต่ด้วยน้ำหนักที่มากของก้อนแบตเตอรี่นั้น อาจทำให้รถที่ใช้ระบบไฟฟ้าหมดกำลังเบรกลงอย่างรวดเร็วภายใต้สถานการณ์ที่ต้องทำงานอย่างหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่าบนสนามแข่ง จากเหตุนี้ Hyundai จึงได้ทำการทดลองในส่วนของดิสก์ไฮบริดเมทัลขนาด 400 มม. อยู่

ในขณะเดียวกัน ระบบเบรกที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ก็ยังถูกใช้เพื่อควบคุมการเลี้ยวด้วยอีกอย่าง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มันส่งผลต่อการหมุนของรถขณะกำลังเข้าโค้งอยู่นั้นเอง

 

สุดท้ายที่จะกล่าวก็คือ เรื่องของท่อไอเสียของรถรุ่น RN22 นี้ จะถูกส่งเสียงผ่านลำโพงที่อยู่ภายในรถ ตลอดจนชุดอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งอยู่ภายนอก เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ยินเสียงที่เป็นมีความเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถ

 

นอกจากนี้ การติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ใช้เพื่อควบคุมการทำงานของมอเตอร์ ยังสามารถจำลองการกระตุกในเวลาที่ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้อีกด้วย

 

ข้อมูลและภาพจาก autocar