Toyota เตรียมเปิดสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในยุโรปที่โรงงานเช็ก ด้วยงบลงทุนกว่า 25,000 ล้านบาท
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 4 ก.ย. 68 21:37
- 1,019 อ่าน
Toyota กำลังเดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปอย่างจริงจัง ด้วยการประกาศลงทุนครั้งใหญ่ในโรงงานที่เมืองโคลิน ประเทศสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งจะกลายเป็นฐานการผลิต รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) รุ่นแรกของแบรนด์ในทวีปยุโรป แม้รายละเอียดของตัวรถยังคงถูกเก็บเป็นความลับ แต่ขนาดการลงทุนและทิศทางก็ชี้ให้เห็นถึงการปรับยุทธศาสตร์ของ Toyota อย่างชัดเจน
ในการขยายกำลังการผลิตครั้งนี้ Toyota จะลงทุนกว่า €680 ล้านยูโร หรือประมาณ 25,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่โรงงานจากเดิม 152,000 ตารางเมตร เป็น 173,000 ตารางเมตร พร้อมเพิ่มสายการผลิตใหม่สำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ รวมถึงอาคารสำหรับงานพ่นสีและเชื่อมตัวถังใหม่ โดยโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเช็กสูงสุดถึง €64 ล้านยูโร (ประมาณ 2,400 ล้านบาท)
ปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้ผลิตรถรุ่น Yaris Hybrid และ Aygo X ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนแพลตฟอร์ม TNGA-B และมีกำลังการผลิตปีละประมาณ 220,000 คัน อย่างไรก็ตาม Toyota เคยให้ความเห็นว่า ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก จึงเป็นไปได้ว่ารถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังจะผลิต อาจอยู่ในเซกเมนต์ C, D หรือ E ซึ่งมีความสอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการในตลาดยุโรป
การลงทุนครั้งนี้ได้รับเสียงชื่นชมจาก นายกรัฐมนตรี Petr Fiala ของสาธารณรัฐเช็ก โดยกล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ประเทศของเราสามารถดึงดูดนักลงทุนระดับโลกอย่าง Toyota ให้เข้ามาลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ ทั้งที่มีหลายประเทศให้ความสนใจ” พร้อมระบุว่าการลงทุนดังกล่าว ไม่เพียงขยายศักยภาพการผลิตของโรงงานโคลิน แต่ยังช่วยยกระดับเทคโนโลยีของประเทศ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์มีสัดส่วนถึงประมาณ 10% ของ GDP ของเช็ก
แม้ Toyota ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่จะผลิตในยุโรป แต่ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในระดับภูมิภาค โดยสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Toyota ในการตอบสนองต่อทิศทางของตลาดยุโรปที่กำลังเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์พลังงานสะอาด และลดการพึ่งพาเครื่องยนต์สันดาปภายในในระยะยาว
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com