วอชิงตันแซงแคลิฟอร์เนีย ขึ้นแท่นรัฐที่น้ำมันแพงที่สุดในอเมริกา

ชาวแคลิฟอร์เนียคงชินกับราคาน้ำมันแพงจนเจ็บตัว แต่ตอนนี้ตำแหน่งรัฐที่มีราคาน้ำมันแพงที่สุดตกเป็นของวอชิงตันไปแล้ว หลังราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ร้อนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.657 ดอลลาร์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอน และในบางเคาน์ตีราคายังทะลุ 5 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันในวอชิงตันจึงแพงกว่าราคาที่แคลิฟอร์เนียซึ่งอยู่ที่ 4.656 ดอลลาร์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอนเล็กน้อย แม้ว่าราคาน้ำมันในแคลิฟอร์เนียจะลดลงจาก 4.77 ดอลลาร์เมื่อต้นปีที่แล้ว

สาเหตุหลักที่ทำให้น้ำมันแพงในวอชิงตัน คือการขึ้นภาษีน้ำมันจาก 49.4 เซนต์เป็น 55.4 เซนต์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และยังมีการเพิ่มภาษีคาร์บอนอีก 6 เซนต์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น เช่น ปัญหาซัพพลาย น้ำมันกลั่นที่ถูกไฟไหม้ในเดือนกุมภาพันธ์ และการปิดท่อส่งน้ำมันระหว่างวอชิงตันกับโอเรกอนที่ทำให้ราคาพุ่งขึ้นประมาณ 20 เซนต์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันน่าจะลดลงเมื่อซัพพลายกลับมาปกติและมีการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันผสมสูตรฤดูหนาวที่ผลิตได้ถูกกว่า

เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันเฉลี่ยทั่วประเทศที่อยู่แค่ 3.20 ดอลลาร์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอน ซึ่งถือว่าใกล้จุดต่ำสุดในรอบหลายปีแล้ว วอชิงตันและแคลิฟอร์เนียยังคงมีราคาน้ำมันสูงกว่าหลายรัฐ เช่น ฮาวาย (4.478 ดอลลาร์) และโอเรกอน (4.293 ดอลลาร์)

ส่วนรัฐที่ราคาน้ำมันถูกที่สุดในอเมริกาคือมิสซิสซิปปีที่ 2.709 ดอลลาร์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอน รองลงมาคือโอคลาโฮมา (2.752 ดอลลาร์), หลุยเซียนา (2.766 ดอลลาร์) และเท็กซัส (2.79 ดอลลาร์) ซึ่งราคาน้ำมันที่ถูกขนาดนี้แทบไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเวลาขับรถเครื่องใหญ่กินน้ำมันเลย

ที่มา Carscoops