7 ตำนานความเชื่อ เรื่องรถที่คุณควรจะคิดใหม่

  • โดย : Autodeft
  • 12 มี.ค. 59
  • 7,889 อ่าน

กล่าวถึงรถยนต์ทุกวันนี้ในโลกข้อมูลข่าวสาร เราต่างได้รับความเชื่อจากส่งที่เราอ่านไปต่างๆนานา มีข้อมูลมากมายปั้นแต่งจากคนที่ไม่รู้จริง หรือไม่เขาก็เชื่อว่าพวกเขารู้จริง และเมื่อมันเผยแพร่ออกมาแล้วก็ทำให้คนที่อ่านอาจจะเชื่อด้วยความไม่รู้จนกลายเป็นความงมงาย บ้างสนับสนุนพื้นฐานความเชื่อเดิมของพวกเขาและบ้างเปลี่ยนความคิดพวกเขา ซึ่งวันนี้เราจะลองมาดูสิว่า สิ่งที่คุณคิด มันตรงกับสิ่งที่เป็นจริงหรือไม่

 

 

1. เมื่อรถเราถูกยิงมันจะระเบิด

เชื่อเลยว่าคุณต้องเห็นเรื่องแบบนี้ผ่านภาพยนตร์คิวบู้มามากมายว่า รถจะระเบิดถ้าถูกยิง แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น จริงอยู่ที่น้ำมันเบนซินติดไฟง่าย เมื่อประกอบกับประสุนปืนที่ยิงด้วยความเร็วมันน่าจะมีแรงเสียดสีจนติดไฟ แต่รายการทางทีวีอย่าง   Myth Buster  ได้พิสูจน์เรื่องนี้และพวกเขาพบว่า แม้คุณจะยิงปืนเข้าตรงถังน้ำมันจังๆ รถมันก็ไม่ได้ระเบิดแบบที่คุณคิด แถมยังไม่ติดไฟด้วย

 

2.เกียร์ธรรมดาดีกว่าเกียร์ออโต้

ข้อเท็จจริงนี้ น่าจะเรียกว่าเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น ปัจจุบันระบบเกียร์ธรรมดานอกจากจะชวนเมื่อมือและบาทาแล้ว มันยังประหยัดน้ำกว่าเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งมีความทันสมัยมากกว่าและส่วนใหญ่จะมีอัตราทดมากกว่าเกียร์ธรรมดาด้วย

3.ใช้โทรศัพท์ขณะเติมน้ำมันจะทำให้รถระเบิดได้

คุณคงเคยเห็นป้ายห้ามใช้โทรศัพท์ในปั้มน้ำมัน และนั่นทำให้คุณต้องวางสายสำคัญเพื่อความปลอดภัยในสวัสดิภาพของคุณเอง แม้สิ่งที่เรากำลังจะพูดมันอาจจะดูขัดแย้ง แต่รายงานจากคณะกรรมการทางด้านโทรคมนามคมของสหรัฐ ชี้ว่า สัญญาณวิทยุจากโทรศัพท์มือถือนั้นไม่มีทางที่จะทำให้ไอระเหยน้ำมันติดไฟได้ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ และจากการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่ามันไม่มีเหตุเกี่ยวข้องกันโดยตรง ดังนั้นคุณคุยโทรศัพท์มือถือตอนเติมน้ำมันได้ถ้ามันเป็นสายสำคัญ แต่สั่งเด็กปั้มให้ถูกต้องแล้วกัน

 

4.เติมน้ำมันออกเทนสูงกว่ารถจะวิ่งดีขึ้น

เรื่องนี้เป้นความเชื่อที่ต้องเรียกว่าก้ำกึ่งระหว่างคนที่รักสมรรถนะ และคนที่ชื่นชอบความประหยัด ในแง่ของความประหยัดแล้วราคาน้ำมันที่ถูกกว่าย่อมส่งผลดีต่อกระเป๋าเงิน แต่ถ้ามันทำระยะทางได้น้อยกว่ามันก็น่าคิด นั่นเป็นจุดที่น้ำมันที่มีออกเทนสูงกว่าเข้ามามีบทบาท ต่อการตัดสินใจ

ทุกวันนี้รถยนต์ที่เราใช้มีคอมพิวเตอร์ภายในรถ พวกมันฉลาดจนสามารถสั่งจ่ายน้ำมันในอัตราส่วนผสมได้ถูกต้อง และนั่นเป็นเหตุที่อธิบายได้ง่ายว่า ทำไมรถคุณถึงสามารถปรับตัวได้ ไม่ว่าคุณจะยัดน้ำมันอะไรลงไปในถังก็ตาม พวกมันปรับการสั่งจ่ายน้ำมันจากหัวฉีด ให้เหมาะสมกับการทำงานของเครื่องยนต์ แต่ถ้าคุณเป็นพวกเท้าขวาหนักและต้องการสมรรถนะมากน้ำมันออกเทนสูงอาจจะเป็นเรื่องจำเป็น

หากจะให้สรุปว่าเราควรเติมน้ำมันอะไรดี คุณควรจะเติมน้ำมันตามที่ผู้ผลิตกำหนดเป็นขั้นพื้นฐาน ส่วนการเลือกเติมน้ำมันเกรดสูงไม่มีประโยชน์อะไรมากกว่าทำให้คุณเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ที่สำคัญควรศึกษารายละเอียดชนิดน้ำมันให้ดีเช่น  E20   เป็นส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน  95  กับเอทานอล  20% เป็นต้น

 

5.รถสีสดจะถูกจับความเร็วบ่อย  

อาจจะจริงถ้า เพราะมันมองเห็นได้ง่ายและเป็นจุดสนใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มันอาจจะไม่ใช่ประเด็นถ้ารถสีแดงที่วิ่งเร็วของคุณไม่ได้มีสมรรถนะมากมายอะไร ความจริงแล้วรายงานจาก Forbes เมื่อช่วงปี 2013 เคยเผยเรื่องที่น่าสนใจว่า รถที่โดนใบสั่งมากที่สุดคือเจ้า   Mercedes Benz  SL Convertible   สาเหตุก็เพรามันสามารถเร่ง  0-96 กม./ช.ม. ได้ในเวลา 4.4 วินาที  ...เห้นไหมละจะโดนจับหรือไม่เป็นเรื่องสมรรถนะมากกว่าสีรถ

6.เราควรเลี่ยงปั้มหลอด

บางทีการเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ ในทางทุรกันดารมากๆ ปั้มชาวบ้าน หรือที่เราเรียกกันว่าปั้มหลอดนั้น อาจจะเป็นทางเลือกของทางออกสุดท้ายดีกว่าที่คุณจะตายกลางทางเพราะไม่มีน้ำมันกลับบ้าน ปั้มน้ำมันเหล่านี้มักถูกค่อนขอดว่าจำหน่ายน้ำมันไร้คุณภาพ .. โอเค!! มันอาจจะจริงบางปั้ม แต่ส่วนใหญ่ปั้มเหล่านี้ ปัจจุบันผู้ขายไปซื้อน้ำมันจากผู้ผลิตชั้นนำที่บรรจุในถังแกลลอน 200  ลิตรมาจำหน่าย โดยบวกกำไรจากการขายในสถานที่ซึ่งไม่มีทางเลือก และนอกจากนี้พวกเขายังต้องปฏิบัติระเบียบการจำหน่ายน้ำมัน ซึ่งมีการควบคุมอย่างใกล้ชิดด้วย

ส่วนถ้าคุณกังวลว่าน้ำมันที่จะเข้าเครองยนต์มันจะไม่สะอาด ขอให้มันใจว่าระบบส่งน้ำมันในรถยนต์นั้นมีการกรองน้ำมันถึง  2  ชั่นด้วยกัน  1.กรองก่อนเข้าปั้มเชื้อเพลิงในถังน้ำมันของคุณ และ 2.กรองก่อนเข้าเครื่องยนต์ของคุณผ่านกรองน้ำมันเชื้อเพลิง

 

7. รถพลังไฟฟ้าหรือรถไฮบริดอาจจะระเบิดถ้ารถชน

เป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ในเรื่องดังกล่าว และที่จริงแล้วรถยนต์ที่ใช้น้ำมันก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระเบิดถ้าถูกชนอย่างรุ่นแรงและมีประกายไฟจากการชน เพียงแต่เราอจจะชินกับพวกมันเท่านั้น

ในปี  2012 มีกรณีของรถยนต์   Chevrolet Volt เกิดเหตุไฟไหม้ และหน่วยงานที่ดูแลทางด้านความปลอดภัยทางด้านการจราจรทางถนนในอเมริกา  National Highway Traffic Safety Administration ลงมาสืบส่วนต้นเหตุดังกล่าว และจากรายงานสรุปเหตุดังกล่าวคณะกรรมการที่ลงมาสืบส่วนที่มีผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ความคิดเห็นว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่ว่า   Chevrolet Volt  หรือรถรุ่นอื่นๆ ที่ขับด้วยพลังงานไฟฟ้าจะมีความเสี่ยงในเรื่องไฟไหม้หรือการระเบิดมากกว่ารถที่ใช้น้ำมันในปัจจุบัน

 

เป็นอย่างไรบ้างครับกับเรื่องราวต่างๆมากมายของรถยนต์ ที่มีความเชื่อหรือการรับรุ้ที่อาจะต่างออกไปจากความเป็นจริง วันนี้เราควรต้องศึกษาข้อมูลให้ดี อย่างเชื่อในสิ่งทีเราเห็นหรือรับรู้เสมอไป

 

เรื่องโดย ดินน้ำมัน

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

5 เรื่องน่าสนใจ