รถเด่นในความทรงจำ!! Honda CR-V Gen 1 ต้นกำเนิดเอสยูวีเล็ก….ขวัญใจคนเมืองยุค 90

  • โดย : Autodeft
  • 8 มิ.ย. 63
  • 24,137 อ่าน

ในช่วงยุคทศวรรษ 90 อุตสาหกรรนรถยนต์เมืองไทย ได้มีโอกาสต้อนรับกลุ่มตลาดรถยนต์รูปแบบใหม่ ภายใต้ชื่อกลุ่มรถยนต์นั่งตรวจการณ์ ด้วยคุณสมบัติความโอโถ่งความอเนกประสงค์ของห้องโดยสาร ความใหญ่โตของตัวรถ สมรรถนะการปีนไต่ลุยทางโหดในรูปแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นตั้งแต่รุ่นใหญ่อย่าง Mitsubishi Pajero, ISUZU Trooper, Toyota Land Cruiser รวมถึง Land Rover Discovery

Honda CR-V

แต่กลุ่มวัยรุ่นในยุค 90 ที่ไม่ต้องการที่จะซื้อรถยนต์ประเภทนี้เพราะตัวรถที่ใหญ่เกินความจำเป็น ใช้งานในเมืองไม่คล่องแคล่ว ไม่สะดวกสาบาย ทำให้ค่ายรถยนต์ยอดนิยมอย่าง Honda เล็งเห็นถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ จึงเป็นที่มาของการเปิดตลาดรถยนต์ตรวจการณ์รูปแบบใหม่กับขนาดที่เล็กลงแต่ยังเน้นความสบายเทียบเท่ารุ่นใหญ่ ภายใต้ชื่อ Honda CR-V คำว่า CR-V ย่อมาจาก Comfortable Runabout-Vehicle โดยเปิดตัวในญี่ปุ่นและทั่วโลก ตั้งแต่ปี 1996 ภายใต้รหัสตัวถัง RD1-RD3 ด้วยการนำพื้นฐานของ Honda Civic มาขยายตัวถังให้ใหญ่ขึ้นในร่างรถยนต์ตรวจการณ์ไซส์คอมแพ็คท้ายกุด (Compact SUV) โดยคนออกแบบเจนนี้มีชื่อว่านาย Hiroyuki Kawase

Honda CR-V

Honda CR-V

สำหรับเมืองไทยเปิดตัวในปีเดียวกัน (1996) โดยช่วงแรกเป็นการนำเข้าทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่น หน้าตาความหล่อ ถอดแบบพิมพ์เดียวกับรถยนต์เอสยูวีรุ่นพี่ ไม่ว่าจะ ตั้งแต่กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถขอบโครเมี่ยม กันชนหน้า-หลัง กระจกมองข้าง ราวหลังคา คิ้วขอบล้อ มาเป็นแบบสีดำ พร้อมล้ออัลลอยลาย 6 ก้านคู่ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 205/70 R15 ความโดดเด่นของรุ่นนี้จะอยู่ตรงที่ฝาท้าย ที่สามารถเปิดได้ถึง 2 บาน บน-ล่าง และล้ออะไหล่ห้อยท้ายแฟชั่นฮิตของรถยนต์ทรงสูงในยุค 90

หลังจากนั้นในปี 1998 ทาง ฮอนด้า ตัดสินใจประกอบ Honda CR-V ในประเทศไทย แทนการนำเข้าจากญี่ปุ่น แต่หน้าตายังแบบเดียวกับเวอร์ชั่นนำเข้าทุกประการ หลังจากนั้นในปี 1999 แนะนำรุ่นปรับโฉมหรือ Facelift ที่หน้าตาเดิมอีกเช่นกันแต่ปรับลายล้อออัลลอยลายใหม่เท่านั้น เป็นแบบ 5 ก้านสีเงินทั้งวงแต่ขนาดเท่าเดิมคือ 15 นิ้ว พร้อมยางขนาดเดิม 205/70 R15 รวมถึงเพิ่ม Color Key สีเดียวกับตัวรถทั้งกันชนหน้า-หลัง กระจกมองข้าง ราวหลังคา คิ้วขอบล้อ จากเดิมเป็นแบบสีดำ ตัวรถมีขนาดสมส่วนตั้งแต่ความยาว 4,510 มม. ความกว้าง 1,750 มม. ความสูง 1,705 มม. ฐานล้อ 2,620 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 205 มม. น้ำหนักรถ 1,430 กก. และความจุถังน้ำมัน 56 ลิตร

Honda CR-V

Honda CR-V

Honda CR-V

ออพชั่นเด่นอีกอย่างนั่นคือคันเกียร์อัตโนมัติติดตั้งที่คอพวงมาลัยและคาดว่าเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้ตำแหน่งเกียร์อยู่บนคอพวงมาลัย รวมถึงออพชั่นจำเป็นทั้งมาตรวัด พวงมาลัย 4 ก้าน พร้อม Airbag เครื่องปรับอากาศ Auto กว้างขวางสบายกับห้องโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง กับ เบาะนั่งผ้ากำมะหยี่ทรงใหญ่ พร้อมเบาะนั่งตอน 2 ที่สามารถปรับเอนได้ พับได้แบบ 50/50 พร้อม โต๊ะปิกนิกขนาดใหญ่ สามารถทำกิจกรรมสันทนาการกับครอบครัวได้ในช่วงวันหยุด และคอนโซลกลางแบบฝาปิดสามารถพับได้เพื่อเดินไปถึงเบาะนั่งตอน 2 ได้สบายๆเครื่องยนต์ความแรงนั้นผูกขาดขนาดเดียวกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร DOHC ในรหัส B20B 130 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 186 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้วางตั้งแต่ปี 1996-1999 จนในรุ่นปรับโฉมมีการเพิ่มพลังกับ DOHC ในรหัสใหม่ B20Z 147 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที โดยทั้งสองขนาดยังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Overdrive

Honda CR-V

อีกหนึ่งจุดเด่นที่สร้างชื่อให้กับ เอสยูวีเล็กคันนี้ ก็คือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Real Time แบบปั้มคู่ หลักการทำงานถ้าขับขี่ปกติถนนทางเรียบในเมืองจะเป็นขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า แต่ถ้าอยู่ในเส้นทางขุรขระหรือเสียการทรงตัว ระบบจะส่งแรงบิดไปทีล้อหลังและกลับมาเป็นระบบขับหน้าโดยอัตโนมัติอีกครั้งเมื่อกลับเข้าสู่ถนนทางเรียบซึ่งระบบนี้เพิ่มสมรรถนะในการยึดเกาะได้ดี ระบบกันสะเทือนอิสระ ปีกนก 2 ชั้น พร้อมเหล็กกันโคลงทั้ง 4 ล้อ ความปลอดภัยที่ครบครันในยุคนั้นทั้งระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ระบบแบรก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เป็นต้น โดยรถยนต์รุ่นนี้ออกมาท้ารบกับคู่แข่งร่วมชาติอย่าง Toyota RAV4 กับ Suzuki Vitara ออกมาทำตลาดไล่เลี่ยกัน แต่ด้วยที่ Toyota RAV4 เป็นรถยนต์นำเข้า และความลงตัวที่ด้อยกว่า จึงทำให้ Honda CR-V กลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมในชั่วข้ามคืน และขายดีมากกว่า RAV4 โดยจำหน่ายในเมืองไทยตั้งแต่ ปี 1996 -2002และหลังจากนั้น เจเนอเรชั่นที่ 2 (RD4-RD7) ก็มารับช่วงต่อตั้งแต่ปี 2002 จนถึง เจนเนอรชั่นที่ 5 ในปัจจุบัน

Honda CR-V

สำหรับสาวกรถเอสยูวีที่ต้องการอยากหาไว้ใช้งาน หาไว้แต่ง หรือหาไว้สะสมมาเป็นเจ้าของนั้นต้องเลยได้เลยว่ามีมากตามศูนย์รถมือสอง หรือ เจ้าของเดิมใช้งานแบบรักษารถ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนตัดสินใจซื้อแน่นอนอยู่แล้วครับว่ารุ่นนี้อายุรถ 20 กว่าปี ปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ระบบไฟมีส่วนสำคัญที่ต้องซ่อมตามสภาพการใช้งาน ความร้อนขึ้น ตั้งวาล์วบ่อยๆ สิ้นเปลืองน้ำมันเป็นธรรมชาติของรถรุ่นนี้จนมีไปติดตั้งแก๊สกัน ส่วนการใช้งานในประจำวัน วิ่งทางไกล ได้อัตราสิ้นเปลืองทำได้ 10-11 กม./ลิตร

Honda CR-V

Honda CR-V

ความยากง่ายในการหาอะไหล่รถตามเชียงกงนั้นมีจำนวนพอสมควร และด้วยเป็นรถยนต์ที่ประกอบในเมืองไทย จึงยังมีอะไหล่จากซัพพลายเออร์ ผลิตออกมาต่อเนื่อง แต่บางชิ้นยังต้องพึ่งพาจากศูนย์ ฮอนด้าด้วยเช่นกัน และด้วยราคามือสองที่เริ่มต้นตั้งแต่ 50,000-150,000 บาทขึ้นอยู่กับสภาพรถเป็นหลักและความวินเทจที่ยังมีมลขลัง ทำให้คนเล่นรถสนใจที่จะซื้อมาครอบครองกันสำหรับ Honda CR-V เจเนอเรชั่นที่ 1

 

ที่มา Wikipedia, autowoke.com

ที่มาภาพ grandprixphotolike

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ