Ford Ranger MY2019 กระบะสุดแกร่ง….เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 6 รุ่น เริ่ม 528,000 บาท

  • โดย : Autodeft
  • 16 พ.ค. 62
  • 45,889 อ่าน

หลังจากเปิดตัวไปตั้งแต่ปีกลายสำหรับ Ford Ranger ใหม่ กระบะอเมริกันพันธุ์แกร่งที่สร้างความโหด เท่ แกร่ง จนมียอดขายสูงเป็นอันดับต้นๆของตลาดกระบะเมืองไทย

 

Ford Ranger

ล่าสุด ฟอร์ด เพิ่มทางเลือกด้วยการเพิ่ม 6 รุ่นย่อยใหม่ในตระกูล Ford Ranger จะทำให้ Ford Ranger ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย รวมทั้งหมด 26 รุ่นเพื่อมอบความคุ้มค่าและตัวเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้นแก่ลูกค้าและและตอกย้ำตำแหน่งที่แข็งแกร่งของ Ford ranger ท่ามกลางตลาดรถกระบะที่มีการแข่งขันสูงในประเทศไทย สำหรับการเพิ่มรุ่นย่อยถึง 6 รุ่นนี้ได้แก่ รุ่น Wildtrak 1 รุ่น XLT 1 รุ่น XL และ XL+ อีก 4 รุ่น ดังนี้

Ford Ranger

Ford Ranger

• รุ่น Standard Chassis Cab 2.2L XL 4x2 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้า ด้วยสมรรถนะเหนือชั้นที่ และสามารถดัดแปลงเป็นตู้เก็บของเย็นหรือร้อนได้ ในราคา 528,000 บาท

Ford Ranger

• รุ่น Standard Cab 2.2L XL 4x4 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รถกระบะสมรรถนะสูงพร้อมรับมือกับงานสุดหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นการลากจูง การบรรทุก และออฟโรด ด้วยราคา 649,000 บาท

Ford Ranger

• รุ่น Double Cab XL 2.2L 4x2 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันชาญฉลาด ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD เสนอขายที่ราคา 689,000 บาท

Ford Ranger

• รุ่น Double Cab 2.2L XL+ 4x2 Hi-Rider เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รถกระบะดับเบิ้ลแค็บ 4 ประตูยกสูงพันธุ์แกร่ง มาพร้อมล้ออัลลอย 16” และขุมพลังสมรรถนะสูง ในราคา 749,000 บาท

Ford Ranger

• รุ่น Open Cab 2.2L XLT 4x4 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รถกระบะสมรรถนะสูงมาพร้อมกับล้ออัลลอย 17” เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดที่ 799,000 บาท

Ford Ranger

• รุ่น Double Cab 2.0L Wildtrak เทอร์โบ 4x2 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รถกระบะดับเบิ้ลแค็บพันธุ์แกร่ง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมมอบความสะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยราคา 979,000 บาท

Ford Ranger

ทั้ง 6 รุ่นย่อยมาพร้อมความแรงจากพลังดีเซลเทอร์โบแปรผัน TDCI 2.0 ลิตร 180 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ในรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ 2.0L Wildtrak เทอร์โบ 4x2) พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน Duratroq TDCI 2.2 ลิตร (รหัส P4AT) High Power 160 แรงม้าที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 385 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที มีระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แรงเร้าใจ (*ในรุ่นStandard Chassis Cab 2.2L XL 4x2, รุ่น Standard Cab 2.2L XL 4x4, รุ่น Double Cab XL 2.2L 4x2, รุ่น Double Cab 2.2L XL+ 4x2 Hi-Rider และ รุ่น Open Cab 2.2L XLT 4x4)

ยิ่งไปกว่านั้น Ford ยังได้ปรับปรุงแผงหน้าปัดมาตรวัดความเร็วให้แสดงผลภาษาไทยได้สำหรับ Ranger รุ่นอื่นๆทั้ง รุ่น XLS, XLT, Limited, Wildtrak และ Raptor ด้วย

พร้อมออพชั่นภายนอกที่แตกต่างในแต่ละรุ่นทั้งกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแต่เปลี่ยนเส้นแนวนนอนให้เป็นสองเส้นโดยที่ขอบกระจังหน้าปั้มชื่อ Ranger เช่นเดิม ลงตัวด้วยไฟหน้า Projector แบบ HID พร้อมไฟ LED daytime ในโคมเดียวกัน กันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกออกแบบใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60 R18 ลายเดิมสีทูโทน ในรุ่น Wildtrak และสีเงินในรุ่น Limited กับขนาด 17 นิ้วลายใหม่พร้อมยางขนาด 265/65R17 ในรุ่น XLT และขนาด 16 นิ้ว ทั้งแบบล้ออัลลอยพร้อมยาง 255/70 R16 กับล้อเหล็กพร้อมยาง 215/70 R16 ในรุ่น XLS ,XL+, XL ส่วนด้านท้ายยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแต่เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ ทั้งฝาท้าย Easy Lift ทำให้การเปิดและปิดกระบะท้ายง่ายและสะดวกขึ้นในรุ่น Limited และ Wildtrak

 

Ford Ranger

ภายในมีออพชั่นแตกต่างกันแต่ละรุ่นทั้ง กุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทรถได้รวดเร็วยิ่งขึ้น หัวเกียร์อัตโนมัติดีไซน์ใหม่ บันเทิงทันสมัยด้วยระบบ Infotainment SYNC 3 พัฒนาใหม่มีเมนูภาษไทย หน้าจอสี Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว พร้อมเมนูและสั่งงานด้วยภาษาไทย รองรับ Apple CarPlay, Android Auto ระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถ ยังมีระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC® และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ พร้อมลำโพง 6 ตัว ชาร์จมือถือและใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างจุใจด้วยช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสสลับ AC 230 V พร้อม พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPAS) โดยระบบจะปรับให้พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาเมื่อขับความเร็วต่ำและปรับเน้นความแม่นยำเมื่อขับที่ความเร็วสูง โดยมีการตั้งค่าที่แตกต่างกันไปตามความเร็วของรถ

Ford Ranger MY2019 มีสีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (เฉพาะรุ่น Raptor) สีส้มเซเบรอ (เฉพาะ ) สีเทาเมทีออร์ เกรย์ เมทัลลิค (เฉพาะรุ่น Wildtrak, Limited และรุ่น XLT) สีดำแอพโซลูท สีขาวอาร์กติก ไวท์ สีเงินอะลูมิเนียม เมทัลลิค สีแดงทรู เร้ด และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (ยกเว้น รุ่น Wildtrak และรุ่น XL)

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ