จีนกำลังส่งรถออกมากขึ้น แต่นำเข้าน้อยลง อุตสาหกรรมยานยนต์จีนกลายเป็นถนนเดินทางทางเดียว

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 1 ก.ค. 68 22:05
  • 1,112 อ่าน

อุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนกำลังขยายตัวในทิศทางที่ไม่ตรงกับที่หลายประเทศตะวันตกคาดหวัง จากเดิมที่เคยเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย แต่วันนี้จีนกลายเป็น “ผู้ส่งออกมหาอำนาจ” ในขณะที่การนำเข้ารถยนต์กลับหดตัวอย่างเห็นได้ชัด

ข้อมูลล่าสุดจาก China Automobile Dealers Association (CADA) ระบุว่า การนำเข้ารถยนต์ในเดือนพฤษภาคมลดลง 25%เหลือราว 47,000 คัน ขณะที่ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีลดลงถึง 33% เหลือแค่ 180,000 คัน และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ ยอดนำเข้ารถจากสหรัฐอเมริกาลดลงถึง 68% ในเดือนเดียว

นำเข้าน้อยลงเพราะอะไร ปัจจัยหลักมาจากทั้ง ภาษีศุลกากร และ สงครามการค้าที่ยังไม่จบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการกลับมาของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐอีกครั้ง แม้ทั้งสองประเทศจะตกลง “หยุดพัก 90 วัน” ไม่ขึ้นภาษีเพิ่มเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่ภาษีที่มีอยู่เดิมก็ยังสูง เช่น:
* รถสหรัฐเครื่องยนต์เกิน 2.5 ลิตร ถูกเก็บภาษี 25%
* รถเครื่องยนต์เล็กกว่านั้นยังถูกเก็บ 15%
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ เองก็เพิ่งประกาศกฎใหม่ที่ “ห้ามนำเข้า” ยานยนต์ที่ใช้ซอฟต์แวร์จากประเทศที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคง (ซึ่งหมายถึงจีนโดยตรง) ซึ่งอาจกลายเป็น อุปสรรคถาวร ต่อการส่งออกรถจากจีนไปยังสหรัฐ

ขายไม่ได้นำเข้า ก็ส่งออกแทน ซึ่งในทางกลับกัน ยอดส่งออกรถยนต์จากจีนยังคงทะยานไม่หยุด:
* ส่งออกรวม 2.83 ล้านคัน ในช่วง 5 เดือนแรกของปี (เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน)
* เดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว ส่งออกถึง 682,000 คัน
* ในจำนวนนี้ รถยนต์พลังงานใหม่ (BEV และ PHEV) เพิ่มขึ้น 43% คิดเป็น 296,000 คัน

ตลาดหลักของรถจีนไม่ใช่ประเทศพัฒนาแล้วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศกำลังพัฒนา เช่น:
* บราซิล (35,478 คัน)
* เบลเยียม (30,405 คัน)
* ฟิลิปปินส์ (21,517 คัน)
* อังกฤษ (21,456 คัน)
* เม็กซิโก และออสเตรเลีย

จีนกำลังกลายเป็น “มหาอำนาจส่งออกรถ” ที่ไม่สนการนำเข้า จากเดิมที่ตลาดรถยนต์จีนเคยพึ่งพารถนำเข้าแบรนด์ยุโรปและอเมริกา ปัจจุบันกลับกลายเป็น แหล่งผลิตและส่งออกหลักของโลก โดยเฉพาะในหมวดรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีทั้งราคา การผลิตจำนวนมาก และการสนับสนุนจากภาครัฐ

หากแนวโน้มยังดำเนินเช่นนี้ต่อไป อุตสาหกรรมรถยนต์โลกจะเปลี่ยนสมดุล จากที่เคยมีจีนเป็นลูกค้าอันดับต้น ๆ กำลังจะกลายเป็นคู่แข่งเบอร์หนึ่งที่ทั้งผลิต ขาย และแข่งขันได้ในเกือบทุกตลาด

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ