ศัพท์ระบุประเภทของรถยนต์ที่ควรรู้

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 19 พ.ค. 60 00:00
  • 66,643 อ่าน

เวลารถรุ่นใหม่ๆออกมา นอกจากจะบอกยี่ห้อ,ชื่อรุ่น ออกมาแล้ว มักจะมีคำที่ระบุประเภทของรถยนต์ใหม่คันนั้นมาด้วยเสมอ เช่น MPV, Crossover, Eco Car เป็นต้น หลายคำก็พอจะเข้าใจได้ แต่บางคำก็ทำเอาคนอ่านงงได้เหมือนกัน วันนี้เราลองมาดูกันหน่อยว่า แต่ละประเภทของรถมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง พอเป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆที่อ่านบทความนี้จะได้รู้ลึกมากขึ้นครับ

Eco Car

Eco Car
คำนี้เราได้ยินมาหลายปีแล้วกับคำว่า Eco Car ซึ่งถ้าโดยทั่วไปหลายคนก็เข้าใจว่าคือรถยนต์ขนาดเล็กราคาประหยัด ซึ่งคำว่า Eco หลายคนคิดเอาเองว่าหมายถึง Economy แปลว่า รถราคาย่อมเยา แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมาจากคำว่า Ecology แปลตรงตัวว่า ระบบนิเวศ แปลโดยรวมก็หมายถึงรถยนต์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมนั่นเอง ตามหลักการแล้วรถยนต์ที่จะถูกระบุเป็น Eco Car ได้ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. ต้องมีอัตราการใช้น้ำมันในระดับ 20 กิโลเมตร/ลิตร ขึ้นไป
2. มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ต่ำกว่า 120 กรัม/กิโลเมตร
3. ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยในการชนด้านหน้าและด้านข้าง ระดับสูง ตามมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป
4. เครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบเบนซิน มีขนาดไม่เกิน 1,300 ซีซี และเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบดีเซล มีขนาดไม่เกิน 1,400 ซีซี
ถ้ารถยนต์คันไหนผ่านมาตรฐานทั้ง 4 ข้อนี้ ก็สามารถรับสิทธิพิเศษทางด้านภาษีสรรพสามิตเหลือเพียง 17% จากเดิม 30%-50% สำหรับรถเก๋งที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง

 

Sedan

Sedan
รถยนต์แบบ Sedan ก็หมายถึงรถเก๋งทั่วไปอย่างเช่น Toyota Corolla, Honda Civic, Mazda 2 เป็นต้น ซึ่งเมื่อก่อนเรียกรวมๆรถเก๋งว่าเป็น Sedan ทั้งหมด แต่ภายหลังเริ่มมาแยกว่า รถยนต์ Sedan หมายถึงรถยนต์ 4 ประตูแทนแล้วครับ

 

Coupe

Coupe
คูเป้เป็นคำนิยามที่หมายถึงรถยนต์ประเภทรถเก๋งเหมือนกัน แต่จะมีเพียงแค่ 2 ประตูเท่านั้น

 

hATCHBACK

Lift Back, Hatch Back
ทั้ง 2 คำนี้อาจจะดูคล้ายๆกันในแง่ที่ว่า มันคือรถเก๋งที่มีประตูเพิ่มมาในด้านท้าย เป็นประตูที่ 3 หรือที่ 5 ก็แล้วแต่ว่าด้านข้างของรถคันนั้นจะมีกี่ประตู แต่รถยนต์แบบ Lift Back จะมีท้ายที่ลาดเอียงเหมือนกับรถยนต์ Sedan ทั่วไป แต่ฝาท้ายจะกลายเป็นชิ้นเดียวกันกับกระจกด้านหลัง เวลายกขึ้นแล้วจะเปิดกว้างมาทั้งบาน อย่าง MG6 เป็นต้น ส่วน Hatch Back จะเป็นบานท้ายที่ตัดตรงลงมามากกว่า อย่างเช่น Ford Fiesta, Toyota Yaris เป็นต้น

 

SUV
คำว่า SUV ย่อมาจาก Sport Utility Vehicle หรือ Suburban utility vehicle บางคนจะเรียกมันว่ารถตรวจการณ์ เน้นการใช้งานค่อนข้างสมบุกสมบัน สามารถขนคนได้ มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยรถ SUV ในยุคแรกจะเป็นพวก Jeep Willy, Jeep Wrangler ต่อมาก็เริ่มขยายไปยังยี่ห้อต่างๆอย่างเช่น Land Rover เป็นต้น ขนาดรถจะดูค่อนข้างใหญ่ นั่งสบาย มี 5 ประตู แต่ไม่ถึงกับระบุว่าต้องนั่งได้กี่ที่นั่ง ถ้าตามต้นแบบของรถยนต์แบบ SUV จะมีพื้นฐานเดียวกับรถกระบะแล้วดัดแปลงมาเป็นรถยนต์นั่ง แต่ภายหลังบริษัทรถยนต์ได้ปรับให้ใช้พื้นฐานจากรถเก๋งเพื่อเพิ่มความนั่งสบายเข้าไป แล้วเรียกว่า SUV และเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนหลายคนคิดว่ารถยนต์ SUV ต้องมีพื้นฐานมาจากรถเก๋ง

 

PPV
Pick-Up Passenger Vehicle หรือ PPV ในความเป็นจริงแล้วมันก็คือรถยนต์ SUV นั่นเอง ซึ่งคำว่า PPV เป็นการเรียกระบุให้ชัดเจนว่ารถคันนั้นพัฒนาพื้นฐานมาจากรถอะไร ตามความหมายตรงตัวของ PPV ก็คือ รถยนต์นั่งที่พัฒนามาจากตัวรถกระบะนั่นเอง อย่างเช่น Toyota Fortuner, Isuzu MU-X เป็นต้น ซึ่งจริงๆแล้วคำว่า PPV จะเป็นที่นิยมของคนไทยที่ใช้กัน แต่ของต่างประเทศก็ยังคงใช้ว่า SUV เช่นเดิม

 

Crossover

Crossover
อีกคำที่เพิ่งเริ่มเรียกกันไม่นานนี้อย่าง Crossover ที่ย่อมาจาก Crossover Utility Vehicle หรือที่ต่างประเทศเรียกกันว่า CUV ถ้าเอาตามนิยามที่แท้จริงแล้ว CUV จะเป็นรถที่ดัดแปลงมาจากรถยนต์แล้วเสริมออพชั่นต่างๆให้วิ่งลุยได้เหมือน SUV ที่มีโครงสร้างพื้นฐานมาจากกระบะ ทำให้นั่งได้นุ่มนวลมากกว่าเดิม ลุยแบบสมบุกสมบันได้พอสมควร แต่อาจจะไม่เท่ากับ SUV แท้ อย่างเช่น Honda CR-V, Chevrolet Captiva เป็นต้น หลายคนอาจจะบอกว่า รถแบบนี้มันเรียกว่า SUV ไม่ใช่เหรอ คำตอบคือใช่ครับตามแบบคนไทย แต่เอาที่เนื้อแท้แล้วมันคือ Crossover ครับ

 

MPV

MPV
Multi-Purpose Vehicle หรือเรียกง่ายๆว่า MPV แปลตรงตัวก็คือรถยนต์ที่ใช้งานได้หลากหลาย แต่ความเป็นจริงแล้วมันก็ไม่ได้หลากหลายขนาดนั้น เพราะมันเอาไว้เน้นใช้งานในการขนคนโดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้มากขนาดรถตู้ เน้นที่ความสะดวกสบายของผู้โดยสารที่นั่งมากกว่า ตัวอย่างที่เรียกเป็น MPV ได้ก็เช่น Hyundai H-1, Honda Odyssey, Toyota Alphard เป็นต้น

 

Sport Car

Sport Car
พอชื่อมันขึ้นด้วยกีฬา แน่นอนล่ะครับว่ามันเน้นใช้งานแบบการแข่งขันจริงๆ มักจะเป็นรถยนต์ขนาด 2 ที่นั่ง มีขนาดกะทัดรัด เครื่องแรง และการควบคุมที่ดีเยี่ยม รวมทั้งน้ำหนักตัวรถที่ไม่มาก เน้นความคล่องตัว มุดไปตามทางต่างๆได้ด้วยความแรงจากตัวเครื่อง ซึ่งอาจจะหรูหราหรือดูแข็งแกร่งก็ได้ อย่างเช่น Mazda MX-5, Porsche 959, Subaru BRZ เป็นต้น

 

Muscle Car

Muscle Car
ส่วนใหญ่แล้วคำว่า Muscle Car จะนิยามกับรถยนต์สไตล์อเมริกันโดยเฉพาะ หมายถึงรถยนต์ที่มีเครื่องกำลังแรงมากๆ มีสูบเยอะๆระดับ V6, V8 มี 2 ประตูแต่คันใหญ่กว่ารถเก๋ง Sedan ทั่วๆไป ตัวอย่างเช่น Ford Mustang, Chevrolet Camaro,  Dodge Charger เป็นต้น

 

Supercar

Supercar
Super ถ้าแปลตรงตัวมันก็หมายถึงชั้นพิเศษ, เกินปกติ อยู่แล้ว ดังนั้นนิยามของคำว่า Supercar ก็ย่อมจะเป็นรถที่อยู่ในระดับพิเศษเกินธรรมดาแน่นอน โดยรถจำพวกนี้จะเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะของเครื่องยนต์ในระดับสูง เสริมด้วยความหรูหราอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่า ราคาก็ย่อมสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปอยู่หลายเท่าตัวนัก และรถพวกนี้มักจะผลิตขึ้นมาในจำนวนที่จำกัด หรือบางคันจะเป็นการสั่งก่อนแล้วค่อยผลิตด้วยซ้ำ รถยนต์ที่เป็น Supercar ก็เช่น Porsche 918 Spyder, Koenigsegg Agera R, Lamborghini Huracan เป็นต้น

 

จริงๆแล้วคำศัพท์ที่ใช้แบ่งประเภทรถยังมีอีกมากมาย ทั้ง B-Segment, Full size truck, Compact car เป็นต้น แต่อาจจะไม่เป็นคำที่คุ้นสำหรับผู้อ่านทั่วไปซักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าไว้คราวหน้าจะมาอธิบายเพิ่มเติมให้อีกครั้งนะครับ

เรียบเรียงโดยทีมงาน Autodeft

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ